เดินเกมอย่างเงียบเชียบ รัสเซียกำลังพยายามชนะใจกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่ชาติตะวันตกอย่างไร

ที่มาของภาพ : Getty Photos

Article Recordsdata

    • Author, จูเลียนา แกรกนานี
    • Role, บรรณาธิการ ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit)
    • Author, มาเรีย โคเรนยุก
    • Role, ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit)

ฮาเวียร์ กายาร์โด ชอบเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดูรายการดนตรีคลาสสิกทางโทรทัศน์ มันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของเขา มันทำให้เขามีอารมณ์ดีก่อนออกไปทำงานขับรถบรรทุก

แต่ในวันจันทร์วันหนึ่งในเดือน มิ.ย. เขาเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา แต่แทนที่จะมีเพลงดังขึ้นมา หน้าจอกลับเต็มไปด้วยภาพจากเขตสงคราม รายงานข่าวกำลังออกอากาศทางช่องที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

“เกิดอะไรขึ้น” เขาถามตัวเอง หลังจากผ่านไป 20 นาที เขาก็ปิดทีวีไป “ผมไม่อินกับมัน”

โลโก้สีเขียวที่มุมล่างของหน้าจอแสดงตัวอักษร “RT” เมื่อค้นหาทางออนไลน์ เขาพบว่านี่เป็นช่องทีวีของรัสเซีย

ฮาเวียร์อาศัยอยู่ในชิลี และมีรายงานว่าเทเลคาแนล (Telecanal) ซึ่งเป็นช่องโทรทัศน์เอกชนในประเทศ ได้ส่งมอบสัญญาณให้กับ RT ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่รัฐบาลรัสเซียให้การสนับสนุน หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่ารัสเซียทูเดย์ (Russia This day – RT)

ที่มาของภาพ : Portray by YURI KADOBNOV/AFP by Getty Photos

สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหภาพยุโรป ได้กำหนดมาตรการจำกัดการเผยแพร่ต่อสถานีโทรทัศน์รัสเซียทูเดย์ (RT)

หน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงของประเทศชิลี ได้เริ่มกระบวนการลงโทษต่อเทเลคาแนลในข้อหาที่อาจละเมิดกฎหมายการออกอากาศ และกำลังรอคำตอบจากสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว

ด้านเทเลคาแนล ไม่ตอบรับแสดงความคิดเห็นจากคำถามที่บีบีซีสอบถาม

ในขณะเดียวกัน ผู้ชมต่างรู้สึกสับสน ฮาเวียร์ยอมรับว่าเขารู้สึกไม่พอใจที่สถานีโทรทัศน์ไม่ได้ประกาศหรือแจ้งต่อผู้รับชมล่วงหน้า

“พวกเขาไม่ได้ประกาศอะไรล่วงหน้า และผมไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่าทำไมทำแบบนั้น”

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา สถานีข่าวรัสเซียทูเดย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย และสำนักข่าวและวิทยุสปุตนิก (Sputnik) ได้ขยายการดำเนินงานในระดับนานาชาติ

ปัจจุบันสถานีเหล่านี้ออกอากาศไปทั่วแอฟริกา บอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลาตินอเมริกา

ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการห้ามออกอากาศในประเทศตะวันตก

ที่มาของภาพ : Kirill KUDRYAVTSEV / AFP

ในปี 2024 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ลงโทษผู้บริหารรัสเซียทูเดย์บางคน รวมถึง มาร์การิตา ซิโมเนียน บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าว

หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. 2022 การจำกัดการออกอากาศเนื้อหาจากรัสเซียทูเดย์ ได้ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และทั่วทั้งสหภาพยุโรป โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ก็ร่วมดำเนินมาตรการจำกัดด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากสถานีดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสงคราม

ข้อจำกัดนี้สิ้นสุดลงในปี 2024 เมื่อทางการสหรัฐฯ ได้ลงโทษผู้บริหารของรัสเซียทูเดย์ รวมถึง มาร์การิตา ซิโมเนียน บรรณาธิการบริหาร ด้วยข้อกล่าวหาว่าพยายามทำลาย “ความไว้วางใจของสาธารณชน” ที่มีต่อสถาบันต่าง ๆ ของประเทศ

เรื่องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า รัสเซียกำลังวางแผนการรณรงค์อย่างกว้างขวางเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่รัสเซียทูเดย์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

แต่อิทธิพลของรัสเซียทูเดย์ กลับแผ่ขยายออกไปในพื้นที่อื่น ๆ

ตั้งแต่ปี 2023 รัสเซียทูเดย์ ได้เปิดสำนักงานในแอลจีเรีย เปิดตัวบริการโทรทัศน์ในภาษาเซอร์เบีย และเริ่มโครงการฝึกอบรมฟรีสำหรับนักข่าวจากแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และจีน

รัสเซียทูเดย์ ยังประกาศว่าจะเปิดสำนักงานในอินเดียด้วย ในขณะเดียวกัน วิทยุสปุตนิกก็ได้เปิดตัวห้องข่าวในเอธิโอเปียเมื่อเดือน ก.พ.

ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการที่สื่อตะวันตกในบางภูมิภาคเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการตัดงบประมาณและลำดับความสำคัญของนโยบายต่างประเทศที่เปลี่ยนไป สำนักข่าวบางแห่งจึงลดขนาดองค์กรหรือถึงขั้นถอนตัวออกจากบางพื้นที่ของโลก

เมื่อสองปีก่อน บีบีซีได้ปิดบริการวิทยุภาษาอาหรับเพื่อเปลี่ยนไปให้บริการในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งให้บริการเนื้อหาข่าวทั้งเสียง วิดีโอ และข้อความ ต่อมาบีบีซีได้เปิดตัวบริการวิทยุฉุกเฉินสำหรับฉนวนกาซาและซูดาน โดยในปีเดียวกันนั้นเอง วิทยุสปุตนิกของรัสเซียได้เริ่มให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในเลบานอน โดยครอบครองคลื่นความถี่ที่บีบีซีภาษาอาหรับ ได้ยกเลิกไป

ขณะที่ วอยซ์ ออฟ อเมริกา (Dispute of The united states ) ซึ่งเป็นสถานีกระจายเสียงระหว่างประเทศที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้ลดจำนวนพนักงานส่วนใหญ่ลง

“รัสเซียก็เหมือนน้ำ ตรงที่มีรอยแตกร้าวในคอนกรีต น้ำก็จะซึมเข้ามา” ดร.แคทรีน สโตเนอร์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว

อย่างไรก็ตาม คำถามที่ยังคงอยู่คือ จุดมุ่งหมายท้ายสุดของรัสเซียคืออะไร แล้วอำนาจสื่อที่คืบคลานเข้ามาในภูมิภาคเหล่านี้มีความหมายอย่างไรในยุคที่ระเบียบโลกกำลังถูกจัดสรรใหม่

“ไม่ใช่นักทฤษฎีสมคบคิดบ้า ๆ ทุกคน”

“ประเทศที่นอกเหนือจากชาติตะวันตก เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งทั้งทางปัญญา วัฒนธรรม และอุดมการณ์ เนื่องจาก ยังคงมีความรู้สึกต่อต้านอเมริกา ต่อต้านตะวันตก และต่อต้านจักรวรรดินิยมหลงเหลืออยู่” สตีเฟน ฮัทชิงส์ ศาสตราจารย์ด้านรัสเซียศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ กล่าว

เขาโต้แย้งว่า โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียก็แพร่กระจายอย่างชาญฉลาดเช่นกัน เนื้อหาได้รับการปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ แม้นั่นจะหมายถึงการต้องยอมรับจุดยืนทางอุดมการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคก็ตาม

ที่มาของภาพ : KIRILL KUDRYAVTSEV/AFP by Getty Photos

รัสเซียทูเดย์ (RT) คือสำนักงานข่าวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย

หากพิจารณามุมมองของสำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ (RT) ในสายตาของโลกตะวันตก สื่อสำนักนี้มักถูกมองว่าเป็น “ผู้กระทำการของรัฐรัสเซียและผู้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน” นักวิชาการด้านรัสเซียศึกษาจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่น ๆ ของโลก รัสเซียทูเดย์ (RT) มักถูกมองว่าเป็นผู้แพร่ภาพกระจายเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีแนวทางการบรรณาธิการเป็นของตัวเอง

สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมมีแนวโน้มที่จะเชื่อ “ไม่ใช่นักทฤษฎีสมคบคิดบ้า ๆ ทุกคนที่หลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนอย่างไร้เดียงสา” ดร.รีส คริลลีย์ อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ กล่าว

นักวิชาการผู้นี้เชื่อว่าการนำเสนอข่าวของรัสเซียทูเดย์ (RT) ทั่วโลกสามารถดึงดูดผู้ชมในวงกว้าง โดยเฉพาะ “ผู้คนที่กังวลเกี่ยวกับความอยุติธรรมทั่วโลก หรือเหตุการณ์ที่พวกเขามองว่าโลกตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้อง”

“การชักจูงที่ทำอย่างระมัดระวังมาก”

เมื่อมองเผิน ๆ เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศของรัสเซียทูเดย์ (RT) ดูเหมือนเว็บไซต์ข่าวทั่วไป และรายงานข่าวบางเรื่องได้อย่างแม่นยำ

“มัน เป็นการจัดการที่รอบคอบมาก” ดร.เพรเชียส แช็ตเทอร์เย-ดูดี้ อาจารย์อาวุโสด้านรัฐศาสตร์และการระหว่างประเทศศึก มหาวิทยาลัยโอเพ่น ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับรัสเซียทูเดย์ (RT) ร่วมกับศาสตราจารย์ฮัทชิงส์ ดร. คริลลีย์ และคนอื่น ๆ ให้เหตุผล

เธอและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ได้วิเคราะห์ข่าวสารต่างประเทศของรัสเซียทูเดย์ (RT) ครอบคลุมระยะเวลาสองปี ระหว่างเดือน พ.ค. 2017 ถึง พ.ค. 2019 และสรุปว่า การคัดเลือกข่าว (ทั้งเรื่องที่ RT เลือกนำเสนอและเรื่องที่ตัดออก) สอดคล้องกับเรื่องราวบางเรื่อง

ตัวอย่างเช่น นักวิจัยพบว่าความไม่สงบทางสังคมเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องรายงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ในประเทศยุโรป ในขณะที่ประเด็นที่มักถูกนำเสนอในการรายงานข่าวกิจการภายในของรัสเซียคือการซ้อมรบทางทหาร

สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ยังกล่าวอ้างข้อมูลเท็จอย่างชัดเจน เช่น การนำเสนอภาพการผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2014 ว่าเป็น “การรวมชาติ” อย่างสันติ โดยปฏิเสธหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางทหาร ทางสถานีข่าวแห่งนี้ปฏิเสธหลักฐานอาชญากรรมสงครามของรัสเซียในยูเครนอย่างเป็นระบบ นับตั้งแต่การรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022

ที่มาของภาพ : SERGEI BOBYLYOV /AFP by Getty

“รัสเซียก็เหมือนน้ำ ตรงที่มีรอยแตกร้าวในคอนกรีต น้ำก็จะซึมเข้ามา” ดร.แคทรีน สโตเนอร์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว

รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังได้เผยแพร่บทความที่มีนักวิจารณ์กล่าวหาว่ายูเครนเป็นผู้ยิvเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ตกในเดือน ก.ค. 2014 ซึ่งในกรณีนี้หน่วยงานการบินของสหประชาชาติสรุปว่าสหพันธรัฐรัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ยิvเครื่องบินตกครั้งนี้ และคณะผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศwบว่าระบบขีปนาวุธที่ขนส่งจากรัสเซียไปยังยูเครนตะวันออกที่ถูกยึดครองนั้นถูกใช้โดยชาวรัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียเพื่อโจมตี

สิ่งที่น่าตกใจคือมุมมองของผู้ชมของการรายงานข่าวนี้

ในช่วงปี 2018-2022 นักวิจัยได้สัมภาษณ์คน 109 คนที่รับชมรัสเซียทูเดย์ (RT) ในสหราชอาณาจักรก่อนที่ใบอนุญาตการออกอากาศจะถูกเพิกถอนโดย องค์กรออฟคอม (Ofcom) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสื่อ ดร.แช็ตเตอร์เย-ดูดี้ กล่าวว่า เธอสังเกตเห็นว่าหลายคนรู้สึกว่า “รัสเซียทูเดย์ มีอคติ” แต่พวกเขามีเครื่องมือในการแยกแยะว่าอะไรจริงอะไรเท็จ

อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยของเธอ เธอเตือนว่า “ผู้ชม อาจไม่ตระหนักว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) มีอคติไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง รวมถึงเรื่องที่มาของความไม่ซื่อสัตย์ในการรายงานข่าว”

เหตุใดรัสเซียจึงกลับมาให้ความสำคัญกับแอฟริกาอีกครั้ง

ศาสตราจารย์ฮัทชิงส์ ระบุว่า การขยายเครือข่ายสื่อของรัฐรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อเร็ว ๆ นี้อยู่ในแอฟริกา

