ตามล่าฆาตกรชาวแอฟริกัน ชำแหละศwไปขายเพื่อทำ “เครื่องรางอวัยวะมนุษย์”

บีบีซีแอบถ่ายชายผู้หนึ่งที่อ้างว่าเป็นหมอไสยศาสตร์ ซึ่งใช้เวทมนตร์แบบ “จูจู” เขายังบอกว่าตนเองมีอวัยวะมนุษย์ขายเพื่อการนี้ด้วย
Article Recordsdata
    • Creator, ไทสัน คอนเตห์
    • Feature, บีบีซี แอฟริกา อาย
    • Reporting from รายงานจาก เซียร์ราลีโอน

หลังจากที่หลายครอบครัวในประเทศเซียร์ราลีโอน ต้องเจ็บปวดจากการสูญเสียผู้เป็นที่รัก เพราะคนเหล่านี้ถูกฆาตกรรมด้วยสาเหตุที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ รายการบีบีซี แอฟริกา อาย (BBC Africa Survey) ซึ่งรายงานข่าวสืบสวนสอบสวนในภูมิภาคแอฟริกา จึงได้ไปติดตามสืบเสาะถึงเบื้องหลังของการค้าชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์นี้

คำเตือน: เนื้อหาของบทความนี้อาจทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกไม่สบายใจได้

แม่ที่สูญเสียลูกชายวัยเพียง 11 ปี หลังเขาถูกฆาตกรรมไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว รู้สึกใจสลายและอับจนหมดหนทาง เพราะบัดนี้คนร้ายก็ยังไม่ถูกจับกุมหรือนำตัวมาลงโทษ ตำรวจสงสัยว่าคดีนี้น่าจะเป็นการสังหาร เพื่อนำอวัยวะไปทำพิธีทางไสยเวทมนตร์ดำ

“ทุกวันนี้ฉันได้แต่เป็นทุกข์และเจ็บปวด พวกมันฆ่-าลูกฉัน แต่ตอนนี้เรื่องกลับเงียบหายไป” ซัลเลย์ คาโลโคห์ แม่ของเด็กชาย “ปาปาโย” วัย 11 ปีกล่าว เธอยังบอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า ศwของลูกชายถูกพบหลังอวัยวะบางส่วนถูกตัดออกไปแล้ว ซึ่งรวมถึงอวัยวะสำคัญหลายชิ้น, ดวงตา, และแขนข้างหนึ่ง

ปาปาโยหายตัวไปหลังออกไปขายปลาที่ตลาด เมื่อเขาไม่กลับมาบ้านในวันนั้น ครอบครัวจึงต้องออกตามหานานถึงสองสัปดาห์ และในที่สุดก็พบศwที่อวัยวะขาดหายไปของเขาที่ก้นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง “เราเตือนลูก ๆ อยู่เสมอว่าให้ระวังตัว หากออกไปขายของก็อย่าไปในมุมที่ลับตาคน และอย่ารับของจากคนแปลกหน้า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในประเทศนี้” นางคาโลโคห์กล่าว

เหตุฆาตกรรมข้างต้นเกิดขึ้นที่เมืองมาเกนี ในทางตอนกลางของเซียร์ราลีโอน เมืองแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของผม (ผู้สื่อข่าว) ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นจึงตอกย้ำลวงหลอนผมถึงประสบการณ์ในวัยเด็ก เพราะเรามักได้ยินกันบ่อย ๆ ว่ามีเหตุฆาตกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับไสยเวทมนตร์ดำที่เรียกว่า “จูจู” (juju) แต่ตำรวจก็ไม่เคยสนใจติดตามหรือสืบสวนคดีเหล่านี้อย่างจริงจัง

ในกรณีของปาปาโย ตำรวจไม่ยอมทำแม้กระทั่งจะพิสูจน์ยืนยันว่า เด็กชายผู้นี้ถูกสังหารเพื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ (ritual killing) ทั้งที่ทราบกันดีว่ามีการฆ่-าคน เพื่อนำเอาชิ้นส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไปให้หมอไสยศาสตร์ประกอบพิธีกรรมต้องห้าม ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ซัลเลย์ คาโลโคห์ แม่ของ “ปาปาโย” ยังคงทำใจกับเรื่องที่ลูกชายถูกฆาตกรรมไม่ได้ เธอต้องการให้ตำรวจหาตัวคนร้ายให้พบโดยเร็ว

“จูจู” คือไสยศาสตร์พื้นถิ่นแอฟริกาตะวันตก เหล่าผู้ศรัทธามักเชื่อกันว่า พิธีทางไสยเวทมนตร์ดำดังกล่าวสามารถบันดาลโชคลาภ, ความมั่งคั่งร่ำรวย, และอำนาจบารมีให้กับตนได้ คนเหล่านี้ทุ่มเงินก้อนโตให้หมอไสยศาสตร์ผู้จัดหาอวัยวะมนุษย์ เพราะหลงเชื่ออย่างงมงายว่า ชิ้นส่วนอวัยวะดังกล่าวจะทำให้พิธีกรรมหรือเครื่องรางที่ปลุกเสก “ขลัง” มากยิ่งขึ้น

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของทางการมีอยู่น้อยมาก ตัวอย่างเช่นมีนักพยาธิวิทยา (pathologist) ผู้สามารถชันสูตรศwและตรวจสอบชิ้นส่วนอวัยวะได้อยู่เพียงคนเดียว ในประเทศซึ่งมีประชากรถึง 8.9 ล้านคน ทำให้ไม่อาจค้นหาและรวบรวมหลักฐานมาเพื่อการดำเนินคดีได้

ความเชื่อทางไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมและวัฒนธรรมของเซียร์ราลีโอน แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองส่วนใหญ่ก็เกรงกลัวในศาสตร์ลึกลับนี้ จนไม่กล้าติดตามสืบคดีเพื่อนำตัวคนร้ายที่เป็นหมอไสยศาสตร์มาลงโทษ ทำให้มีคดีค้างเก่าที่ปิดไม่ลงในลักษณะนี้อยู่มากมาย

แต่อย่างไรก็ตาม ตัวผม (ผู้สื่อข่าว) ยังคงต้องการจะรู้ถึงเบื้องหลังของธุรกิจใต้ดิน ที่มุ่งค้าอวัยวะมนุษย์เพื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ อันเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมนับครั้งไม่ถ้วนนี้ให้มากขึ้น ในที่สุดทีมงานรายการบีบีซี แอฟริกา อาย ของเรา ก็ได้พบตัวชายสองคน ซึ่งอ้างตนว่าเป็นจอมขมังเวทจูจู แถมยังเสนอจะช่วยจัดหาชิ้นส่วนอวัยวะคน เพื่อนำมาประกอบพิธีทางไสยเวทให้อีกด้วย

ทั้งสองคนต่างบอกว่า ตนเองเป็นเพียงสมาชิกผู้หนึ่งของเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ คนหนึ่งถึงกับอวดอ้างว่า เขามีลูกค้าที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลอยู่มากมายทั่วแอฟริกาตะวันตก ซึ่งบีบีซีไม่สามารถจะตรวจสอบได้ว่า คำกล่าวอวดอ้างนี้เป็นจริงหรือไม่

ทีมงานของเราคนหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นลูกค้าของหมอไสยศาสตร์ดังกล่าว โดยใช้ชื่อปลอมว่า “ออสมาน” และอ้างว่าเป็นนักการเมืองที่ต้องการเพิ่มอำนาจบารมี ด้วยการประกอบพิธีบูชายัญมนุษย์

พวกเราพากันเดินทางไปยังเขตแคมเบียที่ห่างไกล ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเซียร์ราลีโอนติดกับชายแดนของประเทศกินี เพื่อไปพบหมอไสยศาสตร์จูจูที่ซ่อนตัวอยู่ในอาศรมกลางป่าทึบ อันเป็นสถานที่ที่เขาใช้พบปะและให้บริการแก่ลูกค้า

จอมขมังเวทคนดังกล่าวบอกว่าตัวเองชื่อ “คานู” เขาสวมหน้ากากสีแดงสำหรับพิธีกรรม ซึ่งปกปิดใบหน้าทั้งหมดและตัวตนของเขาเอาไว้ ทว่าปากก็ยังพร่ำอวดโอ่ถึงสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันน่าทึ่งของตนเองไม่หยุด

