สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงพื้นที่อมตะซิตี้ ศึกษาการทำงานระหว่างรัฐ-เอกชน ป้องกันทุจริต-เรียกรับสินบน

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงพื้นที่อมตะซิตี้ ชลบุรี ศึกษาการทำงานระหว่างรัฐ-เอกชน ป้องกันทุจริต-เรียกรับสินบนในการออกใบอนุญาต

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568 ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) นำโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช เยี่ยมชมการทำงานของนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในการบูรณาการระหว่างสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้เพื่อป้องกันการให้และรับสินบนที่เกิดจากการลงทุนและการประกอบกิจการ โดยมี นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคนิควิศวกรรม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ต้อนรับ

นายสาโรจน์ กล่าวว่า การมาที่อมตะซิตี้เป็นการมาดูการทำงาน ระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ โดยเฉพาะความโปร่งใส การพิจารณา ใบอนุญาตอนุมัติต่างๆ ที่มีการให้บริการอย่างครบวงจรในอมตะซิตี้ ซึ่งถือเป็นโมเดลต้นแบบสำคัญที่เราอยากจะให้เกิดในอุตสาหกรรมอื่นๆ ในการป้องกันการทุจริตการออกใบอนุญาตต่าง ๆ

“สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการกิจการโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางในการเฝ้าระวังการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงต่อการทุจริตในการเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจในการอนุมัติอนุญาตเกี่ยวกับกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการค้า การลงทุน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” นายสาโรจน์ กล่าว

นายสาโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับสินบนนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในประเทศไทย การเรียกรับสินบนจากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ความพยายามในการแก้ไขปัญหาทุจริตไม่ประสบความสำเร็จ จะเห็นได้จากค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ คะแนน CPI ของประเทศไทยที่ทำอย่างไรก็ไม่เพิ่มขึ้น หนึ่งในสาเหตุสำคัญ คือ สินบนในการดำเนินธุรกิจ ปัญหานี้มีความท้าทายหลายประการ เช่น ความเกรงกลัวของผู้ประกอบการต่อการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ ระยะเวลาและความล่าช้าในการ พิจารณาอนุมัติอนุญาต ส่งผลต่อต้นทุนและความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ความสมประโยชน์ระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงวัฒนธรรมการเสนอให้ของผู้ประกอบการเอง ก็เป็นอีกปัจจัยที่การแก้ไขปัญหาทำได้ยาก