
เดินเกมอย่างเงียบเชียบ รัสเซียกำลังพยายามชนะใจกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่ชาติตะวันตกอย่างไร

ที่มาของภาพ : Getty Photos
Article Recordsdata
-
- Author, จูเลียนา แกรกนานี
- Role, บรรณาธิการ ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit)
- Author, มาเรีย โคเรนยุก
- Role, ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit)
ฮาเวียร์ กายาร์โด ชอบเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดูรายการดนตรีคลาสสิกทางโทรทัศน์ มันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของเขา มันทำให้เขามีอารมณ์ดีก่อนออกไปทำงานขับรถบรรทุก
แต่ในวันจันทร์วันหนึ่งในเดือน มิ.ย. เขาเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา แต่แทนที่จะมีเพลงดังขึ้นมา หน้าจอกลับเต็มไปด้วยภาพจากเขตสงคราม รายงานข่าวกำลังออกอากาศทางช่องที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
“เกิดอะไรขึ้น” เขาถามตัวเอง หลังจากผ่านไป 20 นาที เขาก็ปิดทีวีไป “ผมไม่อินกับมัน”
โลโก้สีเขียวที่มุมล่างของหน้าจอแสดงตัวอักษร “RT” เมื่อค้นหาทางออนไลน์ เขาพบว่านี่เป็นช่องทีวีของรัสเซีย
ฮาเวียร์อาศัยอยู่ในชิลี และมีรายงานว่าเทเลคาแนล (Telecanal) ซึ่งเป็นช่องโทรทัศน์เอกชนในประเทศ ได้ส่งมอบสัญญาณให้กับ RT ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่รัฐบาลรัสเซียให้การสนับสนุน หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่ารัสเซียทูเดย์ (Russia This day – RT)

ที่มาของภาพ : Portray by YURI KADOBNOV/AFP by Getty Photos
หน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงของประเทศชิลี ได้เริ่มกระบวนการลงโทษต่อเทเลคาแนลในข้อหาที่อาจละเมิดกฎหมายการออกอากาศ และกำลังรอคำตอบจากสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว
ด้านเทเลคาแนล ไม่ตอบรับแสดงความคิดเห็นจากคำถามที่บีบีซีสอบถาม
ในขณะเดียวกัน ผู้ชมต่างรู้สึกสับสน ฮาเวียร์ยอมรับว่าเขารู้สึกไม่พอใจที่สถานีโทรทัศน์ไม่ได้ประกาศหรือแจ้งต่อผู้รับชมล่วงหน้า
“พวกเขาไม่ได้ประกาศอะไรล่วงหน้า และผมไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่าทำไมทำแบบนั้น”
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา สถานีข่าวรัสเซียทูเดย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย และสำนักข่าวและวิทยุสปุตนิก (Sputnik) ได้ขยายการดำเนินงานในระดับนานาชาติ
ปัจจุบันสถานีเหล่านี้ออกอากาศไปทั่วแอฟริกา บอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลาตินอเมริกา
ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการห้ามออกอากาศในประเทศตะวันตก

ที่มาของภาพ : Kirill KUDRYAVTSEV / AFP
หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. 2022 การจำกัดการออกอากาศเนื้อหาจากรัสเซียทูเดย์ ได้ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และทั่วทั้งสหภาพยุโรป โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ก็ร่วมดำเนินมาตรการจำกัดด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากสถานีดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสงคราม
ข้อจำกัดนี้สิ้นสุดลงในปี 2024 เมื่อทางการสหรัฐฯ ได้ลงโทษผู้บริหารของรัสเซียทูเดย์ รวมถึง มาร์การิตา ซิโมเนียน บรรณาธิการบริหาร ด้วยข้อกล่าวหาว่าพยายามทำลาย “ความไว้วางใจของสาธารณชน” ที่มีต่อสถาบันต่าง ๆ ของประเทศ
เรื่องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า รัสเซียกำลังวางแผนการรณรงค์อย่างกว้างขวางเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่รัสเซียทูเดย์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่อิทธิพลของรัสเซียทูเดย์ กลับแผ่ขยายออกไปในพื้นที่อื่น ๆ
ตั้งแต่ปี 2023 รัสเซียทูเดย์ ได้เปิดสำนักงานในแอลจีเรีย เปิดตัวบริการโทรทัศน์ในภาษาเซอร์เบีย และเริ่มโครงการฝึกอบรมฟรีสำหรับนักข่าวจากแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และจีน
รัสเซียทูเดย์ ยังประกาศว่าจะเปิดสำนักงานในอินเดียด้วย ในขณะเดียวกัน วิทยุสปุตนิกก็ได้เปิดตัวห้องข่าวในเอธิโอเปียเมื่อเดือน ก.พ.
ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการที่สื่อตะวันตกในบางภูมิภาคเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการตัดงบประมาณและลำดับความสำคัญของนโยบายต่างประเทศที่เปลี่ยนไป สำนักข่าวบางแห่งจึงลดขนาดองค์กรหรือถึงขั้นถอนตัวออกจากบางพื้นที่ของโลก
เมื่อสองปีก่อน บีบีซีได้ปิดบริการวิทยุภาษาอาหรับเพื่อเปลี่ยนไปให้บริการในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งให้บริการเนื้อหาข่าวทั้งเสียง วิดีโอ และข้อความ ต่อมาบีบีซีได้เปิดตัวบริการวิทยุฉุกเฉินสำหรับฉนวนกาซาและซูดาน โดยในปีเดียวกันนั้นเอง วิทยุสปุตนิกของรัสเซียได้เริ่มให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในเลบานอน โดยครอบครองคลื่นความถี่ที่บีบีซีภาษาอาหรับ ได้ยกเลิกไป
ขณะที่ วอยซ์ ออฟ อเมริกา (Dispute of The united states ) ซึ่งเป็นสถานีกระจายเสียงระหว่างประเทศที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้ลดจำนวนพนักงานส่วนใหญ่ลง
“รัสเซียก็เหมือนน้ำ ตรงที่มีรอยแตกร้าวในคอนกรีต น้ำก็จะซึมเข้ามา” ดร.แคทรีน สโตเนอร์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว
อย่างไรก็ตาม คำถามที่ยังคงอยู่คือ จุดมุ่งหมายท้ายสุดของรัสเซียคืออะไร แล้วอำนาจสื่อที่คืบคลานเข้ามาในภูมิภาคเหล่านี้มีความหมายอย่างไรในยุคที่ระเบียบโลกกำลังถูกจัดสรรใหม่
“ไม่ใช่นักทฤษฎีสมคบคิดบ้า ๆ ทุกคน”
“ประเทศที่นอกเหนือจากชาติตะวันตก เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งทั้งทางปัญญา วัฒนธรรม และอุดมการณ์ เนื่องจาก ยังคงมีความรู้สึกต่อต้านอเมริกา ต่อต้านตะวันตก และต่อต้านจักรวรรดินิยมหลงเหลืออยู่” สตีเฟน ฮัทชิงส์ ศาสตราจารย์ด้านรัสเซียศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ กล่าว
เขาโต้แย้งว่า โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียก็แพร่กระจายอย่างชาญฉลาดเช่นกัน เนื้อหาได้รับการปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ แม้นั่นจะหมายถึงการต้องยอมรับจุดยืนทางอุดมการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคก็ตาม

ที่มาของภาพ : KIRILL KUDRYAVTSEV/AFP by Getty Photos
หากพิจารณามุมมองของสำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ (RT) ในสายตาของโลกตะวันตก สื่อสำนักนี้มักถูกมองว่าเป็น “ผู้กระทำการของรัฐรัสเซียและผู้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน” นักวิชาการด้านรัสเซียศึกษาจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่น ๆ ของโลก รัสเซียทูเดย์ (RT) มักถูกมองว่าเป็นผู้แพร่ภาพกระจายเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีแนวทางการบรรณาธิการเป็นของตัวเอง
สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมมีแนวโน้มที่จะเชื่อ “ไม่ใช่นักทฤษฎีสมคบคิดบ้า ๆ ทุกคนที่หลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนอย่างไร้เดียงสา” ดร.รีส คริลลีย์ อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ กล่าว
นักวิชาการผู้นี้เชื่อว่าการนำเสนอข่าวของรัสเซียทูเดย์ (RT) ทั่วโลกสามารถดึงดูดผู้ชมในวงกว้าง โดยเฉพาะ “ผู้คนที่กังวลเกี่ยวกับความอยุติธรรมทั่วโลก หรือเหตุการณ์ที่พวกเขามองว่าโลกตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้อง”
“การชักจูงที่ทำอย่างระมัดระวังมาก”