“ผมเคยทำงานกับนักการเมืองใหญ่หลายคนในกินี, เซเนกัล, และไนจีเรีย เรามีทีมงานของเราเอง บางครั้งในตอนกลางคืนของฤดูกาลเลือกตั้ง ที่นี่จะมีคนมารวมตัวกันเต็มไปหมด” จอมขมังเวทคานูกล่าว

พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนถือว่า ฤดูกาลเลือกตั้งนั้นอันตรายอย่างยิ่ง จนต้องเตือนกันให้คอยระมัดระวังบุตรหลานเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงที่เด็กจะถูกลักพาตัวไปฆ่-าในพิธีบูชายัญของนักการเมืองได้

ในการไปพบกับจอมขมังเวทคานูครั้งที่สอง หมอไสยศาสตร์ผู้นี้ดูมีความมั่นใจมากขึ้น และกล้าแสดงให้ผู้สื่อข่าวของเราที่ปลอมตัวเป็นนายออสมาน ได้เห็นกะโหลกศีรษะที่เขาล่ามาได้จากการค้าอวัยวะมนุษย์ “เห็นไหม นี่เป็นหัวของใครสักคนที่ผมเอามาทำแห้งให้ลูกค้า กะโหลกนี้เป็นของผู้หญิง คาดว่าลูกค้าจะมารับเอาไปวันนี้หรือพรุ่งนี้แหละ”

คานูยังชี้ไปที่หลุมด้านหลังของอาศรมแล้วบอกว่า “นั่นคือที่ที่เราใช้แขวนอวัยวะคน เราเอาพวกเขามาเชือดและชำแหละศwที่นี่ เลืoดจะไหลลงไปในนั้น…แม้แต่ผู้ทรงอิทธิพลรายใหญ่ หากพวกเขาต้องการอำนาจบารมีเพิ่มขึ้น ก็จะมาหาเราที่นี่ แล้วผมก็ให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ”

เมื่อออสมานบอกไปว่า เขาอยากได้แขนขาของผู้หญิง เพื่อนำมาใช้ในพิธีกรรมแบบเดียวกัน คานูจึงเริ่มการเจรจาทางธุรกิจทันที “ค่าตัวสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่ที่ 70 ล้านลีโอน (ราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ)”

เซียร์ราลีโอนเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก และกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูบูรณะ หลังเกิดสงครามกลางเมืองอันโหดร้ายยาวนานถึง 11 ปี

เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ทีมงานของเราจึงไม่ไปพบกับคานูอีก และแม้จะเป็นไปได้ว่า เขาอาจเป็นเพียงนักลวงลวงต้มตุ๋นที่ไม่ได้ไปฆ่-าใครจริง แต่เราก็ได้มอบหลักฐานที่รวบรวมมาได้ให้กับตำรวจในท้องถิ่นไปแล้ว เพื่อให้พวกเขาทำการสืบสวนต่อไป

หมอไสยศาสตร์จูจูบางคนไม่ได้ประกอบพิธีกรรมที่โหดร้าย แต่มักเรียกตัวเองว่าเป็น “หมอสมุนไพร” ผู้ซึ่งใช้พืชในท้องถิ่นมาปรุงเป็นยาแผนโบราณ เพื่อช่วยรักษาโรคไม่ร้ายแรงที่ชาวบ้านมักเป็นกันบ่อย

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ประเทศเซียร์ราลีโอนซึ่งเคยเกิดสงครามกลางเมืองอันนองเลืoด ในช่วงทศวรรษ 1990 และเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคอีโบลาเมื่อสิบปีที่แล้ว ทุกวันนี้มีแพทย์แผนปัจจุบันที่ขึ้นทะเบียนกับทางการเพียง 1,000 คน แต่คาดว่ามีหมอสมุนไพรแผนโบราณอยู่มากถึง 45,000 คน

ชาวเซียร์ราลีโอนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาหมอสมุนไพรพื้นบ้าน ในการบำบัดรักษาโรคทางกายและทางใจ โดยสถานพยาบาลของหมอเหล่านี้มักเป็นศาลเจ้า ซึ่งมีบรรยากาศของความเชื่อทางจิตวิญญาณและไสยศาสตร์อันลึกลับปะปนอยู่ด้วยเสมอ ทั้งในยาและวิธีบำบัดโรคของพวกเขา

เชกู ตาราวัลลี ประธานสภาหมอแผนโบราณของเซียร์ราลีโอน กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่า หมอไสยศาสตร์จูจูที่ชั่วร้ายอย่างคานู พลอยทำให้ชื่อเสียงของหมอสมุนไพรอย่างพวกเขาป่นปี้ไปด้วย “เราพยายามกันอย่างหนักเพื่อรักษาภาพลักษณ์อันดีงาม แต่คนทั่วไปมักไม่เข้าใจและเหมารวมว่า พวกเรากับหมอไสยศาสตร์ที่ชั่วร้ายต่างก็เป็นหมอสมุนไพรเหมือนกันหมด ปลาเน่าแค่ตัวเดียวก็เหม็นไปทั้งข้อง…แต่เราเป็นผู้บำบัดรักษาโรค ไม่ใช่ฆาตกร”

ตอนนี้สมาคมหมอสมุนไพรของตาราวัลลี กำลังร่วมมือกับทางการและองค์กรเอกชนต่าง ๆ เพื่อหาทางให้พวกเขาสามารถเปิดคลินิกแพทย์แผนโบราณได้อย่างถูกต้อง เขายังเชื่อมั่นว่ามีเพียงผู้กระหายอำนาจและเงินตราเท่านั้น ที่จะเข้าไปพัวพันอยู่เบื้องหลังขบวนการค้าอวัยวะคนเพื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์

“เมื่อมีบางคนกระสันในอำนาจและอยากเป็นผู้นำ พวกเขาตัดอวัยวะจากคนเป็นมาบูชายัญ เผาร่างคนเพื่อนำเถ้าถ่านมาประกอบพิธีเสริมอำนาจ หรือไม่ก็ใช้น้ำมันพรายจากร่างคนเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน”

เชกู ตาราวัลลี ประธานสภาหมอแผนโบราณกล่าวว่า “ปลาเน่าแค่ตัวเดียวก็เหม็นไปทั้งข้อง…แต่เราเป็นผู้บำบัดรักษาโรค ไม่ใช่ฆาตกร”

จำนวนของคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ในประเทศเซียร์ราลีโอนที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมหรือชาวคริสต์นั้น ไม่มีผู้ใดทราบได้อย่างชัดเจน “ประเทศในทวีปแอฟริกาส่วนใหญ่ ไม่มีการจดบันทึกเหตุฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ โดยแยกประเภทออกมาต่างหากจากกรณีการฆาตกรรมทั่วไป หรือมีการบันทึกเป็นหมวดย่อยเลย” เอ็มมานูเอล ซาปอง โอโวซู นักวิจัยประจำมหาวิทยาลัย Aberystwyth ของสหราชอาณาจักรกล่าว

“เหตุฆาตกรรมบางกรณีก็ถูกจัดหมวดหมู่ไว้ผิดประเภท หรือมีการแจ้งความผิด เนื่องจากเข้าใจว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ, ถูกสัตว์ป่าทำร้าย, ฆ่-าตัวเสียชีวิต, หรือสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติ ทำให้คนร้ายส่วนใหญ่ซึ่งอาจจะมีมากถึง 90% ยังคงลอยนวลโดยไม่ถูกจับกุมตัว”

ทีมข่าวของบีบีซียังได้พบกับผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านวอเตอร์ลู บริเวณชานกรุงฟรีทาวน์ นครหลวงของเซียร์ราลีโอน จอมขมังเวทผู้นี้มีชื่อเสียดังกระฉ่อน ในเรื่องของการใช้ยาเสพติดและอาชญากรรมอื่น ๆ

“ผมไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีลูกน้องที่เป็นหมอสมุนไพรอีกถึง 250 คน ที่ใช้ชื่อผมทำธุรกิจ” หมอไสยศาสตร์ชื่อ “อิดารา” บอกกับนายออสมานหรือผู้สื่อข่าวบีบีซีที่แสร้งปลอมตัวเป็นลูกค้า ในครั้งนี้ออสมานยังซ่อนกล้องแอบถ่ายเอาไว้ด้วย

