
อะไรซ่อนอยู่ในดีลเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ?

ที่มาของภาพ : Reuters
- Author, เจค ควอน
- Goal, ผู้สื่อข่าวบีบีซีแผนกภาษาเกาหลี
- Author, กาวิน บัทเลอร์
- Goal, บีบีซีนิวส์
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐอเมริกาแล้ว
ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเผยแพร่เอกสารระบุว่า สหรัฐฯ อนุมัติการสร้าง “เรือดำน้ำโจมตี” และตกลงให้ความร่วมมือด้านการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 พ.ย.)
ข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งมีทั้งเกาหลีเหนือที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และจีนที่ขยายอิทธิพลไปทางตะวันตก
นี่คือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว
ข้อตกลงนี้มีเนื้อหาอะไรบ้าง?
ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เกิดขึ้นหลังจากผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงการค้าที่มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ อย่างกว้างขวางเมื่อเดือนก่อน โดยหลักแล้วข้อตกลงนี้จะลดอัตราภาษีตอบโต้เหลือ 15% จากเดิม 25%
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เคยกำหนดอัตราภาษี 25% ต่อเกาหลีใต้ แต่ในเวลาต่อมา ลี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ สามารถเจรจาลดเหลือ 15% โดยมาพร้อมกับการที่เกาหลีใต้ประกาศว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งรวมถึงเงินลงทุนสด 200,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.2 ล้านล้านบาท) และการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเรืออีก 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.4 ล้านล้านบาท)
ในเอกสารของทำเนียบขาวที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 พ.ย.) ระบุว่าสหรัฐฯ “อนุมัติให้สาธารณรัฐเกาหลีสร้างเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์… และจะ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาข้อกำหนดของโครงการนี้ รวมถึงช่องทางจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) ของเขาว่า เรือดำน้ำเหล่านี้จะดำเนินการต่อโดยกลุ่มบริษัทฮันฮวา (Hanhwa) ของเกาหลีใต้ที่อู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟีย
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and continue finding outได้รับความนิยมสูงสุดCease of ได้รับความนิยมสูงสุด
ปัจจุบันมีเพียง 6 ประเทศที่ครอบครองเรือดำน้ำเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และ อินเดีย
เกาหลีใต้มีเรือดำน้ำประมาณ 20 ลำ แต่ทั้งหมดใช้ระบบดีเซล ซึ่งต้องโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำบ่อยกว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่สามารถเดินทางได้ไกลและเร็วกว่า
ทรัมป์เขียนบนทรูธ โซเชียล ว่า “ผมได้อนุมัติให้พวกเขาสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แทนเรือดำน้ำดีเซลแบบเก่าที่คล่องตัวน้อยกว่า”
เกาหลีใต้เป็นประเทศชั้นนำด้านพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน และเคยมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ในทศวรรษ 1970 แต่ยุติลงหลังถูกสหรัฐฯ กดดัน
หลังจากนั้นความสามารถในการเสริมสมรรถนะหรือแปรรูปยูเรเนียมของเกาหลีใต้ก็ถูกจำกัดโดยสหรัฐฯ และต้องพึ่งพาการนำเข้าเท่านั้น
เหตุใดเกาหลีใต้ต้องการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ?
ประธานาธิบดีลี แจ-มยอง บอกกับทรัมป์ในการประชุมสุดยอดเอเปคเมื่อเดือนที่แล้วว่า เกาหลีใต้ต้องการเรือดำน้ำเหล่านี้เพื่อรับมือเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ หลังประเทศดังกล่าวเพิ่งเปิดเผยว่ากำลังเดินหน้าโครงการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของตนเอง
อัน กยู-บัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะเป็น “ความสำเร็จที่ชาวเกาหลีใต้ภาคภูมิใจ” และเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างการป้องกันประเทศต่อเกาหลีเหนือ
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ศักยภาพของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ปฏิบัติการได้อย่างเงียบเชียบ จะทำให้คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ “นอนไม่หลับในยามค่ำคืน”