เมื่อมองเผิน ๆ เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศของรัสเซียทูเดย์ (RT) ดูเหมือนเว็บไซต์ข่าวทั่วไป และรายงานข่าวบางเรื่องได้อย่างแม่นยำ
“มัน เป็นการจัดการที่รอบคอบมาก” ดร.เพรเชียส แช็ตเทอร์เย-ดูดี้ อาจารย์อาวุโสด้านรัฐศาสตร์และการระหว่างประเทศศึก มหาวิทยาลัยโอเพ่น ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับรัสเซียทูเดย์ (RT) ร่วมกับศาสตราจารย์ฮัทชิงส์ ดร. คริลลีย์ และคนอื่น ๆ ให้เหตุผล
เธอและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ได้วิเคราะห์ข่าวสารต่างประเทศของรัสเซียทูเดย์ (RT) ครอบคลุมระยะเวลาสองปี ระหว่างเดือน พ.ค. 2017 ถึง พ.ค. 2019 และสรุปว่า การคัดเลือกข่าว (ทั้งเรื่องที่ RT เลือกนำเสนอและเรื่องที่ตัดออก) สอดคล้องกับเรื่องราวบางเรื่อง
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยพบว่าความไม่สงบทางสังคมเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องรายงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ในประเทศยุโรป ในขณะที่ประเด็นที่มักถูกนำเสนอในการรายงานข่าวกิจการภายในของรัสเซียคือการซ้อมรบทางทหาร
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ยังกล่าวอ้างข้อมูลเท็จอย่างชัดเจน เช่น การนำเสนอภาพการผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2014 ว่าเป็น “การรวมชาติ” อย่างสันติ โดยปฏิเสธหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางทหาร ทางสถานีข่าวแห่งนี้ปฏิเสธหลักฐานอาชญากรรมสงครามของรัสเซียในยูเครนอย่างเป็นระบบ นับตั้งแต่การรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022

ที่มาของภาพ : SERGEI BOBYLYOV /AFP by Getty
รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังได้เผยแพร่บทความที่มีนักวิจารณ์กล่าวหาว่ายูเครนเป็นผู้ยิvเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ตกในเดือน ก.ค. 2014 ซึ่งในกรณีนี้หน่วยงานการบินของสหประชาชาติสรุปว่าสหพันธรัฐรัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ยิvเครื่องบินตกครั้งนี้ และคณะผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศwบว่าระบบขีปนาวุธที่ขนส่งจากรัสเซียไปยังยูเครนตะวันออกที่ถูกยึดครองนั้นถูกใช้โดยชาวรัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียเพื่อโจมตี
สิ่งที่น่าตกใจคือมุมมองของผู้ชมของการรายงานข่าวนี้
ในช่วงปี 2018-2022 นักวิจัยได้สัมภาษณ์คน 109 คนที่รับชมรัสเซียทูเดย์ (RT) ในสหราชอาณาจักรก่อนที่ใบอนุญาตการออกอากาศจะถูกเพิกถอนโดย องค์กรออฟคอม (Ofcom) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสื่อ ดร.แช็ตเตอร์เย-ดูดี้ กล่าวว่า เธอสังเกตเห็นว่าหลายคนรู้สึกว่า “รัสเซียทูเดย์ มีอคติ” แต่พวกเขามีเครื่องมือในการแยกแยะว่าอะไรจริงอะไรเท็จ
อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยของเธอ เธอเตือนว่า “ผู้ชม อาจไม่ตระหนักว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) มีอคติไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง รวมถึงเรื่องที่มาของความไม่ซื่อสัตย์ในการรายงานข่าว”
เหตุใดรัสเซียจึงกลับมาให้ความสำคัญกับแอฟริกาอีกครั้ง
ศาสตราจารย์ฮัทชิงส์ ระบุว่า การขยายเครือข่ายสื่อของรัฐรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อเร็ว ๆ นี้อยู่ในแอฟริกา
