‘ชาวบ้าน’นำ‘ปทส.’ชี้จุดเก็บ‘ตัวอย่างน้ำ’ ประกอบสำนวนคดี‘บ่อเก็บกากแร่’เหมืองทองรั่วปี 58

‘กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรฯ’ นำคณะพนักงานสอบสวนฯ ‘ปทส.’ ชี้จุดเก็บ ‘ตัวอย่างน้ำ’ ประกอบสำนวนคดี ‘บ่อเก็บกากแร่’ เหมืองทอง ‘อัคราฯ’ รั่วไหลปี 58

……………………………..

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สิงหา เเสไพศาล สารวัตร(สอบสวน) กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ในฐานะพนักงานสอบสวนฯ ลงพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานฯ กรณีที่มีการร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนและดำเนินคดีกับ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส

กรณี บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เป็นผู้ครอบครองสารพิษอันตราย และเป็นผู้ทำให้รั่วไหลออกสู่ภายนอกพื้นที่ทำการเหมืองแร่ทองคำ ปนเปื้อนแหล่งน้ำ และที่อยู่อาศัยของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.237 เหตุเกิดที่บริเวณนาข้าวและบ่อป่าบัว ใกล้กับบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 2 (TSF 2) ของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ท้องที่ ม.3 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 24-25 ก.พ.2558

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตัวแทนจากกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ นำโดยนางอารมย์ คำจริง นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ และนายปรีชา แสนจันทร์ เป็นต้น รวมถึงผู้แทนจาก บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ร่วมลงพื้นที่นำชี้จุด บริเวณนาข้าวและบ่อป่าบัว ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาเจ็ดลูก ซึ่งเป็นจุดที่มีการระบุว่า พบน้ำผุดและพบสารพิษอันตราย ซึ่งคาดว่าน่าจะรั่วไหลมาจากบ่อกักกากแร่ที่ 2 ของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เมื่อปี 2558

พ.ต.ท.สิงหา กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนในคดีอาญาที่ 2/2566 นำหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ไปชี้จุดที่มีการเก็บตัวอย่างน้ำ เมื่อปี 2558 ตามที่ผู้ร้องได้ร้องว่ามีการตรวจพบสารพิษ ซึ่งคาดว่าน่าจะรั่วไหลออกมาจากบ่อกักเก็บกากแร่ฯของเหมืองทองคำ ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนฯ จะนำพยานหลักฐานที่ได้จากการนำชี้รวบรวมเข้าไว้ในสำนวนการสอบสวน เพื่อพิจารณาสรุปสำนวนต่อไป

“เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเสร็จแล้ว คณะพนักงานสอบสวนฯจะพิจารณาว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง ถ้ามีหลักฐานก็สั่งฟ้อง ถ้าพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็สั่งไม่ฟ้อง ซึ่งในขั้นตอนนี้ เราต้องมานั่งพิจารณาพยานหลักฐานกันก่อน แล้วจึงทำความเห็น เมื่อทำความเห็นเสร็จแล้ว ก็นำเสนอให้อัยการต่อไป” พ.ต.ท.สิงหา กล่าว

คดีนี้ สืบเนื่องมาจากกลุ่มปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เข้ายื่นหนังสือคำร้องผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้สอบสวนและดำเนินคดีกับ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เนื่องจากเมื่อปี 2558 ได้เกิดน้ำผุดในแปลงนาข้าวในช่วงฤดูแล้ง โดยจุดที่พบน้ำผุดดังกล่าวอยู่ใกล้กับบริเวณพื้นที่บ่อกักกากแร่ที่ 2 ของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของหลายหน่วยงาน พบสารพิษอันตรายในบริเวณนี้

ต่อมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ บก.ปทส. ดำเนินการสอบสวน โดยรับเป็นคดีอาญาที่ 2/2566 ไว้ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนแต่เพียงฝ่ายเดียว ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการสืบสวนกรณีบ่อกักเก็บกากแร่ ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส รั่วไหล โดยรับเป็นเรื่องสืบสวนที่ 11/2566 ซึ่งล่าสุด DSI ได้สั่งยุติเรื่องสืบสวนฯแล้ว