แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/j70s | ดู : 10 ครั้ง
cp-ผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจในเครือฯ-ปักธง-zero-kill-ผ่านหลักคิด-เศรษฐกิจหมุนเวียน

เปิดผลลัพธ์ก้าวหน้าซีพี! เดินหน้าผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั่วโลก ปักธง “Zero Kill” ผ่านหลักคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน” หนุนแปรรูปและฟื้นฟูทรัพยากร ส่งต่ออาหารกว่า 4 ล้านมื้อ


เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก ประกาศเดินหน้าเป้าหมาย “Zero Kill” อย่างเป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Forward Faster เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8 การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ผ่านการออกแบบระบบจัดการทรัพยากร และขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ก้าวข้ามจากแนวคิด “ใช้-ผลิต-ทิ้ง” สู่ “ใช้-ผลิต-ทิ้ง-แปรรูปเพิ่มมูลค่า” นับเป็นกลยุทธ์ที่ไม่เพียง “ลดการใช้” แต่ยัง “เพิ่มคุณค่า” กลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า “ทุกวันนี้ปัญหาขยะและมลภาวะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นแรงกดดันระดับโลกที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข เครือซีพี โดยดำริของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจไปสู่วิถีที่ยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economic system) มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5Rs ได้แก่ Re-educate สร้างความรู้ความเข้าใจใหม่แก่พนักงานและผู้บริโภค, Reduce ลดการใช้พลาสติกตั้งแต่ต้นทาง, Recycle ใช้วัสดุรีไซเคิลได้พร้อมระบบจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ, Change ใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ Reinvent ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อลดการพึ่งพาพลาสติกดั้งเดิม”

นอกจากนี้ดร.ธีระพล ยังระบุว่า “Zero Kill จึงไม่ใช่เพียงการจัดการขยะหรือของเสีย แต่คือการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economic system) ที่ฟื้นฟูทรัพยากร และส่งคืนคุณค่ากลับสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เครือซีพีเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน” ดร.ธีระพลกล่าวเสริม พร้อมย้ำถึงเป้าหมายปี 2573 ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์กำหนดไว้ในการเป็นองค์กร Zero Kill และ Zero Carbon

สำหรับผลสำเร็จที่จับต้องได้ในปี 2567 หรือปีที่ผ่านมา ได้แก่ 93.61% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้, 86.91% ของเสียจากการผลิตถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ และการจัดการอาหารส่วนเกินกว่า 1,417 ตัน เพื่อส่งต่อสู่ผู้เปราะบางในสังคม คิดเป็น 4,050,113 มื้ออาหาร ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง

โดยที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจยังดำเนินบทบาทเชิงรุก โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนกลไก Prolonged Producer Accountability (EPR) ตลอดจนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Commercial Coalition for a World Plastics Treaty ร่วมกับกลุ่มภาคธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า และเพื่อผนึกกำลังร่วมสนับสนุนการจัดทำสนธิสัญญาระดับโลก ที่มีเป้าหมายยุติมลพิษจากพลาสติก โดยมีโครงการที่สำคัญ อาทิ โครงการส่งเสริมการเก็บบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิล โดยรณรงค์และสนับสนุนให้ลูกค้าและผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแยกขยะ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัปไซเคิล พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรรีเทลและรีไซเคิล จัดตั้งจุดรับบรรจุภัณฑ์ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมและนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้จริง โดยสามารถรับคืนพลาสติกกว่า 458,605 กิโลกรัม และกล่อง-ลังกระดาษกว่า 32 ล้านกิโลกรัม

ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังมีผลงานการดำเนินโครงการ Zero Kill ที่สำคัญ ดังนี้

1. ธุรกิจค้าปลีก โดย บมจ. ซีพี ออลล์ – 7-Eleven และ ALL Café: ร่วมมือกับมูลนิธิ Scholars of Sustenance (SOS) ซึ่งเป็นมูลนิธิกู้ภัยอาหารแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานบริหารจัดการอาหารของประเทศไทย และ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผู้ดำเนินธุรกิจ “แม็คโคร – โลตัส” ที่มุ่งลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Food Kill to Landfill) ภายในปี 2573 ผ่านโครงการหลัก “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Kill” โดยร่วมมือกับพันธมิตร นำนวัตกรรมสีเขียวมาจัดการขยะอาหาร เปลี่ยนสิ่งที่เคยถูกทิ้ง นำมาสร้างประโยชน์ ต่อสังคม เกษตรกร และสิ่งแวดล้อม ซึ่งภายใต้โครงการหลักจะประกอบด้วย 2 แนวทางสำคัญ ได้แก่ 1) “กินได้ไม่ทิ้งกัน” การสนับสนุนอาหารส่วนเกินที่ยังมีคุณภาพดี และไม่หมดอายุ ส่งต่อไปยังผู้ที่ต้องการ เช่น ครอบครัวรายได้น้อยในชุมชน ผ่านความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โดยโครงการ BKK FOOD BANK รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และ SOS 2) “ขยะเป็นศูนย์ ประโยชน์เป็นแสน” ที่เน้นการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมสีเขียวมาเปลี่ยนขยะอาหารเป็นประโยชน์ เพิ่มมูลค่า เช่น การเลี้ยงแมลงโปรตีน BSF ให้เกษตรกร ลดต้นทุนอาหารสัตว์และสร้างสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ ซึ่งเป็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

2. ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร (ซีพีเอฟ): ผนึกกำลังร่วมกับมือพันธมิตรทางธุรกิจ ผลักดันโครงการทดลองนำเศษเปลือกไข่กลับมาใช้เป็นวัตถุดิบทางเลือกในกลุ่มการผลิตสินค้าสุขภัณฑ์ โดยปริมาณการทดลองใช้เปลือกไข่ในการผลิตสินค้ากลุ่มสุขภัณฑ์มากกว่า 40 ตัน มีเป้าหมาย 800 ตันต่อปี

3. ธุรกิจโทรคมนาคม (ทรู คอร์ปอเรชั่น): จัดโครงการ “e-Kill HACK BKK 2024” รวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 2.03 ล้านชิ้น เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ถูกต้อง พร้อมต่อยอดเป็นเวทีนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าใหม่จากทรัพยากรที่เคยถูกทิ้ง โดยความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทููตสวีเดน ประจำประเทศไทย กรุุงเทพมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุุณทหารลาดกระบัง และบริษัท เอสเค เทส ไทยแลนด์ จำกัด

4. ธุรกิจในต่างประเทศ (ประเทศจีน): โครงการฟาร์มสุกรขนาดใหญ่แบบบูรณาการ เมืองเซียงหยาง มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เกิดจากความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์และรัฐบาลท้องถิ่น มุ่งพัฒนาการจัดการฟาร์มสุกรควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ครอบคลุมพื้นที่ 10 อำเภอ 23 หมู่บ้าน เกษตรกรเข้าร่วม 216 ครัวเรือน รวม 3,240 คน โดยฟาร์มที่เข้าร่วมดำเนินงานตามกรอบ Zero Kill อาทิ นำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากฟาร์ม และกากตะกอนอินทรีย์ที่เกิดขึ้นจากระบบชีวภาพ กลับไปใช้ประโยชน์กับพื้นที่ปลูกข้าวโพด เป็นต้น ของเสียจากฟาร์มนำไปใช้ประโยชน์ได้ 100%

ล่าสุด เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั้ง CPF, CPALL, CPAXTRA และ CPPC ได้รวมพลังสะท้อนพันธกิจ Zero Kill ของเครือฯ ผ่านการสนับสนุนกิจกรรม SPOGOMI WORLD CUP 2025 THAILAND Qualifiers การแข่งขันกีฬาเก็บขยะระดับโลก ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน โดยมีพันธมิตรหลัก ได้แก่ จี-ยู ครีเอทีฟ และสยามพิวรรธน์ กิจกรรมนี้ใช้ “กีฬา” เป็นสื่อสร้างพฤติกรรมใหม่ กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปหันมาใส่ใจการจัดการขยะในชีวิตประจำวัน เครือซีพีมองว่าการมีส่วนร่วมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ขยายผลได้จริงในระดับสังคม

พร้อมกันนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังสืบสานมรดกแห่งสายน้ำ ผ่านโครงการ สืบสานมรดกแห่งสายน้ำ–แม่น้ำเจ้าพระยา โดยจัดกิจกรรมต่างๆ บนพื้นที่สาธารณะและชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ การติดตั้ง ทุ่นดักขยะ เฟสแรกยาวกว่า 3 กิโลเมตร จากสะพานตากสินถึงสะพานพระปกเกล้า เริ่มติดตั้งที่ท่าเรือไอคอนสยามก่อนขยายไปยังท่าเรืออื่นๆ ตลอดจนกิจกรรม เก็บขยะเนื่องในวันแม่น้ำโลก (26 กันยายน 2568) และ เก็บกระทงในวันลอยกระทง (5 พฤศจิกายน 2568) และรวมถึงการติดป้ายรณรงค์ไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำและเผยแพร่กฎระเบียบการใช้แม่น้ำเจ้าพระยา

โครงการนี้ยังมีบอร์ดนิทรรศการมรดกแห่งสายน้ำ–แม่น้ำเจ้าพระยา ติดตั้งบริเวณท่าเรือสำคัญ ได้แก่ ท่าเรือไอคอนสยาม ท่าเรือสาทร ท่าเรือสี่พระยา ท่าเรือราชวงศ์ และท่าเรือท่าดินแดง ทั้งสองโครงการสะท้อนความตั้งใจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการสร้าง ผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งการส่งเสริมพฤติกรรมใหม่ การจัดการขยะอย่างยั่งยืน และการฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเป็นรูปธรรม