ในเดือน ก.พ. ทางการรัสเซียได้เดินทางไปยังเอธิโอเปียเพื่อเปิดตัวศูนย์บรรณาธิการแห่งใหม่ของวิทยุสปุตนิก
ก่อนหน้านี้ วิทยุสปุตนิกได้ออกอากาศทั่วภูมิภาคแอฟริกาด้วยภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และได้ขยายเครือข่ายไปยังภาษาอัมฮาริก ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาราชการของเอธิโอเปีย
รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังได้ปรับทิศทางช่องภาษาฝรั่งเศสให้มุ่งเป้าไปที่ประเทศในแอฟริกาที่พูดภาษาฝรั่งเศส พร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางเงินทุนจากโครงการต่าง ๆ ในลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน และสหรัฐอเมริกา มายังทวีปแอฟริกา ตามการเปิดเผยของบรรณาธิการบริหารของรัสเซียทูเดย์ (RT)

ที่มาของภาพ : MLADEN ANTONOV /AFP by Getty
ปีที่แล้ว สื่อของทางการรัสเซียอ้างว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) มีสำนักงานในแอฟริกาทั้งสิ้น 7 แห่ง แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างอิสระก็ตาม
ชาวแอฟริกันจำนวนมากมีมุมมองที่เป็นมิตรต่อรัสเซียอยู่แล้ว ทั้งความรู้สึกต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมและต่อต้านจักรวรรดินิยม ประกอบกับมรดกการสนับสนุนขบวนการปลดปล่อยของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น ทำให้มุมมองที่เป็นมิตรต่อรัสเซียค่อนข้างแพร่หลาย
ดร.คริลลีย์ แย้งว่าด้วยจุดเน้นใหม่นี้ รัสเซียหวังที่จะบ่อนทำลายอิทธิพลของชาติตะวันตก สร้างการสนับสนุนการกระทำของตน และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
เปิดหลักสูตรของรัสเซียทูเดย์ (RT) สำหรับนักข่าวชาวแอฟริกัน
เมื่อรัสเซียทูเดย์ (RT) เปิดตัวหลักสูตรออนไลน์หลักสูตรแรกที่เน้นเป้าหมายไปที่นักข่าวและบล็อกเกอร์ชาวแอฟริกัน ทีมข่าวโกลบอล ดิสอินฟอร์เมชัน ยูนิต (World Disinformation Unit) ได้เข้าร่วมเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
“เราเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่เคยถูกจับได้ว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จ” อเล็กเซย์ นิโคลอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของรัสเซียทูเดย์ (RT) กล่าวกับผู้เข้าเรียน
บทเรียนหนึ่งกล่าวถึงวิธีการหักล้างข้อมูลเท็จ ผู้สอนกล่าวว่าการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมาของซีเรียในปี 2018 โดยรัฐบาลอัสซาดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เป็น “ตัวอย่างที่ชัดเจนของข่าวปลอม” โดยไม่สนใจผลการสอบสวนที่กินระยะเวลา 2 ปีขององค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี ซึ่งยืนยันว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของกองทัพอากาศซีเรีย
ผู้ดำเนินการสอนยังปฏิเสธเหตุการณ์สังหารหมู่พลเรือนชาวยูเครนโดยกองกำลังรัสเซียในเมืองบูชา ของยูเครนในปี 2022 โดยเรียกมันว่า “เรื่องปลอมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด” (แม้จะมีหลักฐานมากมายจากสหประชาชาติและหน่วยงานอิสระที่กล่าวโทษกองกำลังรัสเซีย)
หลังจากพูดคุยกับผู้เข้าร่วมการอบรม หลายคนดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับเรื่องนี้ บางคนบอกกับบีบีซีว่าพวกเขาเชื่อว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) เป็นสถานีโทรทัศน์ระดับนานาชาติมาตรฐาน เทียบได้กับซีเอ็นเอ็น (CNN) หรือ อัลจาซีรา (Al Jazeera)
เมื่อเราสัมภาษณ์นักข่าวชาวเอธิโอเปียคนหนึ่งในเดือน ธ.ค. 2024 พวกเขาเห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของรัสเซียทูเดย์ (RT) โดยเรียกการสังหารหมู่ในเมืองบูชาว่าเป็น “การจัดฉาก” แต่ทั้งนี้รูปโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียของเขาเป็นรูปถ่ายของปูติน
นักข่าวจากเซียร์ราลีโอนคนหนึ่งยอมรับความเสี่ยงของข้อมูลที่ผิดและข้อมูลบิดเบือน แต่ก็แสดงความคิดเห็นด้วยว่าสถาบันสื่อแต่ละแห่งมี “คุณค่าและรูปแบบข่าว” ของตัวเอง
จากตะวันออกกลางสู่ลาตินอเมริกา
ศาสตราจารย์ฮัทชิงส์กล่าวว่า ในตะวันออกกลาง สื่อของรัฐบาลรัสเซียอย่างรัสเซียทูเดย์ (RT) ภาษาอาหรับ และวิทยุสปุตนิก ภาษาอาหรับกำลังปรับการรายงานข่าวสงครามอิสราเอล-กาซา เพื่อดึงดูดผู้ชมที่สนับสนุนปาเลสไตน์
รัสเซียทูเดย์ (RT) ยังพยายามขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงในแถบลาตินอเมริกา โดยรัสเซียทูเดย์ (RT) ได้ให้บริการฟรีทีวีใน 10 ประเทศในภูมิภาคนี้ตามข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ RT ซึ่งรวมถึงอาร์เจนตินา เม็กซิโก และเวเนซุเอลา นอกจากนี้ยังมีการออกอากาศทางเคเบิลทีวีในอีก 10 ประเทศ
ดร.อาร์มันโด ชากวาเซดา นักประวัติศาสตร์และนักรัฐศาสตร์ชาวคิวบา-เม็กซิโก ซึ่งเป็นนักวิจัยจากกลุ่มวิจัยการเมืองและนโยบาย (เน้นการศึกษาพลเมืองและการส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย) กล่าวว่า การนำเสนอข่าวต่างประเทศภาษาสเปนผ่านโทรทัศน์ฟรีทีวีเป็น “ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ”

ที่มาของภาพ : REUTERS/Dado Ruvic
แม้ว่ารัสเซียทูเดย์ (RT) จะถูกห้ามเผยแพร่บนยูทิวป์ (Youtube) ทั่วโลกตั้งแต่เดือน มี.ค. 2022 แต่ก็ยังคงแพร่หลายบนแพลตฟอร์มในบางพื้นที่
ในอาร์เจนตินา อานิบัล ไบกอร์เรีย ช่างไม้วัย 52 ปี บันทึกรายงานข่าวโทรทัศน์จาก RT และอัปโหลดไปยังช่องยูทิวป์ พร้อมกับความคิดเห็นของเขา
“ที่นี่ในบัวโนสไอเรส ข่าวมักจะเน้นไปที่เมืองมากเกินไป” เขาบอก “รัสเซียทูเดย์นำเสนอภาพรวมของทุกที่ในลาตินอเมริกา และแน่นอนว่ารวมถึงข่าวทั่วโลกด้วย”
“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าสิ่งที่พวกเขาเชื่อ เป็นความจริง”
ทำความเข้าใจผลกระทบ
ท้ายที่สุดแล้ว การประเมินผลกระทบของสื่อที่ทางการรัสเซียให้การสนับสนุนทั่วโลกนั้นเป็นเรื่องยาก
รัสเซียทูเดย์ (RT) อ้างว่ามีผู้รับชมโทรทัศน์มากกว่า 900 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศ และระบุว่าเนื้อหามียอดผู้ชมออนไลน์ 23,000 ล้านครั้งในปี 2024
แต่ ดร.ราสมุส ไคลส์ นีลเซน ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสาร มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ชี้ว่า “การเข้าถึงเนื้อหาหรือการออกอากาศ ไม่ใช่เกณฑ์ที่ดีในการวัดขนาดของผู้ชม”
เขายังโต้แย้งว่าตัวเลขผู้ชม 900 ล้านคนนั้น “แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” และอธิบายว่ายอดผู้ชมออนไลน์เป็นตัวชี้วัดที่คลุมเครือและถูกบิดเบือนได้ง่าย
ดร.แช็ตเตอร์เย-ดูดี้ เห็นด้วยว่าการประเมินผลกระทบโดยตรงเป็นเรื่องยาก แต่เธอชี้ให้เห็นกรณีหนึ่งที่อาจบ่งชี้ถึงความสำเร็จของรัสเซีย ในภูมิภาคซาเฮลของแอฟริกา ซึ่งทอดยาวจากเซเนกัลไปทางตะวันออกจนถึงซูดาน
รัสเซียมีบทบาททางทหารที่สำคัญ “โดยแทบไม่มีการต่อต้านจากสาธารณชน” แม้จะพิจารณาถึงสภาพภูมิประเทศที่ท้าทายก็ตาม (รัสเซียได้หยั่งรากลึกด้วยการสนับสนุนกลุ่มทหารในประเทศต่าง ๆ เช่น มาลี บูร์กินาฟาโซ และไนเจอร์)
อีกหนึ่งเรื่องเล่าที่ยังคงฝังแน่นคือ เหตุผลของรัสเซียในการรุกรานยูเครน รัสเซียได้ตีกรอบการขยายตัวของนาโตไปทางตะวันออกและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างยูเครนกับพันธมิตรว่าเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการรุกรานครั้งใหญ่ โดยอ้างว่าเป็น “ภัยคุกคามด้านความมั่นคง” และรัสเซียดำเนินการเพื่อ “ป้องกันตนเอง” แม้ว่าจะถูกหักล้างอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก แต่ข้อกล่าวอ้างเท็จนี้ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ของกลุ่มประเทศโลกใต้ (World South) ที่ระดับการพัฒนาต่ำกว่าภูมิภาคอื่น

ที่มาของภาพ : Misha Friedman/Getty Photos
“แนวคิดนี้… เป็นเรื่องเล่าที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงวิชาการ ในเม็กซิโก และในละตินอเมริกาโดยทั่วไป” ดร.ชากัวเซดา กล่าวถึงข้อโต้แย้งเรื่องการขยายอำนาจของนาโต
ผู้นำกลุ่มประเทศโลกใต้บางคนลังเลที่จะประณามสงครามรัสเซียกับยูเครน ในการลงมติครั้งแรกของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหลังจากการรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 ประเทศส่วนใหญ่ประณามสงคราม แต่มี 52 ประเทศที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติ โดยก่อนหน้านี้ได้งดออกเสียง หรืองดลงคะแนน ซึ่งรวมถึงโบลิเวีย มาลี นิการากัว แอฟริกาใต้ และยูกันดา

ที่มาของภาพ : RONALDO SCHEMIDT/AFP by Getty Photos
ดร.คริลลีย์มีมุมมองของตนเองเกี่ยวกับจุดจบของรัสเซีย
“รัสเซียกำลังพยายาม ลดความโดดเดี่ยวของรัสเซียบนเวทีโลก ด้วยการแสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นเหยื่อร่วมของการถูกรุกรานโดย ‘ตะวันตก' และเป็นผู้ปกป้องกลุ่มประเทศโลกใต้”
เขาเตือนว่าความเสี่ยงคือ “รัสเซียทูเดย์ และความพยายามบิดเบือนข้อมูลอื่น ๆ ของรัสเซียจะฉวยโอกาสและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของประชาธิปไตยเสรีนิยม ขณะเดียวกันก็ทำให้การรุกรานของรัสเซียในยูเครนเป็นเรื่องปกติ และนำเสนอรัสเซียในฐานะที่ไม่ใช่รัฐเผด็จการ แต่เป็นอำนาจที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยในทางการเมืองโลก”
เมื่อถูกขอให้แสดงความเห็นต่กข้อกล่าวหาที่ยกขึ้นมาในบทความนี้ รัสเซียทูเดย์ (RT) กล่าวว่า “เรากำลังขยายอิทธิพลไปทั่วโลกอย่างแท้จริง”
พวกเขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นเฉพาะ
ขณะที่วิทยุสปุตนิก ไม่ตอบกลับต่อคำร้องขอความคิดเห็น
ในท้ายที่สุด ศ.ฮัทชิงส์ เชื่อว่าเราทุกคนควรมีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมของทางการรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของอนาคตของระเบียบโลกและประชาธิปไตย
เขาเชื่อว่าฝ่ายตะวันตกกำลัง “ละสายตาจากเป้าหมาย” ด้วยการตัดงบประมาณสื่อ และ “เปิดช่องให้สื่ออย่างรัสเซียทูเดย์” เข้ามามีบทบาท
“มีหลายสิ่งที่ต้องเล่นและหลายสิ่งที่ต้องสูญเสีย… และรัสเซียกำลังได้เปรียบ แต่การต่อสู้ยังไม่พ่ายแพ้”
ที่มา BBC.co.uk