แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/awiv | ดู : 10 ครั้ง
‘อภินพ’-นักวิชาการนิติศาสตร์-และรัฐธรรมนูญเปรียบเทียบจาก-มธ.

‘อภินพ' นักวิชาการนิติศาสตร์ และรัฐธรรมนูญเปรียบเทียบจาก มธ. มองรัฐสภาควรให้ความสำคัญกับการพูดถึง กมธ.ยกร่าง รธน. เพราะจะเป็นผู้เขียนรัฐธรรมนูญตัวจริง ส่วน สสร.จะเป็นคนให้คำแนะนำเป็นหลัก แนะเขียนบทบัญญัติการร่าง รธน.ใหม่ให้ละเอียด หากมีข้อพิพาท จะหาทางลงอย่างไรไม่ให้เกิดทางตัน กังวลหากไม่คิดเอาไว้ อาจเปิดช่องให้ศาล รธน. หรือองค์กรอิสระ เข้าแทรกแซง

เนื่องด้วยวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ รัฐสภามีนัดประชุมสำคัญ พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 3 พรรคหลัก คือ ภูมิใจไทย-ประชาชน-เพื่อไทย นับเป็นการนับหนึ่งของพันธสัญญารัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าด้วยการร่างรัฐธรรมนูญใหม่

ที่ผ่านมาเราเน้นย้ำเรื่อง สสร. หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และอยากให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เพราะคิดว่า สสร.เป็นผู้กำหนดหน้าตาของรัฐธรรมนูญ (ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งวินิจฉัยแล้วว่าเลือกตั้งตรงไม่ได้)

อย่างไรก็ตาม อภินพ อติพิบูลย์สิน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชนและรัฐธรรมนูญเปรียบเทียบ ให้ความเห็นว่า อีกกลไกหนึ่งที่สำคัญมากแต่คนมองข้ามและไม่ค่อยพูดถึงคือ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะพวกเขาจะเป็น ‘ผู้เขียนรัฐธรรมนูญที่แท้จริง' ส่วน สสร.นั้นเป็นเพียงผู้กำหนดกรอบเนื้อหา ทั้งยังเห็นด้วยว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังจะพิจารณากันในรัฐสภาเร็วๆ นี้นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

“ขั้นตอนตอนนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะมันเป็นการตัดสินเรื่องการตัดสินใจทั้งหมด อะไรรับได้ อะไรรับไม่ได้ ขั้นตอนการพิจารณาจะเป็นอย่างไร เช่น กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญจะทำงานยังไง ร่างต่างๆ ไม่บอกรายละเอียด บอกให้อิงกับข้อบังคับการประชุมสภา เหมือนกรรมาธิการพิจารณากฎหมายทั่วไป การยกร่างรัฐธรรมนูญจะทะเลาะกันยิ่งกว่าการร่างกฎหมายทั่วไป ถ้าไม่เขียนละเอียดมันอาจจะมีอุบัติเหตุได้ เดี๋ยวไปถามศาลรัฐธรรมนูญอีก

“รัฐธรรมนูญจะมีหน้าตาอย่างไรขึ้นกับกรรมาธิการชุดนี้จะคุยกันอย่างไร ตัว สสร.ให้มีหน้าที่อะไรบ้างก็เรื่องใหญ่ที่คนมองข้าม จะให้เขาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ด้วยหรือเปล่า หลายเรื่องทะเลาะกันเยอะก็มักเอาไว้ร่างใน พ.ร.ป. แล้วใครร่าง อาจต้องล็อกตั้งแต่ตอนนี้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนร่าง บางประเทศจะบอกไว้เลยว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญโดยตรงให้ สสร.ดึงอำนาจการร่างไปจากสภาด้วย” อาจารย์จาก มธ. กล่าว

อภินพ ระบุถึงความต่างในแนวคิดของแต่ละพรรค บางพรรคกำหนดให้ สสร.กับ กมธ.แทบจะไม่เกี่ยวกันเลย กมธ.เป็นคนร่างก็ร่างไป สสร.เป็นคนให้ความเห็น มีการประชุมร่วมกัน แต่ไม่ได้มีส่วนในการยุ่งกับร่างเลย แค่แสดงความเห็นไม่ได้ลงมติด้วยซ้ำ

“สสร.ตอนนี้ อย่างน้อยในร่างของพรรคประชาชนที่ละเอียดที่สุด แนวโน้มเป็นไปในทางเป็นองค์กรรับฟังความเห็นจากประชาชน กลั่นกรองแล้วมาบอกกับกรรมาธิการยกร่างอีกที ขณะที่ตอนทำรัฐธรรมนูญ 2540 ให้บทบาท สสร.เยอะที่สุดแล้ว เพราะให้มาแปรญัตติรายมาตราได้เลย” ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน ระบุ

อภินพ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้เหมือนร่างพรรคการเมืองทั้งหลายไม่ได้คิดกันว่า ถ้ามีปัญหาข้อโต้แย้งในขั้นตอนแต่ละขั้นตอนสุดท้ายจะจบที่ไหน ถ้าไม่เขียนไว้ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมาหาท่านเองเพราะจะมีคนร้องศาลรัฐธรรมนูญเอง อาจจะเป็นการใช้ มาตรา 49 ล้มล้างการปกครองฯ ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง หรือมาตรา 210(2), 213, 256(9) เป็นต้น

“การป้องกันเดธล็อก ถ้าเกิดกระบวนการร่างมันไปต่อไม่ได้ เพราะเห็นไม่ตรงกันในเรื่องร้ายแรงมากๆ เช่น แก้หมวด 1 หมวด 2 ได้ไหม จะทำอย่างไร มันมีตั้งแต่มาตรการอย่างให้พักการประชุม ให้เปลี่ยนสถานที่การประชุม หรือกระทั่งที่เด็ดขาดคือเอาไปลงประชามติกันอีกทีหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คิดเผื่อไหม ถ้าไม่คิดเผื่ออาจจะถึงทางตันค่อนข้างง่าย เวลาที่ถึงทางตัน มันรวมถึงทางตันทางการเมืองด้วย หรือกรณีที่ไม่ได้คิดเผื่อไว้ว่าเสียงเท่ากันจะทำยังไง หรือกรณีวอล์กเอาต์ระหว่างร่างรัฐธรรมนูญ หรือสภาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญลาออกครึ่งหนึ่งจะทำยังไง ถ้าไม่เขียนไว้เผื่อหลายชั้น ทางตันเกิดขึ้นได้ในหลายรอบ ตั้งแต่รอบ สสร. รอบกรรมาธิการยกร่าง รอบที่ร่างกลับมารัฐสภาอีกทีหนึ่งซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบของ สว.ด้วย ทางตันอาจนำไปสู่การให้ศาลช่วยตัดสินใจ

“เมื่อพูดถึงอำนาจตุลาการ จริงๆ เราสามารออกแบบได้หลากหลายว่าให้ศาลเข้ามาดูได้แค่ไหน ทางเลือกอาจเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือรัฐสภากุมอำนาจไว้ทั้งหมด กำหนดเลยว่าถ้ามีปัญหาในทางปฏิบัติให้โหวตกันหรือตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อพิจารณาข้อพิพาท หรือจะใช้ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ หรือจะใช้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก็อาจได้รับความน่าเชื่อถือ” อภินพ กล่าว

อตินพ อติพิบูลย์สิน

อาจารย์นิติศาสตร์​ มธ. กล่าวแสดงความเป็นห่วงเส้นทางการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในครั้งนี้ว่า ทางหนึ่งเราต้องการให้มีส่วนร่วมเยอะๆ นั้นเป็นเรื่องดี แต่สุดท้ายแล้วดูจากประสบการณ์ที่ผ่านมาแทบไม่มีผลในทางเนื้อหา มีส่วนร่วมเยอะบางทีความขัดแย้งเยอะ มีส่วนร่วมเยอะมีความชอบธรรม แต่มันไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ดี ร่างรัฐธรรมนูญที่ดีคือร่างที่มาจากปัญหาของภาคการเมืองที่ทุกคนรู้ปัญหาว่าการเมืองเรามีปัญหาอะไร นักการเมืองก็ตกลงกันยอมให้กัน ซึ่งจะยอมกันได้ก็เมื่อเกิดวิกฤต ไปต่อไม่ได้แล้ว แต่ของไทยยังไม่วิกฤต