ในเดือน ก.พ. ทางการรัสเซียได้เดินทางไปยังเอธิโอเปียเพื่อเปิดตัวศูนย์บรรณาธิการแห่งใหม่ของวิทยุสปุตนิก

ก่อนหน้านี้ วิทยุสปุตนิกได้ออกอากาศทั่วภูมิภาคแอฟริกาด้วยภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และได้ขยายเครือข่ายไปยังภาษาอัมฮาริก ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาราชการของเอธิโอเปีย

รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังได้ปรับทิศทางช่องภาษาฝรั่งเศสให้มุ่งเป้าไปที่ประเทศในแอฟริกาที่พูดภาษาฝรั่งเศส พร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางเงินทุนจากโครงการต่าง ๆ ในลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน และสหรัฐอเมริกา มายังทวีปแอฟริกา ตามการเปิดเผยของบรรณาธิการบริหารของรัสเซียทูเดย์ (RT)

ที่มาของภาพ : MLADEN ANTONOV /AFP by Getty

ศาสตราจารย์ฮัทชิงส์ กล่าวว่าการขยายตัวครั้งใหญ่ที่สุดของสื่อของทางการรัสเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้อยู่ในแอฟริกา

ปีที่แล้ว สื่อของทางการรัสเซียอ้างว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) มีสำนักงานในแอฟริกาทั้งสิ้น 7 แห่ง แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างอิสระก็ตาม

ชาวแอฟริกันจำนวนมากมีมุมมองที่เป็นมิตรต่อรัสเซียอยู่แล้ว ทั้งความรู้สึกต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมและต่อต้านจักรวรรดินิยม ประกอบกับมรดกการสนับสนุนขบวนการปลดปล่อยของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น ทำให้มุมมองที่เป็นมิตรต่อรัสเซียค่อนข้างแพร่หลาย

ดร.คริลลีย์ แย้งว่าด้วยจุดเน้นใหม่นี้ รัสเซียหวังที่จะบ่อนทำลายอิทธิพลของชาติตะวันตก สร้างการสนับสนุนการกระทำของตน และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

เปิดหลักสูตรของรัสเซียทูเดย์ (RT) สำหรับนักข่าวชาวแอฟริกัน

เมื่อรัสเซียทูเดย์ (RT) เปิดตัวหลักสูตรออนไลน์หลักสูตรแรกที่เน้นเป้าหมายไปที่นักข่าวและบล็อกเกอร์ชาวแอฟริกัน ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit) ได้เข้าร่วมเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

“เราเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่เคยถูกจับได้ว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จ” อเล็กเซย์ นิโคลอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของรัสเซียทูเดย์ (RT) กล่าวกับผู้เข้าเรียน

บทเรียนหนึ่งกล่าวถึงวิธีการหักล้างข้อมูลเท็จ ผู้สอนกล่าวว่าการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมาของซีเรียในปี 2018 โดยรัฐบาลอัสซาดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เป็น “ตัวอย่างที่ชัดเจนของข่าวปลอม” โดยไม่สนใจผลการสอบสวนที่กินระยะเวลา 2 ปีขององค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี ซึ่งยืนยันว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของกองทัพอากาศซีเรีย

ผู้ดำเนินการสอนยังปฏิเสธเหตุการณ์สังหารหมู่พลเรือนชาวยูเครนโดยกองกำลังรัสเซียในเมืองบูชา ของยูเครนในปี 2022 โดยเรียกมันว่า “เรื่องปลอมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด” (แม้จะมีหลักฐานมากมายจากสหประชาชาติและหน่วยงานอิสระที่กล่าวโทษกองกำลังรัสเซีย)

หลังจากพูดคุยกับผู้เข้าร่วมการอบรม หลายคนดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับเรื่องนี้ บางคนบอกกับบีบีซีว่าพวกเขาเชื่อว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) เป็นสถานีโทรทัศน์ระดับนานาชาติมาตรฐาน เทียบได้กับซีเอ็นเอ็น (CNN) หรือ อัลจาซีรา (Al Jazeera)

เมื่อเราสัมภาษณ์นักข่าวชาวเอธิโอเปียคนหนึ่งในเดือน ธ.ค. 2024 พวกเขาเห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของรัสเซียทูเดย์ (RT) โดยเรียกการสังหารหมู่ในเมืองบูชาว่าเป็น “การจัดฉาก” แต่ทั้งนี้รูปโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียของเขาเป็นรูปถ่ายของปูติน

นักข่าวจากเซียร์ราลีโอนคนหนึ่งยอมรับความเสี่ยงของข้อมูลที่ผิดและข้อมูลบิดเบือน แต่ก็แสดงความคิดเห็นด้วยว่าสถาบันสื่อแต่ละแห่งมี “คุณค่าและรูปแบบข่าว” ของตัวเอง

จากตะวันออกกลางสู่ลาตินอเมริกา

ศาสตราจารย์ฮัทชิงส์กล่าวว่า ในตะวันออกกลาง สื่อของรัฐบาลรัสเซียอย่างรัสเซียทูเดย์ (RT) ภาษาอาหรับ และวิทยุสปุตนิก ภาษาอาหรับกำลังปรับการรายงานข่าวสงครามอิสราเอล-กาซา เพื่อดึงดูดผู้ชมที่สนับสนุนปาเลสไตน์

รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังพยายามขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงในแถบลาตินอเมริกา โดยรัสเซียทูเดย์ (RT) ได้ให้บริการฟรีทีวีใน 10 ประเทศในภูมิภาคนี้ตามข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ RT ซึ่งรวมถึงอาร์เจนตินา เม็กซิโก และเวเนซุเอลา นอกจากนี้ยังมีการออกอากาศทางเคเบิลทีวีในอีก 10 ประเทศ

ดร.อาร์มันโด ชากวาเซดา นักประวัติศาสตร์และนักรัฐศาสตร์ชาวคิวบา-เม็กซิโก ซึ่งเป็นนักวิจัยจากกลุ่มวิจัยการเมืองและนโยบาย (เน้นการศึกษาพลเมืองและการส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย) กล่าวว่า การนำเสนอข่าวต่างประเทศภาษาสเปนผ่านโทรทัศน์ฟรีทีวีเป็น “ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ”

ที่มาของภาพ : REUTERS/Dado Ruvic

รัสเซียทูเดย์ (RT) ให้บริการฟรีใน 10 ประเทศลาตินอเมริกา ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของ RT

แม้ว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) จะถูกห้ามเผยแพร่บนยูทิวป์ (Youtube) ทั่วโลกตั้งแต่เดือน มี.ค. 2022 แต่ก็ยังคงแพร่หลายบนแพลตฟอร์มในบางพื้นที่

ในอาร์เจนตินา อานิบัล ไบกอร์เรีย ช่างไม้วัย 52 ปี บันทึกรายงานข่าวโทรทัศน์จาก RT และอัปโหลดไปยังช่องยูทิวป์ พร้อมกับความคิดเห็นของเขา

“ที่นี่ในบัวโนสไอเรส ข่าวมักจะเน้นไปที่เมืองมากเกินไป” เขาบอก “รัสเซียทูเดย์นำเสนอภาพรวมของทุกที่ในลาตินอเมริกา และแน่นอนว่ารวมถึงข่าวทั่วโลกด้วย”

“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าสิ่งที่พวกเขาเชื่อ เป็นความจริง”

ทำความเข้าใจผลกระทบ

ท้ายที่สุดแล้ว การประเมินผลกระทบของสื่อที่ทางการรัสเซียให้การสนับสนุนทั่วโลกนั้นเป็นเรื่องยาก

รัสเซียทูเดย์ (RT) อ้างว่ามีผู้รับชมโทรทัศน์มากกว่า 900 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศ และระบุว่าเนื้อหามียอดผู้ชมออนไลน์ 23,000 ล้านครั้งในปี 2024

แต่ ดร.ราสมุส ไคลส์ นีลเซน ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสาร มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ชี้ว่า “การเข้าถึงเนื้อหาหรือการออกอากาศ ไม่ใช่เกณฑ์ที่ดีในการวัดขนาดของผู้ชม”

เขายังโต้แย้งว่าตัวเลขผู้ชม 900 ล้านคนนั้น “แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” และอธิบายว่ายอดผู้ชมออนไลน์เป็นตัวชี้วัดที่คลุมเครือและถูกบิดเบือนได้ง่าย

ดร.แช็ตเตอร์เย-ดูดี้ เห็นด้วยว่าการประเมินผลกระทบโดยตรงเป็นเรื่องยาก แต่เธอชี้ให้เห็นกรณีหนึ่งที่อาจบ่งชี้ถึงความสำเร็จของรัสเซีย ในภูมิภาคซาเฮลของแอฟริกา ซึ่งทอดยาวจากเซเนกัลไปทางตะวันออกจนถึงซูดาน

รัสเซียมีบทบาททางทหารที่สำคัญ “โดยแทบไม่มีการต่อต้านจากสาธารณชน” แม้จะพิจารณาถึงสภาพภูมิประเทศที่ท้าทายก็ตาม (รัสเซียได้หยั่งรากลึกด้วยการสนับสนุนกลุ่มทหารในประเทศต่าง ๆ เช่น มาลี บูร์กินาฟาโซ และไนเจอร์)

อีกหนึ่งเรื่องเล่าที่ยังคงฝังแน่นคือ เหตุผลของรัสเซียในการรุกรานยูเครน รัสเซียได้ตีกรอบการขยายตัวของนาโตไปทางตะวันออกและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างยูเครนกับพันธมิตรว่าเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการรุกรานครั้งใหญ่ โดยอ้างว่าเป็น “ภัยคุกคามด้านความมั่นคง” และรัสเซียดำเนินการเพื่อ “ป้องกันตนเอง” แม้ว่าจะถูกหักล้างอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก แต่ข้อกล่าวอ้างเท็จนี้ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ของกลุ่มประเทศโลกใต้ (World South) ที่ระดับการพัฒนาต่ำกว่าภูมิภาคอื่น

ที่มาของภาพ : Misha Friedman/Getty Photos

เป็นการยากที่จะประเมินผลกระทบของสื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการรัสเซียทั่วโลก

“แนวคิดนี้… เป็นเรื่องเล่าที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงวิชาการ ในเม็กซิโก และในละตินอเมริกาโดยทั่วไป” ดร.ชากัวเซดา กล่าวถึงข้อโต้แย้งเรื่องการขยายอำนาจของนาโต

ผู้นำกลุ่มประเทศโลกใต้บางคนลังเลที่จะประณามสงครามรัสเซียกับยูเครน ในการลงมติครั้งแรกของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหลังจากการรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 ประเทศส่วนใหญ่ประณามสงคราม แต่มี 52 ประเทศที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติ โดยก่อนหน้านี้ได้งดออกเสียง หรืองดลงคะแนน ซึ่งรวมถึงโบลิเวีย มาลี นิการากัว แอฟริกาใต้ และยูกันดา

ที่มาของภาพ : RONALDO SCHEMIDT/AFP by Getty Photos

ผู้นำกลุ่มประเทศโลกใต้บางคนลังเลที่จะประณามสงครามรัสเซียกับยูเครน

ดร.คริลลีย์มีมุมมองของตนเองเกี่ยวกับจุดจบของรัสเซีย

“รัสเซียกำลังพยายาม ลดความโดดเดี่ยวของรัสเซียบนเวทีโลก ด้วยการแสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นเหยื่อร่วมของการถูกรุกรานโดย ‘ตะวันตก' และเป็นผู้ปกป้องกลุ่มประเทศโลกใต้”

เขาเตือนว่าความเสี่ยงคือ “รัสเซียทูเดย์ และความพยายามบิดเบือนข้อมูลอื่น ๆ ของรัสเซียจะฉวยโอกาสและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของประชาธิปไตยเสรีนิยม ขณะเดียวกันก็ทำให้การรุกรานของรัสเซียในยูเครนเป็นเรื่องปกติ และนำเสนอรัสเซียในฐานะที่ไม่ใช่รัฐเผด็จการ แต่เป็นอำนาจที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยในทางการเมืองโลก”

เมื่อถูกขอให้แสดงความเห็นต่กข้อกล่าวหาที่ยกขึ้นมาในบทความนี้ รัสเซียทูเดย์ (RT) กล่าวว่า “เรากำลังขยายอิทธิพลไปทั่วโลกอย่างแท้จริง”

พวกเขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นเฉพาะ

ขณะที่วิทยุสปุตนิก ไม่ตอบกลับต่อคำร้องขอความคิดเห็น

ในท้ายที่สุด ศ.ฮัทชิงส์ เชื่อว่าเราทุกคนควรมีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมของทางการรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของอนาคตของระเบียบโลกและประชาธิปไตย

เขาเชื่อว่าฝ่ายตะวันตกกำลัง “ละสายตาจากเป้าหมาย” ด้วยการตัดงบประมาณสื่อ และ “เปิดช่องให้สื่ออย่างรัสเซียทูเดย์” เข้ามามีบทบาท

“มีหลายสิ่งที่ต้องเล่นและหลายสิ่งที่ต้องสูญเสีย… และรัสเซียกำลังได้เปรียบ แต่การต่อสู้ยังไม่พ่ายแพ้”