การประท้วง ‘โนคิงส์' ต่อต้านทรัมป์แผ่ขยายไปทั่วสหรัฐฯ

ที่มาของภาพ : FREDERIC J. BROWN/AFP by potential of Getty Pictures

“เรือเหาะเด็ก” คล้ายใบหน้าโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในการประท้วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปรากฏตัวขึ้นในอีกครั้งที่นครลอสแองเจลิส

ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันเพื่อประท้วงนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงนครนิวยอร์ก กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชิคาโก ไมอามี และลอสแอนเจลิส

การชุมนุมที่ไทม์สแควร์ อันโด่งดังของนครนิวยอร์ก ดึงดูดผู้คนหลายพันคนไม่นานหลังการชุมนุมเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา

ตามท้องถนนและทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินแน่นขนัดไปด้วยผู้ประท้วงถือป้ายที่มีคำขวัญเช่น “ประชาธิปไตย ไม่ใช่สถาบันกษัตริย์” และ “รัฐธรรมนูญไม่ใช่ทางเลือก”

ก่อนการประท้วง พันธมิตรของทรัมป์กล่าวหาผู้ประท้วงว่าเชื่อมโยงกับขบวนการแอนติฟา ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายจัด และประณามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การชุมนุมแสดงความเกลียดชังอเมริกา”

ผู้จัดงานและผู้ประท้วงที่ออกมาประท้วงเมื่อวันเสาร์กล่าวว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นไปอย่างสงบ

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด

Cease of ได้รับความนิยมสูงสุด

กลุ่มดังกล่าวระบุบนเว็บไซต์ว่า การไม่ใช้ความรุนแรงเป็นหลักสำคัญของกิจกรรม “โนคิงส์” (No Kings) ซึ่งเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมทุกคนลดความรุนแรงที่อาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาท

ในนิวยอร์ก กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกนว่า “นี่คือประชาธิปไตย” อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงกลองที่ดังกระหึ่มอยู่เบื้องหลัง ควบคู่ไปกับเสียงกระดิ่งวัวและเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงดัง

มีเฮลิคอปเตอร์และโดรนบินอยู่เหนือศีรษะของผู้ประท้วง และตำรวจยืนดูอยู่ข้างสนาม

กรมตำรวจนิวยอร์กระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 100,000 คนรวมตัวกันเพื่อประท้วงอย่างสงบในทั้ง 5 เขตของเมือง และไม่มีการจับกุมผู้ประท้วงที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง

ที่ไทม์สแควร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ประเมินว่ามีประชาชนมากกว่า 20,000 คนกำลังเดินขบวนไปตามถนนเซเวนท์อเวนิว

ที่มาของภาพ : Stephani Spindel/VIEWpress

ผู้คนนับพันคนออกมาเดินประท้วงเต็มพื้นที่ไทม์สแควร์ ในนิวยอร์กซิตี้

เบธ ซาสลอฟฟ์ นักเขียนอิสระและบรรณาธิการ กล่าวว่า เธอเข้าร่วมการประท้วงที่นิวยอร์กเพราะรู้สึกโกรธแค้นและทุกข์ใจกับสิ่งที่เธอเรียกว่า “การเคลื่อนไหวสู่ลัทธิฟาสซิสต์และรัฐบาลเผด็จการ” ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลทรัมป์

“ฉันห่วงใยนิวยอร์กซิตี้มาก” เธอกล่าว

“มันทำให้ฉันมีความหวังที่ได้อยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ มากมายที่ออกมาร่วมกันที่นี่”

ที่มาของภาพ : Grace Eliza Goodwin/BBC

เบธ ซาสลอฟฟ์ ภูมิใจที่ได้อยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ มากมายที่ออกมาร่วมประท้วงในนครนิวยอร์ก

นับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ม.ค. ทรัมป์ได้ขยายขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดี โดยใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อยุบหน่วยงานรัฐบาลกลางบางส่วน และส่งกองกำลังรักษาดินแดนไปยังเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ แม้จะมีการคัดค้านจากผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ก็ตาม

ทรัมป์ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับสูงของรัฐบาลดำเนินคดีกับศัตรูที่เขามองว่าเป็นศัตรู