การขับเคลื่อนสู่ Zero Kill ของเครือเจริญโภคภัณฑ์จึงไม่เพียงแต่สร้างผลลัพธ์เชิงสิ่งแวดล้อม แต่ยังเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตอกย้ำเจตนารมณ์ของเครือฯ ในการ Forward Faster เดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างมั่นคง ครอบคลุม และขยายผลในระดับโลก

ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

12 ก.ย. 68 เวลา 15.40 น. เลี่ยง! ถ.แจ้งวัฒนะ จากฝนตกหนัก มีน 2025-09-12 08:43:00

'ธปท.'แจง 2 สาเหตุ ทำยอดเงินฝากในบัญชี'ติดลบ'-สั่ง'แบงก์พาณิชย์'เร่งแก้ปัญหา

เกิดอะไรขึ้นกับคดีทางการเมือง หลังมีคำพิพากษา 16 คดีภายใน ส.ค. เพียงเดือนเดียว

สิริพงศ์ ชี้ ‘เปิดด่าน’ ต้องให้ทหาร–คนพื้นที่ ร่วมพิจารณา อ่ 2025-09-12 09:06:00

⚠️มิจฉาชีพตีเนียน ใช้บัญชีม้านิติบุคคลลวงเหยื่อ อย่าเพิ่งหล

ครม.ไฟเขียวยกเลิก‘ใช้จ่าย’งบกลางฯบริหารจัดการ‘ภัยแล้ง’7.4 พันล้านหลัง‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’รับสอบคดีฮั้ว

🏆กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คว้ารางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 256

11 ก.ย. 68 เวลา 13.forty five น. คืบหน้าเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ถ.นวมินท 2025-09-11 07:22:00

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/j70s | ดู : 10 ครั้ง
  1. ก่อนหน้านี้-มิจฉาชีพใช้บัญชีบุคคลมาเป็นบัญชีม้าในการกระทำควา ก่อนหน้านี้ มิจฉาชีพใช้บัญชีบุคคลมาเป็นบัญชีม้าในการกระทำควา
  2. ไทยพาณิชย์ปรับทัพคอนซูเมอร์-แบงก์กิ้ง-นำ-ai-ยกระดับบริการไร้รอยต่อ ไทยพาณิชย์ปรับทัพคอนซูเมอร์ แบงก์กิ้ง นำ Ai ยกระดับบริการไร้รอยต่อ
  3. “ดีเอ็นเอมืด”-อาจช่วยไขปริศนาสปีชีส์แมงมุมเต้นรำได้อย่างไร “ดีเอ็นเอมืด” อาจช่วยไขปริศนาสปีชีส์แมงมุมเต้นรำได้อย่างไร
  4. ผู้การนิติเวช-เผยผลชันสูตรศw-เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถูกสิงโตรุมทำร้าย-พ-|-2025-09-11-07:26:00 ผู้การนิติเวช เผยผลชันสูตรศw เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถูกสิงโตรุมทำร้าย พ 2025-09-11 07:26:00
  5. รวบช่างซ่อมนาฬิกา-ลักลอบนำนาฬิกาของลูกค้า-11-เรือนไปจำนำ-รว รวบช่างซ่อมนาฬิกา ลักลอบนำนาฬิกาของลูกค้า 11 เรือนไปจำนำ รว
  6. ปปชชี้มูลอดีตนายก-อบต.หนองอิเฒ่า-พร้อมพวกรวม-5-ราย-ทุจริตสรรหาผู้ดูแลเด็ก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลอดีตนายก อบต.หนองอิเฒ่า พร้อมพวกรวม 5 ราย ทุจริตสรรหาผู้ดูแลเด็ก
  7. อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง-จ.สุราษฎร์ธานี-เปิดภารกิจพิทักษ์ชีวิต-|-2025-09-11-07:37:00 อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี เปิดภารกิจพิทักษ์ชีวิต 2025-09-11 07:37:00
  8. กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองฯ-ให้-จ.อยุธยา-ช่วยเหลือ 💵กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองฯ ให้ จ.อยุธยา ช่วยเหลือ
  9. แผ่นดินไหวขนาด-22-ประเทศเมียนมา-2025-09-11-20:52:46-ตามเวลาประเทศไทย-|-วันศุกร์ที่-12-กันยายน-พศ.-2568 แผ่นดินไหวขนาด 2.2 ประเทศเมียนมา 2025-09-11 20:52:46 ตามเวลาประเทศไทย | วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568
  10. decaar-by-scg-จับมือแสนสิริ-แปลงขยะจากไซต์งานเป็นวัสดุตกแต่งรักษ์โลก-ใช้งานได้จริง DECAAR by SCG จับมือแสนสิริ แปลงขยะจากไซต์งานเป็นวัสดุตกแต่งรักษ์โลก ใช้งานได้จริง
  • No recent comments available.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend