
15 ต.ค. นี้ “รองนายกฯ โสภณ” เปิดประชุมชี้แจง “กองทุนบัตรทอง ปี 2569”
15 ต.ค. นี้ “รองนายกฯ โสภณ” เปิดประชุมชี้แจงแนวทางบริหาร “กองทุนบัตรทอง ปี 2569” รวมพลังขับเคลื่อนหน่วยบริการในระบบบัตรทองทั่วประเทศ พร้อมมอบ “รางวัลสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยดีเด่น” หน่วยบริการที่มีผลงานเด่น จัดเวทีแลกเปลี่ยนสู่การพัฒนา สร้างระบบหลักประกันสุขภาพเข้มแข็งเพื่อคนไทยทุกคน และเดินหน้า “ยกระดับ อสม. ยุคใหม่ สู่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เพื่อสุขภาพชุมชนที่มั่นคงและยั่งยืน” โดย กรมอนามัย-สบส.- สปสช. ลงนามความร่วมมือ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ‘บัตรทอง 30 บาท' ถือเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับคนไทยทุกคนมากว่าสองทศวรรษ ตามเจตนารมณ์แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพภาครัฐรองรับ สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุม ทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งการขับเคลื่อนอันแข็งแกร่งนี้ เกิดขึ้นได้จากความร่วมของ ‘หน่วยบริการ' ในระบบทั่วประเทศที่เป็นหัวใจสำคัญ
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานกองทุนบัตรทองในปีงบประมาณ 2569 เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นี้ สปสช. จึงจัด “การประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2569” โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมกล่าวปาฐกถา “ทิศทางการยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อความยั่งยืนของระบบสุขภาพไทย” ซึ่ง นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กล่าวรายงานการจัดประชุมในครั้งนี้
สำหรับการประชุมฯ ที่มีขึ้นนั้น ในงานจะมีการบรรยายและอภิปรายในหลายหัวข้อสำคัญเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนระบบบัตรทอง อาทิ “ผลการศึกษาการประเมินหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในด้านการบริหารจัดการและนัยยะจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย” โดย ดร.ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) การอภิปราย “เสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ยั่งยืน” และการชี้แจง “จุดเน้นและประเด็นที่มีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารกองทุนปี 2569” โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. เพื่อให้ทุกหน่วยงานเข้าใจแนวทางการจัดสรรและใช้ประโยชน์จากงบประมาณได้ตรงตามวัตถุประสงค์
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ในการประชุมฯ นี้จะมีพิธีรับมอบ “รางวัลสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยดีเด่น” ให้กับหน่วยบริการและหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยฯ ในปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและระบบบริการสุขภาพของประเทศ
นอกจากยังจะมีพิธีลงนามความร่วมมือ “ยกระดับ อสม. ยุคใหม่ สู่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เพื่อสุขภาพชุมชนที่มั่นคงและยั่งยืน” ระหว่างกรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (ส.บ.ส.) และ สปสช. ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบสุขภาพเชิงรุกและการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนฯ ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีชี้แจงแนวทางการบริหารกองทุน การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบายและแนวทางบริหารงบประมาณเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ สภาวิชาชีพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพต่างๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพของไทยให้เข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างทั่วถึง
“สปสช. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ โดยอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง” เลขาธิการ สปสช. กล่าวทิ้งท้าย
– การประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2569 : วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08:30-16:00 น. ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 3–4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
– ถ่ายทอดการประชุมฯ ผ่าน Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )