
ข่าวเจาะ ‘อิศรา' ปม บ.กัน จอมพลัง คว้างาน ก.เกษตรฯ 7 สัญญา ‘วิธีเฉพาะเจาะจง’ รวดเป็นผล! สตง.ซุ่มเงียบตรวจข้อมูลเชิงลึกตั้งแต่เผยแพร่ข่าวครั้งแรก เม.ย.68 แล้ว มุ่ง 3 ประเด็นหลัก ทำไมต้องเป็นบริษัทนี้-กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง-ผลงานคุ้มค่างบประมาณที่ใช้จ่ายไปหรือไม่ ล่าสุดผู้บริหารออกคำสั่งติดตามรายงานผลสอบเป็นทางการแล้ว
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา . ตรวจสอบพบข้อมูล บริษัท ไทยคิงดี จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท ไทยคิงเทค จำกัด) ของ ธุรกิจ 1 ใน 3 แห่งของนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ นักธุรกิจผู้อาสาช่วยเหลืองานสังคมชื่อดัง เป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานของรัฐ 6 สัญญา ในจำนวนนี้เป็นหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4 แห่ง 5 สัญญา และ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 1 สัญญา รวมวงเงิน 2,501,072 บาท โดยเป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ต่อมามีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า บริษัท ไทยคิงดี จำกัด เป็นคู่สัญญาหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ อีก 2 สัญญา รวมวงเงิน 972,200 บาท โดยวิธีเฉพาะเจาะจง อีกเช่นกัน (ดูอินโฟประกอบท้ายเรื่อง)
ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ สตง.ได้เข้าติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมาตั้งแต่ช่วงสำนักข่าวอิศรา นำเสนอข้อมูลครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2568 แล้ว ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. ทำไมหน่วยงานราชการ ต้องเจาะจงจ้างบริษัท ไทยคิงดี จำกัด เข้ามารับงานโดยใช้วิธีเจาะจง 2. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไร ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ 3. ผลงานที่ออกมาเป็นอย่างไร คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้จ่ายไปหรือไม่
“ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือ การใช้วิธีเจาะจงจ้าง ทำไมต้องใช้วิธีนี้ งานที่จัดจ้างไปเอกชนรายอื่นไม่สามารถทำได้เลยหรือ ทำไมต้องเจาะจงเลือกบริษัทนี้ให้มารับงานเท่านั้น” แหล่งข่าวระบุ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ มีคำชี้แจงจากนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ ว่า ในช่วงเวลา 2 ปี กระทรวงเกษตรฯ มีการเจาะจงจ้างงานหมื่นโครงการฯ แต่ได้รับมาแค่ 7 งาน เท่านั้น
แหล่งข่าวตอบว่า “ทุกงานต้องมีการถูกตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ประด็นสำคัญของวิธีเจาะจงจ้าง ต้องเข้าไปดูรายละเอียด ว่า ทำไมหน่วยงานราชการเลือกใช้วิธีการเจาะจง เนื้องานที่ทำเป็นอย่างไร ทำไมต้องเจาะจงเลือกบริษัทนี้ให้มารับงานเท่านั้น นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด และในกระบวนการจ้างงาน มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่”
“เรื่องนี้ ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ว่าผิดหรือไม่ผิด ต้องรอดูรายงานสรุปผลการตรวจสอบกรณีนี้อีกครั้งว่าผลเป็นอย่างไร ขั้นตอนการดำเนินงานอาจจะทำถูกต้องก็ได้ ล่าสุด ทางผู้บริหารสตง. ได้ออกคำสั่งให้ติดตามรายงานผลการตรวจสอบแล้ว” แหล่งข่าวระบุ

อ่านประกอบ :
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )












