8 เรื่องที่ โดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนจะทำในวันแรกที่หวนคืนสู่ทำเนียบขาว

ที่มาของภาพ, Getty Images

เมื่อ 4 ชั่วโมงที่แล้ว

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวคำสัญญาว่าเขาจะ “ทำให้ผู้คนหัวหมุน” ในวันแรกที่หวนกลับสู่ทำเนียบขาวในวันนี้ (20 ม.ค.) ด้วยการลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47

เขาได้ให้ภาพรวมบางส่วนของคำสั่งที่ยังไม่ได้ลงนามเหล่านี้ โดยบอกว่าเป็นคำสั่งที่จะพุ่งเป้าในประเด็นอย่างเช่น การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย กฎเกณฑ์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ นโยบายด้านความหลากหลาย เอกสารที่เป็นความลับ และอีกมากมาย

เป็นเรื่องปกติที่ประธานาธิบดีจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารหลายคำสั่งเมื่อเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารเหล่านี้จะมีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็อาจถูกยกเลิกได้โดยประธานาธิบดีคนถัดไปหรือด้วยคำสั่งศาล

ทว่าคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์จะประกาศออกมาอาจมีจำนวนมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคาดว่าอาจเกิดการโต้แย้งทางกฎหมายต่อคำสั่งเหล่านั้นตามมา

ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราทราบ เกี่ยวกับเรื่องที่ทรัมป์วางแผนจะทำในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง

Skip เรื่องแนะนำ and continue readingเรื่องแนะนำ

Waste of เรื่องแนะนำ

ผู้อพยพและกิจการชายแดน

การเนรเทศ

ทรัมป์ประกาศว่าจะ “เริ่มโครงการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่เขากลับสู่ทำเนียบเขา

ตามการรายงานของฟ็อกซ์นิวส์ คาดว่าทรัมป์จะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านชายแดน และสั่งการให้ทหารตรึงกำลังตามแนวชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ

เขากล่าวด้วยว่า เขาจะยกเลิกนโยบายที่มีมาอย่างยาวนานที่ห้ามมิให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐต่าง ๆ บุกเข้าตรวจสอบโบสถ์และโรงเรียน

คาดว่าโครงการเนรเทศครั้งใหญ่จะเผชิญกับอุปสรรคด้านการขนส่งลำเลียง มีต้นทุนมหาศาลหลายพันล้านดอลลาร์ และการโต้แย้งทางกฎหมาย

นโยบาย “อยู่ในเม็กซิโก”

ทรัมป์อาจรื้อฟื้นนโยบาย “อยู่ในเม็กซิโก (Remain in Mexico)” ของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก ทรัมป์ได้ส่งผู้ขอลี้ภัยที่ไม่ใช่ชาวเม็กซิกันประมาณ 70,000 คน ข้ามพรมแดนกลับไปยังเม็กซิโกเพื่อรอการพิจารณาคดี

ยกเลิกการให้สัญชาติโดยกำเนิด

ทรัมป์ได้กล่าวถึงสิทธิตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน 150 ปี ซึ่งระบุว่าใครก็ตามที่เกิดในแผ่นดินสหรัฐฯ ให้ถือว่าเป็นพลเมืองอเมริกันว่า เป็น “เรื่องน่าตลกขบขัน” และประกาศว่าจะยกเลิกสิทธิดังกล่าวในวันแรกที่กลับมาเป็นประธานาธิบดี

แต่การเพิกถอนสิทธิดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารได้ง่าย ๆ เพราะสิทธิในการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดถือเป็นสิ่งที่รับรองไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

ปิดชายแดนด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุข

มาตรการเมื่อปี 1944 หรือที่เรียกว่าบรรพ 42 อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการอพยพเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนได้ มาตรการดังกล่าวเคยใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทว่าสื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลที่กำลังจะเข้าปฏิบัติหน้าที่กำลังมองหาโรคภัยเพื่อให้ความชอบธรรมกับแผนที่พวกเขาจะปิดชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ที่ติดกับเม็กซิโก

แก๊งค้ายาเสพติด

คาดการณ์ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะกำหนดให้แก๊งค้ายาเสพติดถือเป็น “องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ” โดยจัดให้แก๊งค้ายาเข้าไปอยู่ในบัญชีเดียวกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มที่ถูกเรียกว่ารัฐอิสลาม และกลุ่มฮามาส

เดินหน้าสร้างกำแพงกั้นชายแดน

ตอนที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งสมัยแรกเมื่อปี 2016 เขาเซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารให้สร้างกำแพงกั้นชายแดน ถึงแม้ว่าจะมีบางส่วนที่ก่อสร้างไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์อีกมาก และทรัมป์อาจต้องการทำสิ่งที่เขาได้ริเริ่มไว้ให้สำเร็จ

