
ชื่อ “บัวผุด” อาจได้มาจากการปรากฏตัวอันแปลกประหลาดที่จู่ ๆ ดอกไม้ขนาดมโหฬารก็โผล่ขึ้นกลางผืนป่า เหมือนผุดขึ้นมาจากดินโดยไม่มีทั้งต้น ไม่มีทั้งใบ มีแต่ดอกใหญ่โดดบานให้เห็น
.
แต่ถ้ามองใกล้อย่างละเอียด จะเห็นว่ารอบดอกที่กำลังบานอยู่นั้นมีหน่อของดอกอื่นเตรียมตัวที่จะบานเป็นลำดับต่อไป เกาะติดอยู่กับเถาของต้นองุ่นป่าเรียงรายตามพื้น เป็นเรื่องน่าฉงนที่อยู่ ๆ ดอกไม้นี้ปรากฎบนพื้นป่าได้อย่างไรกัน?
.
ถ้าย้อนเวลาไปจะเห็นว่ามันเริ่มมาจาก วันดีคืนดีรากขององุ่นป่าก็มีปุ่มปมเล็กขนาดเท่าเหรียญปรากฎขึ้น และตุ่มนั้นค่อย ๆ โตขึ้นจนมีขนาดเท่าหัวกะหล่ำผุดขึ้นเหนือพื้นดิน รวมตั้งแต่ดอกจิ๋วจนถึงเท่ากะหล่ำต้องใช้เวลาถึง 9 เดือนในการเจริญเติบโต
.
หลังจากฟักตัวอยู่ 9 เดือน กลีบดอกทั้งห้าก็คลี่ออก เปิดให้เห็นกำบังดอกสีแดงขนาดลูกฟุตบอล ภายในมีจานดอกเต็มไปด้วยหนามขนาดใหญ่ พร้อมกันกลิ่นเน่าก็ขจรกระจายไปดึงดูดแมลงวันมากมายให้หลงมาผสมเกสร จึงกลายเป็นที่มาของชื่อฝรั่งคือดอกไม้ศw (corpse lily)
.
และในเวลาแค่ไม่เกินสัปดาห์หลังจากดอยไม้เผยอกลีบ บัวผุดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำและเน่าผุพังกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินดำใต้ป่าดิบครึ้ม รอวันให้เถาองุ่นป่าดูดซึมไปและนำไปหล่อเลี้ยงดอกอื่นต่อไปอีกครั้งหนึ่ง ทิ้งไว้เพียงปริศนาที่นักวิทย์พยายามหาคำตอบมาเนิ่นนาน ดอกบัวผุดกระจายเมล็ดได้อย่างไรกัน?
.
การกระจายเมล็ดของเจ้าดอกบัวผุดยังเป็นความลี้ลับ เมื่อดอกย่อยสลายไปจนเหลือผลตรงกลางปรากฎขึ้นมา ภายในถูกบรรจุไว้ด้วยเมล็ดเล็กจิ๋วขนาดเล็กกว่าเมล็ดงามากมายหลายพันเมล็ด เมล็ดพวกนี้มันเดินทางไปหาเถาองุ่นป่าได้อย่างไร ?
.
นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเมล็ดจิ๋วนี้ ถูกพาโดยสัตว์กีบอย่างเก้งกวาง หรือหมูป่า ที่บังเอิญเดินผ่านมาเหยียบแล้วพาเมล็ดติดกีบไปฝังยังเถาขององุ่นป่าต้นอื่นต่อไป
.
มีแม้กระทั่งสมมุติฐานว่าสัตว์ขาข้อในดินอย่างตะขาบหรือกิ้งกือเป็นผู้พาเมล็ดไป หรือนักวิทย์บางคนก็เชื่อว่ามันถูกพาไปเก็บไว้ในรังใกล้รากองุ่นป่าโดยมด ผ่านการซื้อใจด้วยน้ำมันเล็กน้อยที่มีอยู่ในเมล็ด เหมือนกับเมล็ดของต้นไวโอเล็ตที่มีน้ำมัน ก็อาศัยมดเป็นผู้พาเมล็ดไปเช่นเดียวกัน
.
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามดคือผู้กระจายเมล็ดพันธุ์ดอกไม้นี้จริง ๆ ดังนั้น จนบัดนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าดอกไม้นี้ย้ายเมล็ดเล็กจิ๋วของตัวเองไปฝังอยู่กับพืชอาศัยได้อย่างไรกัน
.
เรื่อง#nationalgeographicthailanf .
อ่านเรื่องราวของดอกบัวผุดเพิ่มเติมได้ที่ https://ngthai.com/science/74933/rafflesia-ecology/
.
บัวผุด ดอกบัวผุด พฤกษศาสตร์ #NationalGeographicThailanf
RSS)
ที่มา : National Geographic Thailand's