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การกระทำของเขาเป็นสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต และปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเป็นเผด็จการหรือฟาสซิสต์ โดยบอกว่าจ้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล

แต่นักวิจารณ์เตือนว่าการเคลื่อนไหวบางอย่างของรัฐบาลของทรัมป์ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยของอเมริกา

มัสซิโม มาสโคลี วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์วัย 68 ปี ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และเติบโตในอิตาลี กล่าวว่า เขาออกมาประท้วง เพราะเขากังวลว่าสหรัฐฯ กำลังเดินตามรอยเท้าเดียวกับที่ประเทศบ้านเกิดของเขาเคยทำในศตวรรษที่แล้ว

“ผมเป็นหลานชายของวีรบุรุษชาวอิตาลีที่ละทิ้งกองทัพมุสโสลินีและเข้าร่วมขบวนการต่อต้าน” นายมาสโคลีกล่าว

“เขาถูกพวกฟาสซิสต์ทรมานและสังหาร และหลังจากผ่านไป 80 ปี ผมไม่คาดคิดว่าจะพบลัทธิฟาสซิสต์ในสหรัฐอเมริกาอีก”

ที่มาของภาพ : Grace Eliza Goodwin/BBC

มัสซิโม มาสโคลี ประท้วงในนิวยอร์กซิตี้เพื่อต่อต้านสิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของลัทธิฟาสซิสต์ในสหรัฐฯ

หนึ่งในความกังวลของเป็นพิเศษนายมาสโคลีคือ การปราบปรามผู้อพยพและการตัดงบประมาณด้านสาธารณสุขของชาวอเมริกันหลายล้านคนของรัฐบาลทรัมป์

“เราไม่สามารถพึ่งพาศาลฎีกา เราไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลได้” เขากล่าวกับบีบีซี “เราไม่สามารถพึ่งพารัฐสภาได้ เรามีทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการที่ล้วนต่อต้านชาวอเมริกันในขณะนี้ ดังนั้นเราจึงต้องต่อสู้”

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา สังกัดพรรคเดโมแครต ก็เข้าร่วมการประท้วงเช่นกัน

“เราไม่มีเผด็จการในอเมริกา และเราจะไม่ยอมให้ทรัมป์กัดกร่อนประชาธิปไตยของเราต่อไป” ชูเมอร์เขียนบนเอ็กซ์ (X) พร้อมกับภาพถ่ายของเขา ขณะถือป้ายที่มีข้อความว่า “แก้ไขวิกฤตด้านสาธารณสุข”

ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ กล่าวปราศรัยต่อหน้าฝูงชนหายพันคน โดยระบุว่า “เราไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะเราเกลียดอเมริกา แต่เราอยู่ที่นี่เพราะเรารักอเมริกา”

ในการเดินขบวนที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. บีบีซีได้เห็นชายคนหนึ่งสวมหมวกที่มีสโลแกนของทรัมป์ “Draw American Nice All once more” (ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง) เขากล่าวว่าเขามาเยี่ยมเยียนเมืองนี้ และตัดสินใจไปดูการประท้วง

ชายคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ แต่บอกว่า ถึงแม้เขาจะ “ไม่เข้าใจ” การประท้วง แต่ผู้คนก็สุภาพเรียบร้อย ทว่าไม่นานหลังจากนั้น หญิงคนหนึ่งตะโกนใส่เขาด้วยถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม

การประท้วงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น

ทั่วทั้งยุโรป ยังมีการเดินขบวนประท้วงในกรุงเบอร์ลิน มาดริด และโรม ซึ่งประชาชนแสดงความสามัคคีกับพันธมิตรชาวอเมริกัน ในกรุงลอนดอน ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันหน้าสถานทูตสหรัฐฯ

มีเหตุการณ์คล้ายคลึงกันในโตรอนโต ประเทศแคนนาดา ซึ่งมีผู้ประท้วงใกล้สถานกงสุลสหรัฐฯ โบกป้ายที่มีข้อความว่า “อย่ามายุ่งกับแคนาดา”

ที่มาของภาพ : Wiktor Szymanowicz/Future Publishing by potential of Getty Pictures

ผู้ประท้วงรวมตัวกันนอกสถานทูตสหรัฐฯ ในลอนดอนเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นในอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักงานข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งมีกำหนดออกอากาศในวันอาทิตย์ แต่มีตัวอย่างให้ชมในวันเสาร์ ทรัมป์ดูเหมือนจะกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับการชุมนุมที่กำลังจะมาถึง

“กษัตริย์อะไรกัน! นี่ไม่ใช่การแสดงละครนะ” ทรัมป์กล่าวในคลิปตัวอย่างของการสัมภาษณ์ “คุณรู้ไหม พวกเขากำลังเรียกผมว่ากษัตริย์ ผมไม่ใช่กษัตริย์”

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างคำกล่าวของ โรเจอร์ มาร์แชลล์ วุฒิสมาชิกรัฐแคนซัส ที่ว่า “เราจะต้องนำกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติออกไป” และ “หวังว่าการประท้วงจะเป็นไปอย่างสันติ แต่ผมไม่เชื่ออย่างนั้นหรอก”

ผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกันในหลายรัฐของสหรัฐฯ ได้ส่งกำลังทหารรักษาดินแดนแห่งชาติเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการประท้วง

เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติประจำรัฐของเขาประจำการในวันพฤหัสบดี โดยกล่าวว่าจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเหล่านี้เนื่องจาก “การประท้วงที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแอนติฟาที่วางแผนไว้” ในออสติน

การเคลื่อนไหวด้านการทหารดังกล่าวถูกประณามโดยพรรคเดโมแครต ซึ่งโต้แย้งว่า “การส่งทหารติดอาวุธไปปราบปรามการประท้วงอย่างสันติเป็นสิ่งที่กษัตริย์และเผด็จการทำ และ เกร็ก แอ็บบอตต์ เพิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้น”

เกล็นน์ ยังกิน ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียจากพรรครีพับลิกัน ยังได้สั่งให้มีการใช้งานกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติของรัฐ แม้ว่ารายงานในท้องถิ่นจะระบุว่าไม่มีทหารอยู่ในระหว่างการชุมนุมประท้วงก็ตาม

ที่มาของภาพ : Reuters

สีสันการแต่งตัวและเต้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติได้ถูกส่งไปประจำการตั้งแต่เดือน ส.ค. ตามคำร้องขอของทรัมป์ กลับไม่มีทหารปรากฏตัวในการประท้วงเลย แม้ว่าจะมีตำรวจท้องที่อยู่ก็ตาม

ผู้ประท้วงคนหนึ่งในการชุมนุมที่เมืองหลวงชูป้ายที่มีข้อความว่า “ผมคือแอนติฟา”

ชัค เอเปส วัย 76 ปี กล่าวว่า คำนี้เป็นคำที่ “มีความหมายแฝง” และหมายถึงเขาสนับสนุน “สันติภาพ การดูแลเด็ก ค่าจ้างที่พอเลี้ยงชีพ การดูแลสุขภาพ” รวมถึงผู้อพยพและคนผิวสี

“เขากำลังลวงลวงทุกคน หรือพยายามทำจะทำเช่นนั้น แต่มันไม่ได้ผล” เขากล่าว

ชาวอเมริกันมีความคิดเห็นแตกแยกอย่างรุนแรงต่อโดนัลด์ ทรัมป์

ผลสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์ส/อิปซอส (Reuters/Ipsos) พบว่า มีเพียง 40% ที่เห็นชอบกับผลงานของเขาในฐานะประธานาธิบดี ขณะที่ 58% ไม่เห็นด้วย ซึ่งทำให้เขาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับคะแนนนิยมเฉลี่ยในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรก แต่ต่ำกว่าคะแนนนิยม 47% เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งที่สองในเดือน ม.ค.

ทั้งนี้เป็นเรื่องปกติที่ประธานาธิบดีจะไม่ได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อวาระของตนหมดลง โจ ไบเดน ได้รับคะแนนนิยม 55% ตามรายงานของ Reuters/Ipsos ในเดือน ม.ค. 2021 แต่ในเดือน ต.ค.ของปีนั้น คะแนนนิยมของเขาลดลงเหลือ 46%

รายงานเพิ่มเติมโดย แอนนา ฟากาย

คำบรรยายวิดีโอ, รับชม: ผู้ประท้วงรวมตัวกันประท้วง “โนคิงส์” (No Kings) ต่อต้านทรัมป์