การค้าและเศรษฐกิจ

กำแพงภาษี

ทรัมป์ประกาศว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาที่เขาให้ไว้ว่าจะให้ความสำคัญกับภาคการผลิตในสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่ง

ในสมัยแรกที่เขาดำรงตำแหน่ง ทรัมป์ได้ออกมาตรการทางภาษีมาแล้วครั้งหนึ่ง รวมถึงมาตรการทางภาษีต่อสินค้าจากจีน ซึ่งต่อมาในรัฐบาลโจ ไบเดน ยังคงมาตรการดังกล่าวไว้บางส่วน

แต่ครั้งนี้ทรัมป์ให้สัญญาว่าจะเก็บภาษี 10% กับสินค้าทุกชนิดที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ เก็บภาษี 25% กับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และ 60% กับสินค้าที่มาจากจีน เขากล่าวว่าจะเริ่มลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดอัตราภาษีเหล่านี้ในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าภาษีเหล่านี้อาจทำให้สินค้าของผู้บริโภคราคาแพงขึ้นและอาจกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันบางประเทศก็กำลังพิจารณาการเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ด้วย

ที่มาของภาพ, Getty Images

สะสมคริปโต

ทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างแข็งขัน และการชนะเลือกตั้งของเขาทำให้มูลค่าของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นราว 30%

บางคนเชื่อว่าทรัมป์จะดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อจัดตั้ง “คลังบิทคอยน์” ของรัฐบาลกลาง เพื่อเป็นการสำรองสินทรัพย์ในทางยุทธศาสตร์คล้ายกับการสำรองทองคำและน้ำมันของสหรัฐฯ โดยทรัมป์พูดว่าคลังบิทคอยน์นี้จะทำหน้านี้เป็น “สินทรัพย์ถาวรของชาติเพื่อประโยชน์แก่ชาวอเมริกันทุกคน”

สภาพภูมิอากาศและพลังงาน

ยกเลิกนโยบายเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศสมัยไบเดน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดวาระลง มองว่าบรรดาคำสั่งฝ่ายบริหาร กฎหมาย และโครงการให้ทุนที่เขาส่งเสริมตำแหน่งงานสีเขียว การออกกฎเกณฑ์ด้านการควบคุมมลพิษ และการจัดหาทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา

ทรัมป์ได้แสดงความชัดเจนแล้วว่าเขาจะรื้อทิ้งผลงานส่วนใหญ่เหล่านี้ของไบเดน เป็นที่คาดการณ์ว่าทรัมป์จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อขจัดข้อจำกัดในการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งและบนแผ่นดินสหรัฐฯ เพื่อเติมเต็มคำประกาศที่เขาเคยพูดว่าให้ “เจาะ เจาะ เจาะ” รวมทั้งเพิ่มการผลิตพลังงานของสหรัฐฯ และเพิ่มความเป็นอิสระจากการพึ่งพาพลังงานนอกประเทศ

เขายังให้คำมั่นว่าจะสั่งห้ามการก่อตั้งโครงการพลังงานลมชุดใหม่และยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับยานพาหนะไฟฟ้า

ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีส (อีกครั้ง)

ภายใน 6 เดือนแรกหลังทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2017 เขาได้พาสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญที่นานนาชาติลงนามเพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก แต่ต่อมาในสมัยรัฐบาลไบเดน สหรัฐฯ ได้กลับเข้าสู่ข้อตกลงนี้อีกครั้งในวันแรกที่ไบเดนเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2021 แต่คาดว่าทรัมป์จะพาสหรัฐฯ ถอนตัวออกมาอีกครั้งในสมัยที่สองของเขา

ที่มาของภาพ, Getty Images

เหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาปี 2021

อภัยโทษผู้ก่อเหตุจลาจลรัฐสภา

ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดหลังจากเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในปี 2021 กำลังรอการได้รับอภัยโทษในวันจันทร์ เมื่อทรัมป์กลับเข้าสู่ตำแหน่ง

“ผมมีแนวโน้มที่จะอภัยโทษให้กับหลายคน” เขากล่าวกับซีเอ็นเอ็นในช่วงฤดูร้อน “ผมไม่สามารถพูดได้ว่าทำได้ทุกคน เพราะบางคนอาจอยู่เหนือการควบคุมจริง ๆ”

ผู้ชุมนุมกว่า 1,500 คน ถูกจับกุมจากเหตุจลาจลดังกล่าว และมีอย่างน้อย 600 คนถูกตั้งข้อหาทำร้ายหรือขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง

เปิดเอกสารลับ

ในการปราศรัยฉลองชัยชนะก่อนวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเปิดเผยเอกสารที่เป็นความลับที่เกี่ยวกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี เมื่อปี 1963 ซึ่งถือเป็นคดีความที่เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายไม่รู้จบ

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกว่าจะเผยเอกสารลับเกี่ยวกับการลอบสังหารอดีตวุฒิสมาชิก โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

นโยบายต่างประเทศ

สงครามยูเครน

ทรัมป์อ้างระหว่างการหาเสียงว่าเขาจะยุติสงครามนี้ในวันแรกที่รับตำแหน่ง แต่ทว่าหลังจากนั้นเขาบอกว่าอาจต้องใช้เวลาราว 6 เดือน แต่ไม่แน่ชัดว่าในวันแรก ๆ ของการเป็นประธานาธิบดีเขาจะดำเนินการเรื่องสงครามยูเครนอย่างไร

คิวบาและเวเนซุเอลา

ทรัมป์อาจใช้คำสั่งฝ่ายบริหารยกเลิกการตัดสินใจของไบเดนที่นำเอาคิวบาออกจากบัญชีของรัฐที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย

เขายังอาจกลับมาบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาด้วย

ทั้งคิวบาและเวเนซุเอลาเคยเป็นเป้าหมายการวิจารณ์ของทรัมป์อยู่บ่อยครั้งในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก

ความหลากหลายและเพศสภาพ

นโยบาย DEI (ความหลากหลาย, เท่าเทียม และการรวมคนทุกกลุ่ม)

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โรงเรียนและบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ ได้นำนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้หญิงและคนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติมาปรับใช้

แนวปฏิบัติเช่นนี้ซึ่งถูกเรียกว่า ความหลากหลาย, เท่าเทียม และการรวมคนทุกกลุ่ม หรือ DEI (fluctuate, equity and inclusion) ได้สร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายอนุรักษนิยมและเผชิญกับการโต้แย้งทางกฎหมายมากมาย ทรัมป์สัญญาว่าจะยกเลิกแนวทางเหล่านั้น และบริษัทใหญ่ ๆ อย่างเมตา วอลมาร์ท และแอมะซอน ได้เริ่มถอยออกจากโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ที่บริษัทริเริ่มไว้แล้ว

ทรัมป์อาจใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อสั่งห้ามการมอบเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางให้กับโรงเรียนหรือสถาบันต่าง ๆ ที่มีโครงการ DEI เหล่านี้ และอาจยกเลิกการให้ทุนแก่โรงเรียนที่มีการเรียนการสอนเรื่อง “ทฤษฎีเกี่ยวกับเชื้อชาติเชิงวิพากษ์” (Extreme Speed Idea: CRT)

การทำแท้ง

เช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนก่อนหน้า คาดว่าทรัมป์จะฟื้น “นโยบายเม็กซิโกซิตี” ซึ่งห้ามมิให้รัฐบาลกลางให้ความช่วยเหลือกลุ่มจากนานาชาติที่ให้คำปรึกษาเรื่องการทำแท้ง

นอกจากนี้ คาดว่าเขาจะรื้อฟื้นกฎเกณฑ์การทำแท้งที่ห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพของรัฐบาลกลางในโครงการไตเติ้ลเอ็กซ์ (Title X) ซึ่งเป็นโครงการวางแผนครอบครัวสำหรับผู้มีรายได้น้อย กล่าวถึงทางเลือกการทำแท้งให้กับคนไข้ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหากเกิดขึ้นจะทำให้องค์กรที่ให้บริการทำแท้งหรือให้การแนะนำเกี่ยวกับการทำแท้ง ถูกตัดเงินสนับสนุนหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ

หญิงข้ามเพศในวงการกีฬา

ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์ซ้ำ ๆ หลายครั้งกับสิ่งที่เขาเรียกขานว่า “ความวิกลจริตของคนข้ามเพศ” ในโรงเรียนและสถานบริการทางสุขภาพ และประกาศห้ามมิให้ผู้หญิงข้ามเพศร่วมการแข่งขันในกีฬาหญิง

ติ๊กตอก (TikTok)

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. ทรัมป์สัญญาว่าจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเลื่อนคำสั่งยุติการให้บริการแพลตฟอร์มติ๊กตอก ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่มีจีนเป็นเจ้าของ

เขากล่าวว่า คำสั่งของเขาจะเป็นการยืดเวลาเพื่อหาพันธมิตรสัญชาติสหรัฐฯ เข้าซื้อหุ้น 50% ของติ๊กตอกในสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ทรัมป์สนับสนุนคำสั่งแบนติ๊กตอก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาก็เปลี่ยนจุดยืน โดยชี้ไปยังยอดการรับชมหลายพันล้านครั้งสำหรับวิดีโอการหาเสียงของเขาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว