
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘วราภัสร์ ลอยขจร' อดีตปลัด อบต.ห้วยร่วม นครสวรรค์ คดีที่ 2 เรียกรับเงินผู้สมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังก่อนหน้านี้โดนโทษไปแล้ว 2 ปี
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางสาววราภัสร์ ลอยขจร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยร่วม อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ กับพวก เรียกรับ เงินจากผู้สมัครสอบบรรจุเข้ารับ ราชการ เพื่อช่วยเหลือให้สามารถ บรรจุเข้ารับราชการได้ ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. 143 พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ 2542 และที่แก้ไข
เพิ่มเติม ม.123/4 ประกอบ ป.อ. ม.86 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ 2561 ม. 175 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2567
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาว่า นางสาววราภัสร์ ลอยขจร จำเลย มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 3 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
พิเคราะห์รายงานสืบเสาะและพินิจแล้ว จำเลยก่อเหตุโดยอาศัยความน่าเชื่อถือในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์แก่ตน โดยขาดจิตสำนึกที่ดีของความเป็นข้าราชการและไม่มีความเคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อระบบราชการและสังคมโดยรวม ภายหลังเกิดเหตุจำเลยยังไม่ได้ ชดใช้ค่าเสียหายคืนให้แก่นาง ว . และนาย พ. อีก 500,000 บาท
พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษจำคุก ให้นับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลข แดงที่อท 28/2567 ของศาลนี้
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ระบุว่า ผู้ใดเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนางสาววราภัสร์ ลอยขจร เป็นเวลา 2 ปี พร้อมพวก 1 ราย ในคดีเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการที่ อบต.โตนด อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นการตอบแทนที่จะช่วยเหลือในการบรรจุเข้ารับราชการ ไปแล้ว 1 คดี
- คุกคนละ 2 ปี! อดีตปลัด อบต.ห้วยร่วม-พวก เรียกรับเงินผู้สมัครสอบบรรจุรับราชการ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )