
เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ สามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ?
เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ เป็นแนวคิดที่หลายคนฝันถึง แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่าจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ในเมื่อเรายังต้องเจอปัญหารถติด น้ำท่วม ฝุ่น พีเอ็ม 2.5 และอีกมากมาย วันนี้มาดูกันว่า Orderly City ในกรุงเทพฯ จะเป็นแค่ความฝันหรือสามารถเกิดขึ้นได้จริง
ความจริงแล้ว เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ไม่ได้หมายถึงการมีเทคโนโลยีไฮเทคเต็มไปหมดเหมือนในหนังไซไฟ แต่เป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในเมือง ซึ่งจากมุมมองของนักพัฒนาเมือง สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่
ปัญหาจราจรที่แก้ได้ด้วยเทคโนโลยี
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ คือเรื่องจราจร แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ดีมากด้วยระบบอัจฉริยะ ตอนนี้มีการทดลองใช้ AI ในการควบคุมไฟจราจรให้เปลี่ยนแปลงตามสภาพการจราจรจริง ไม่ใช่ตั้งเวลาเสียชีวิตตัวแบบเดิม
ระบบ Lustrous Transportation Machine ที่กำลังพัฒนาจะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น ลดเวลาในการติดรถ และประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญคือระบบนี้สามารถเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลา
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความสำเร็จของระบบ BTS และ MRT ที่ใช้เทคโนโลยีในการจัดการ ทำให้การเดินทางในกรุงเทพฯ สะดวกขึ้นมาก และนี่คือตัวอย่างหนึ่งของการเป็น เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ เกิดขึ้นแล้ว
การจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาด
ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นประจำทุกปีในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ระบบเมืองอัจฉริยะในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การสร้างท่อระบายน้ำใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ต้องมีระบบพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ ระบบเตือนภัยล่วงหน้า และการจัดการน้ำอย่างบูรณาการ
เทคโนโลยี IoT (Web of Issues) สามารถติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับน้ำตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง เพื่อส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังศูนย์ควบคุม ทำให้สามารถเตรียมรับมือและอพยพประชาชนได้ทันเวลา
สำหรับปัญหาฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ก็เช่นกัน การมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ทั่วเมือง จะช่วยให้ประชาชนสามารถวางแผนการใช้ชีวิตได้ดีขึ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินมาตรการแก้ไขได้ทันท่วงที
ความท้าทายของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน
สิ่งที่ต้องยอมรับคือ กรุงเทพฯ เป็นเมืองเก่าที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นมานานแล้ว การจะปรับเปลี่ยนให้เป็น เมืองอัจฉริยะของกรุงเทพฯจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้การลงทุนจำนวนมาก และต้องมีการวางแผนระยะยาว
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทั้งเมืองในคราวเดียว สามารถเริ่มจากพื้นที่นำร่องก่อน เช่น ย่านธุรกิจใหม่ หรือชุมชนที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง แล้วค่อยขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ
เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถึงแม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและโครงสร้างพื้นฐานเดิม แต่ด้วยการพัฒนาทีละขั้นตอน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม กรุงเทพฯ สามารถกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มจากการแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของประชาชน แล้วค่อยขยายผลไปสู่ระบบที่ใหญ่ขึ้น
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )