อนุทินแถลงตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ รับเงื่อนไข พรรคประชาชน

‘อนุทิน’ นำทีมตั้งรัฐบาล รวมเสียง ‘ประชาชน-พลังประชารัฐ-กลุ่มสุชาติ-งูเห่าเพื่อไทย’ ร่วมวง ยืนยันรับเงื่อนไขพรรคส้มแล้ว

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 21.forty five น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.), นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทยร่วมแถลงข่าวที่จะเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ทุกคนซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความพร้อมที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อทำให้ปัญหาของประเทศได้รับการแก้ไขและคลี่คลายโดยเร็ว ทำให้การขับเคลื่อนประเทศไทยเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก หลังจากได้รับทราบเงื่อนไขที่ทางพรรคประชาชนได้แจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบในการที่จะขอรับการสนับสนุนให้ไม่เกิดช่องว่างในการบริหารราชแผ่นดิน พวกเราได้รับทราบและได้พูดคุยหารือกันแล้ว จึงมอบหมายให้ตนเองไปหารือกับพรรคประชาชน ซึ่งเงื่อนไขของพรรคประชาชน ตามสาระสำคัญและรายละเอียดในที่เป็นประเด็นได้เห็นพ้องต้องกันทุกประการ

“หลังจากเรารับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วเห็นว่าเราจะปล่อยให้ประเทศไทยหยุดชะงักไม่ได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดเพราะเส้นผมบังภูเขา ถ้าเป็นรัฐบาลกลุ่มเดิมอาจจะแก้ไขไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มพวกเรา มั่นใจว่าแก้ไขได้ เราอยากคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมือง พวกเราเมื่อร่วมกับเสียงของพรรคประชาชน มั่นใจว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ” นายอนุทินกล่าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เงื่อนไขต่างๆ คือ เรื่องของการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องของการแก้ไขปัญหาคืนความสงบสุข เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์อย่างรุนแรง เมื่อเราดำเนินการเรื่องหลักๆ แล้ว เราจะคืนอำนาจให้กับประชาชนภายในเวลา 4 เดือนหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายรับตำแหน่ง ด้วยการยุบสภา พี่น้องประชาชนเหมือนรีเซตประเทศอีกครั้ง ใช้อำนาจเลือกคนที่จะมาบริหารประเทศต่อไป ทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ขอเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในทุกด้านและคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า หน้าที่ของการรวบรวมเสียงคือหน้าที่ของทุกคน ซึ่งพรรคประชาชนไม่มีข้อขัดแย้งหรือการไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด อาจจะเหลือแค่รายละเอียดปลีกย่อย ที่ทางพรรคประชาชนอยากให้มีการลายลักษณ์อักษรกำกับไว้ ซึ่งเป็นหลักการทำงานของพรรคประชาชน ถ้าอยู่ในเงื่อนไข เราก็ต้องรับเงื่อนไขนั้น ดังนั้นเราต้องไปจัดลำดับความสำคัญของบ้านเมืองที่ต้องได้รับการแก้ไขทันที รวมไปถึงพรรคกล้าธรรม ที่เพิ่งได้ไปพบมา ซึ่งเรามีความจริงใจในการเข้ามาแก้ปัญหา เรามีเสียงเพียงพอที่จะนำเสนอให้พรรคประชาชนวางใจว่า การร่วมมือกันระหว่างพรรคประชาชนและกลุ่มของเรานี้จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวว่า มากัน 16 คน ใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส. ซึ่งเรามีวัตถุประสงค์เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไป ในฐานะ ส.ส.เราทุกคนเห็นตรงกัน จึงเดินมาจุดนี้ด้วยกัน

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องของบ้านเมือง ขณะนี้เศรษฐกิจโลกและประเทศของเรากำลังลำบาก ถ้าเราไม่ผนึกกำลังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะฉะนั้นเห็นว่า อนุทินมีความเหมาะสม เราจึงจับมือไปด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ตนเองและพรรคพวกอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไป ก็เลยมาสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ เมื่อถามว่ามากันกี่คน นายศักดิ์ดากล่าวว่า ประมาณ 10 กว่าคน ยืนยันว่าเป็นเอกสิทธิ์ของตนเอง ไม่ได้มีปัญหากับพรรคเพื่อไทย แค่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปได้ ตนเองเป็นผู้แทนบ้านนอกเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และตนเองมั่นใจว่านายอนุทินเหมาะสมที่สุด