ที่มาของภาพ : Getty Shots
เกาหลีเหนือมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์หรือไม่ ?
เกาหลีเหนือก็กำลังเดินหน้าโครงการเรือดำน้ำนิวเคลียร์เช่นกัน โดยอาจได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย จากข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้
เมื่อเดือนมีนาคม 2025 เกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่อ้างว่ากำลังก่อสร้าง พร้อมภาพคิม จอง อึน เยี่ยมชมอู่ต่อเรือ
เป็นที่คาดการณ์กันว่าเกาหลีเหนือจะมีเรือดำน้ำดังกล่าวภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
คาดว่าเกาหลีเหนือมีคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ประมาณ 50 ลูก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่กว้างขวางของประเทศ
โจ บี-ยุน นักวิจัยจากสถาบันเซจง ระบุว่า การที่เกาหลีใต้ได้ครอบครองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะช่วยให้ประเทศรักษาสมดุลในภาวะการแข่งขันด้านอาวุธที่ทวีความรุนแรงในเอเชียตะวันออก
“เป็นเรื่องที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์จริง” เธอกล่าวกับบีบีซี
“การที่เกาหลีใต้ได้เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จึงเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ส่งแนวโน้มให้มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเท่านั้น”
ข้อตกลงนี้จะทำให้ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
แม้เรือดำน้ำลำดังกล่าวจะมีราคาสูง แต่ก็ยังไม่ปรากฎชัดเจนว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะช่วยเสริมศักยภาพการป้องกันประเทศของเกาหลีใต้มากน้อยเพียงใด และผู้เชี่ยวชาญบางคนเห็นว่าข้อข้อตกลงนี้ไม่ได้เปลี่ยนดุลอำนาจบนคาบสมุทรเกาหลีอย่างมีนัยสำคัญ
ยัง อุค นักวิจัยจากสถาบันนโยบายอาซาน บอกกับบีบีซีว่า จุดประสงค์หลักของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์คือการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่า รัฐบาลตอบสนองต่อภัยคุกคามนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ
“เกาหลีใต้ไม่สามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองเพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือได้” ดร.ยัง กล่าว “สิ่งที่ทำได้คือการจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์”
อย่างไรก็ตาม ดร.ยังเชื่อว่าเกาหลีเหนืออาจยินดีต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะมันจะช่วยตอกย้ำเหตุผลในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้การเรียกร้องให้เปียงยางละทิ้งคลังอาวุธนิวเคลียร์ยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้น
โจ บี-ยุน ย้ำถึงข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ที่เกาหลีใต้จะได้รับจากข้อตกลงเรือดำน้ำ โดยระบุว่านี่เป็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ที่ทำให้เกาหลีใต้ “กลายเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค”
“จุดเด่นที่สุดของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์คือความเร็ว” เธอกล่าว “เรือดำน้ำสามารถเดินทางได้เร็วและไกล และทำให้เกาหลีใต้สามารถปฏิบัติการร่วมกับหลายประเทศได้”
สหรัฐฯ ได้อะไรจากข้อตกลงนี้ ?
สำหรับสหรัฐฯ การสนับสนุนโครงการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้น่าจะมีเป้าหมายเพื่อกดดันทั้งเกาหลีเหนือและจีน
“ทรัมป์ผลักภาระค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันไปที่เกาหลีใต้” ดร.ยัง อุค อธิบาย
“เกาหลีใต้จะต้องขยายงบประมาณกลาโหมเป็นอย่างมาก และจะต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในการกดดันจีนและเกาหลีเหนือ” เขากล่าว

ที่มาของภาพ : Getty Shots
สหรัฐฯ และจีนแข่งขันกันมานานเพื่ออิทธิพลเชิงยุทธศาสตร์ในเกาหลีใต้ ทำให้รัฐบาลของเกาหลีใต้ต้องเดินบนเส้นทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน โดยช่วงหลัง จีนยังเพิ่มกิจกรรมทางทะเลใกล้เขตแดนทางทะเลของเกาหลีใต้ในลักษณะคล้ายกับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้
ดร.ยัง อุค กล่าวว่า จีนต้อง “โกรธมาก” เกี่ยวกับข้อตกลงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ
หลังการประกาศข้อตกลง ไต้ ปิง เอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ ระบุว่า เขาหวังว่าเกาหลีใต้จะ “จัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความกังวลของทุกฝ่าย”
ไต้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจีนกำลังหารือกับเกาหลีใต้ผ่านช่องทางการทูต และเน้นย้ำว่า “สถานการณ์ด้านความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและในภูมิภาคยังคงซับซ้อนและอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง”
ต้องจับตามองอะไรต่อ
แม้ทรัมป์กล่าวว่าเรือดำน้ำจะถูกสร้างในเมืองฟิลาเดลเฟียและสร้างงานในสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยืนยันว่าต้องสร้างในประเทศของตน เพื่อการลำเลียงส่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วได้รวดเร็วกว่า
รายงานข่าวระบุว่า คิม มิน-ซอก นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวระหว่างการประชุมรัฐสภาว่าอู่ต่อเรือในเมืองฟิลาเดลเฟียที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าของนั้น “ไม่มีศักยภาพ” ในการสร้างเรือดำน้ำประเภทนี้
ทั้งนี้ ฮันฮวาซึ่งเป็นเจ้าของอู่ต่อเรือ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากบรรลุข้อตกลงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรับแก้ข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ระหว่างสองประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และกำหนดกรอบการใช้งานทางการทหารได้