“ไม่มีอวัยวะคนชิ้นส่วนไหนที่เราหามาไม่ได้ เมื่อผมเรียกหาส่วนไหน พวกเขาก็จะเอาส่วนนั้นมาให้ เราทำงานกันเป็นทีม” อิดารากล่าว เขายังอวดอ้างต่อไปว่า ลูกน้องบางคนมีฝีมือสูงในการดักจับและลักพาตัวคน ซึ่งในการพบกันครั้งที่สอง อิดารายังได้เปิดข้อความเสียงจากลูกน้องให้ออสมานฟัง ซึ่งเสียงนั้นบอกว่ากำลังเตรียมจะออกล่าเหยื่อทุกคืน เพื่อหาชิ้นส่วนอวัยวะตามคำสั่งซื้อมาให้จงได้

ชมสารคดีฉบับเต็มบนยูทิวบ์ ที่นี่

ในตอนนั้นออสมานบอกกับอิดาราว่า อย่าเพิ่งรีบลงมือล่าเหยื่อตามคำสั่งซื้อของเขา แต่ไม่นานออสมานก็ได้รับโทรศัพท์จากหมอไสยศาสตร์ผู้นี้ ซึ่งแจ้งว่าได้พบตัวเหยื่อที่ต้องการแล้ว ดังนั้นทีมข่าวบีบีซีจึงรีบติดต่อกับอิบราฮิม ซามา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในทันที

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะตัดสินใจดำเนินปฏิบัติการบุกจับคนร้าย แต่ก็บอกด้วยว่าต้องขอความร่วมมือไปยังนายตาราวัลลี ประธานสภาหมอแผนโบราณเสียก่อน เพราะตำรวจจะไม่กล้าบุกจับหมอไสยศาสตร์จูจูอย่างเด็ดขาด หากไม่มีผู้รู้ไสยเวทประเภทเดียวกันคอยช่วยเหลือ

ที่ผ่านมานายตาราวัลลีได้เข้าร่วมในปฏิบัติการบุกจับหมอไสยศาสตร์มาแล้วหลายครั้ง “เมื่อเราได้รับรายงานว่า มีหมอไสยศาสตร์กำลังทำเรื่องชั่วร้ายในศาลเจ้าที่ไหนสักแห่ง เราจะต้องทำงานร่วมกับหมอสมุนไพรแผนโบราณที่รู้ไสยเวทเสมอ” อาลีอู จาลโล ผู้ช่วยผู้กำกับของสถานีตำรวจท้องถิ่นกล่าว “เราจะไม่บุ่มบ่ามไปบุกจับพวกหมอไสยศาสตร์เอง จนสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง เพราะรู้ดีว่าคนพวกนี้มีพลังอำนาจลึกลับในตัว ซึ่งผมเองก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้”

อิดาราถูกจับกุมตัวในขณะที่ซ่อนอยู่บนหลังคาบ้าน ในมือของเขากำมีดไว้แน่น หลังจากนั้นนายตาราวัลลีได้เริ่มตรวจค้นบ้านพักของอิดารา จนพบหลักฐานการฆาตกรรมเป็นกระดูกมนุษย์และเส้นผมจำนวนมาก รวมทั้งพบกองดินที่ดูเหมือนว่าขุดมาจากป่าช้าด้วย

หลักฐานที่พบนั้นมากพอให้ตำรวจสามารถจับกุมตัวอิดาราและชายอีกสองคนมาดำเนินคดี เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พวกเขาถูกตั้งข้อหาใช้ไสยเวทมนตร์ดำ รวมทั้งข้อหาครอบครองอาวุธแบบโบราณที่ใช้ในการฆ่-าคนบูชายัญ แต่อิดาราและพวกให้การปฏิเสธไม่ยอมรับสารภาพ ในที่สุดตำรวจจึงให้การประกันตัว แต่พวกเขายังคงต้องรับการไต่สวน และตำรวจจะทำการสืบคดีเพิ่มเติมต่อไป

ตำรวจบุกค้นบ้านหลังหนึ่งในเมืองวอเตอร์ลู พร้อมทั้งจับกุมเจ้าของบ้านซึ่งรวมถึง “อิดารา” ในเวลาต่อมาเขาถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการใช้ไสยเวท

ด้านตำรวจในเมืองแคมเบียที่กำลังติดตามคดีของคานูนั้น ผลปรากฏว่าข่าวคราวการสืบสวนได้เงียบหายเข้ากลีบเมฆ ผมจึงพยายามติดต่อหาคานูด้วยตนเอง เพื่อให้เขาชี้แจงข้อกล่าวหา แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถติดต่อได้

มีหลายครั้งที่คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลับเงียบหายไปเฉย ๆ ส่วนการติดตามสืบคดีก็มีอันต้องสะดุดหยุดลง เช่นกรณีที่อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้หนึ่งในกรุงฟรีทาวน์ เกิดหายตัวไปเมื่อสองปีก่อน แต่ต่อมามีผู้พบร่างของเขาถูกกลบฝังอยู่ในศาลเจ้าของหมอสมุนไพรคนหนึ่งในย่านวอเตอร์ลู

ต่อมาในเดือนส.ค. ปี 2023 ผู้ว่าการเขตได้โอนคดีดังกล่าวให้ศาลสูงทำการไต่สวน ทว่าแหล่งข่าวสองรายบอกกับบีบีซีว่า จนบัดนี้ศาลก็ยังไม่ได้ลงมือไต่สวนคดีแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องหาที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ ก็ได้รับการประกันตัวไปหมดแล้ว

ครอบครัวของผมก็กำลังเจอทางตัน ในการเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อฆาตกรรม ซึ่งต้องมาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของขบวนการหมอไสยศาสตร์ โดยเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ผมกำลังทำข่าวสืบสวนสอบสวนชิ้นนี้อยู่ ฟัตมาตา คอนเตห์ ญาติสาววัย 28 ปี ก็ถูกฆาตกรรมในเมืองมาเกนีด้วยเช่นกัน

ฟัตมาตาเป็นช่างทำผมและคุณแม่ลูกสอง ร่างของเธอถูกทิ้งไว้ข้างถนน ในวันรุ่งขึ้นหลังจากวันเกิดของเธอผ่านไปได้เพียงวันเดียว ชาวบ้านแถบนั้นบอกกับบีบีซีว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีศwอีกสองร่างถูกนำมาทิ้งไว้ข้างถนนด้วย

ฟันหน้าหลายซี่ของฟัตมาตาหายไป ทำให้ผู้คนเชื่อกันว่า เธอถูกสังหารเพื่อนำอวัยวะไปใช้ในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ “เธอเป็นสุภาพสตรีที่ไม่เคยทำร้ายใครเลย เธอเป็นคนเรียบร้อยรักสงบ และตั้งใจทำงานอย่างหนัก” ผู้มาร่วมพิธีฝังศwของฟัตมาตาที่สุสานของมัสยิดแห่งหนึ่งกล่าว

เราไม่อาจจะล่วงรู้ถึงเหตุจูงใจของฆาตกรในการสังหารฟัตมาตาได้เลย ครอบครัวของเธอลงทุนจ่ายเงินจำนวนมหาศาล เพื่อขนย้ายร่างไปรับการผ่าชันสูตรที่กรุงฟรีทาวน์เอง หลังตำรวจท้องถิ่นบอกว่าไม่มีงบประมาณพอจะให้บริการดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่สามารถสรุปผลการชันสูตรได้อย่างแน่ชัด ทำให้ยังไม่มีการจับกุมตัวคนร้ายจนกระทั่งบัดนี้

ส่วนคดีฆาตกรรมเด็กชายปาปาโย ที่ยังคงค้างคาใจเป็นอย่างมากสำหรับแม่ของเขา การถูกตำรวจละเลยทอดทิ้งไม่ติดตามสืบคดี ยิ่งทำให้กระแสความโกรธเคืองและความหวาดกลัว เพิ่มสูงขึ้นเป็นทวีคูณในหมู่ชาวบ้านที่ยากจนของเมืองมาเกนี

รายงานเพิ่มเติมโดย คริส อัลค็อก และ ลูอิส บาร์รูโช