“ผมเป็นห่วงว่าการร่างรัฐธรรมนูญมันยาก เพราะประสบการณ์ทั่วโลก ส่วนใหญ่จะสำเร็จต้องมีวิกฤต วิกฤตของเราคืออะไร เราเห็นปัญหาต่างๆ ในรัฐธรรมนูญ แต่มันเกิดวิกฤตศรัทธาถึงระดับพอหรือยัง หรือมันแก้กดไว้อยู่ ยังไม่ออกมา” อภินพ กล่าว

เขาตั้งคำถามด้วยว่า ประวัติศาสตร์การแก้รัฐธรรมนูญของไทย นับตั้งแต่ 2475 มา เราเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญกันจริงจังตอนไหนบ้างสำหรับรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับที่เคยมีมา คำตอบคือ รัฐธรรมนูญ 2475 เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉบับที่เปลี่ยนแปลงจริงๆ ในทางเนื้อหา นอกจากนั้นมีน้อยมาก เช่น รัฐธรรมนูญ 2489 ที่กำหนดให้มี 2 สภา (สภาผู้แทนราษฎร-วุฒิสภา) รัฐธรรมนูญ 2540 ที่เกิดองค์กรอิสระและเกิดแนวคิดการตรวจสอบด้วยอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจทางการเมือง หากเราจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ก็ต้องฉีกไปแบบนั้น ที่ผ่านมาเราไม่ศรัทธาในรัฐธรรมนูญ เพราะมันไม่ได้แตกต่างกันมากในสาระสำคัญ แตกต่างกันเพียงรายละเอียด แต่การที่จะร่างใหม่ให้เปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหรือหลักการอย่างมากก็อาจจะไม่สามารถผ่านได้เช่นกัน

“ผมคิดมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าสถานการณ์ของเราไม่มีทางออกที่ดีเท่าไร ถ้าแก้ช่วงหลังปี 2560 จะดีกว่ามาก แต่ตอนนี้ล่วงเลยมาแล้วและทุกส่วนรู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 2560 ยังไง เลยคิดว่าเน้นแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องๆ ไป เรื่อง สว. เรื่องศาลรัฐธรรมนูญ แก้เลยแม้ต้องไปประชามติอยู่ดี ผมว่าอย่างน้อยควรทำควบคู่ไปด้วยกับการแก้ทั้งฉบับ จะได้ไม่ล้มเหลว เราสามารถแก้บางประเด็นไปพร้อมกันได้ แก้บางจุดไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ทำกันใหม่ได้เรื่อยๆ” อภินพ กล่าว

อภินพ ยกตัวอย่าง รัฐธรรมนูญอินโดนีเซียที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก็เป็นรัฐธรรมนูญของเผด็จการ แต่แก้เนื้อหาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ทั้งนี้ เขาเห็นว่าหากร่างใหม่ทั้งฉบับแล้วไม่ประสบความสำเร็จหรือแก้ประชามติ จะส่งผลให้ติดกับร่างเดิมไปอีกนาน กลายเป็นความเห็นของประชาชนไปรับรองว่าต้องการรัฐธรรมนูญ 2560

เปิด 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

‘กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ' มาจากไหน?

พรรคภูมิใจไทย :

ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้งกรรมาธิการขึ้นคณะหนึ่งทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไขและกำหนดเวลาเพื่อเสนอต่อสภาร่างฯ ประกอบด้วย กรรมาธิการอย่างน้อย 45 คน แต่งตั้งจาก สสร.2 ใน 3 ที่เหลือแต่งตั้งจากบุคคลที่ไม่ได้เป็น สสร.โดยพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ในการทำหน้าที่

พรรคเพื่อไทย :

ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญตามแนวทางที่สภาร่างรัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อเสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 27 คน แต่งตั้งจาก สสร.14 คน จากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน 5 คน ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ 5 คน ผู้มีประสบการณ์บริหารราชการแผ่นดินและการร่างรัฐธรรมนูญ 3 คน

พรรคประชาชน :

คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญตามคำแนะนำของสภาที่ปรึกษาฯ ซึ่งไปรับฟังความเห็นประชาชนมา กรรมาธิการมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จำนวน 70 คน โดยใช้ระบบบัญชีรายชื่อที่ให้ผู้สมัครสมัครเป็นทีมและใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จากนั้นรัฐสภาคัดเลือก 35 คน แบ่งสัดส่วนตาม สส. สว. และพรรคการเมือง เท่ากับว่าหากสมาชิกรัฐสภามีทั้งหมด 700 คน สมาชิกรัฐสภา 20 คน มีสิทธิรวมตัวกันเพื่อเสนอชื่อ กมธ. ยกร่าง 1 คน

ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

สารคดีคนซ่อมรัง เพื่อนกสร้างป่า ตอนที่ 5 ลูกไม้กำหนดชะตากรรม

คดีที่ 2! คุกอีก 1 ปี 6 ด. อดีตปลัด อบต.ห้วยร่วม เรียกเงินผู้สมัครสอบบรรจุราชการ

! “กัน จอมพลัง“ ชวนเขียนความในใจ ฝากข้างรั้วคอนเทนเนอร์ 12-10-68

ราคาทองพุ่ง! ระวังมิจฉาชีพชิงทอง เสี่ยงเสียทรัพย์และบาดเจ็บไ

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2568 >> เจ้าหน้าที่อ 2025-10-12 22:56:00

๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา

รวบน้ากับหลานก่อเหตุใช้มีดแท-งเหยื่อปอดทะลุ เจ็บสาหัสปางเสียชีวิต .

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่พบปะเ 2025-10-11 18:12:00

เสียงหลอนคืนที่ 2 - เขมรฟ้องโลก ไทยคุกคามจิตใจ 12 ต.ค

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/awiv | ดู : 10 ครั้ง
  1. รองนายกฯธรรมนัส-เดินหน้านโยบาย-สร้างรายได้–สร้างตลาด–สร้าง-|-2025-10-11-18:15:00 รองนายกฯธรรมนัส เดินหน้านโยบาย สร้างรายได้–สร้างตลาด–สร้าง 2025-10-11 18:15:00
  2. เศษอาหารในแต่ละมื้ออาจกลายเป็นคำตอบใหม่แทนพลาสติก-เมื่อทีมนั เศษอาหารในแต่ละมื้ออาจกลายเป็นคำตอบใหม่แทนพลาสติก เมื่อทีมนั
  3. 228-ล้าน-ทรัพย์สิน-‘รตอตรีลุพธ์-ธูปกระจ่าง’-นายกเทศมนตรีนครรังสิต-รายได้-19-ล./ปี 228 ล้าน ทรัพย์สิน ‘ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง’ นายกเทศมนตรีนครรังสิต รายได้ 1.9 ล./ปี
  4. -สทช.10-ลาดตระเวน-ดูแล-คุ้มครองพะยูน-พื้นที่หมู่เกาะศรีบอยา 🎯 สทช.10 ลาดตระเวน ดูแล คุ้มครองพะยูน พื้นที่หมู่เกาะศรีบอยา
  5. หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้-ชานันท์-ยอดหงษ์-และต่อศักดิ์-จิน หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ ชานันท์ ยอดหงษ์ และต่อศักดิ์ จิน
  6. พบ-“3-ทุ่นsะเบิดสังหาร”-บ้านหนองหญ้าแก้ว-กองทัพเดินหน้าเก็บกู้-|-12-ต.ค พบ “3 ทุ่นsะเบิดสังหาร” บ้านหนองหญ้าแก้ว กองทัพเดินหน้าเก็บกู้ 12 ต.ค
  7. แผ่นดินไหวขนาด-40-ประเทศเวียดนาม-2025-10-12-18:25:28-ตามเวลาประเทศไทย-|-วันอาทิตย์ที่-12-ตุลาคม-พศ.-2568 แผ่นดินไหวขนาด 4.0 ประเทศเวียดนาม 2025-10-12 18:25:28 ตามเวลาประเทศไทย | วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568
  8. ตำรวจภูธรเกาะสมุยร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี-เข้ ตำรวจภูธรเกาะสมุยร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี เข้
  9. โรงพยาบาลช้าง-ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย-ร่วมกับสัตวแพทย์และผู้เชี โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ร่วมกับสัตวแพทย์และผู้เชี
  10. ชาวเน็ต-=-ชาวเน็ตไม่ปลื้ม-วิจารณ์สนั่น-หลังเห็นคลิป-ต้าเหนิง ชาวเน็ต = ชาวเน็ตไม่ปลื้ม วิจารณ์สนั่น หลังเห็นคลิป ต้าเหนิง
  • No recent comments available.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend