
DSI จับหญิงร่วมขบวนการองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตั้งบริษัทปลอม-เปิดบัญชีม้ารับโอนเงินจากการลวงขายสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง-เร่งจับผู้ต้องหาร่วมขบวนการอีก 9 ราย หลังจับมาแล้ว 15 ราย
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมนางสาวจรรยา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3043/2568 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 คดีพิเศษที่ 118/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ หน้าบ้านในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 118/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยนางสาวจรรยา เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 15 จากจำนวน 24 ราย ซึ่งมีพฤติการณ์ เป็นผู้ร่วมขบวนการลวงลวงให้มีการจดทะเบียนบริษัท และนำเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับโอนเงินจากการลวงลวงขายสินค้าที่ไม่มีอยู่จริงทางโซเชียลกว่า 30 บริษัท
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจตรี จตุพล บงกชมาศ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )













