แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/1lyj | ดู : 10 ครั้ง
ข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการขององค์การอนามัยโลก-ว่าด้วยเรื่อ
  • ข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการขององค์การอนามัยโลก ว่าด้วยเรื่องความเชื่อมโยงทางสังคม ระบุว่า จากทั่วทุกมุมโลกในจำนวนคน 6 คน กำลังมี 1 คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเหงาและความโดดเดี่ยว และภายในเวลา 1 ชั่วโมง มีประมาณ 100 ความเสียชีวิตที่เกี่ยวพันกับความเหงา หรือประมาณ 871,000 คน ในระยะเวลา 1 ปี สิ่งที่จะหยุดยั้งความเสี่ยงเหล่านี้ได้คือ ความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้น
  • “ในยุคที่เรามีความสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่จำกัด แต่กลับมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ค้นพบว่าตัวเขากำลังตกอยู่ในภาวะของความเหงา และโดดเดี่ยว” Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่แห่งองค์การอนามัยโลก ระบุ
  • WHO ให้คำนิยามสำหรับความเหงาว่า มันลึกไปกว่า การที่วันหนึ่งคนที่บ้านไปต่างจังหวัด แล้วต้องนั่งทานข้าวคนเดียว แต่มันคือ ความเจ็บปวดจากช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ทางสังคมที่เราต้องการ กับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่จริง
  • ส่วนความโดดเดี่ยวหมายถึง ภาวะที่การเชื่อมต่อทางสังคมไม่เพียงพออย่างเป็นรูปธรรม และสิ่งนี้กำลังเป็นเรื่องที่ท้าทายในโลกยุคปัจจุบัน นอกจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวบุคคล คนใกล้ตัว ครอบครัว หรือชุมชนแล้ว หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข สุดท้ายจะนำไปสู่การสร้างภาระมหาศาลให้กับสังคม ทั้งในด้านงบค่ารักษาพยาบาล การศึกษา การจ้างงาน และความสามารถในการผลิต
  • สิ่งสำคัญที่รายงานของ WHO เน้นย้ำคือ รัฐจำเป็นต้องปรับแนวคิดใหม่ว่า ความเหงา และความโดดเดี่ยวไม่ได้เป็นเพียงปัญหาในระดับปัจเจก แต่กำลังเป็นภัยเงียบที่ต้องการมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบไม่แตกต่างจากปัญหาด้านการสาธารณสุขเรื่องอื่่นๆ

ในเช้าของวันเร่งรีบ ตลอดเส้นทางจากที่พักถึงออฟฟิศ ขณะทานมื้อกลางวันในร้านตามสั่งเจ้าประจำ หรือระหว่างเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะใกล้บ้าน คงมีคนหลักร้อย หลักพันที่ได้ใช้พื้นที่และเวลาร่วมกันกับคุณอยู่บ้าง ไม่ว่าจะมีพันธะต่อกันหรือไม่ก็ตาม แน่นอนนี่มันก็เรื่องธรรมดา

แต่ข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมการขององค์การอนามัยโลก ว่าด้วยเรื่องความเชื่อมโยงทางสังคม (WHO Price on Social Connection) บอกเราว่า จากทั่วทุกมุมโลกในจำนวนคน 6 คน กำลังมี 1 คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความเหงาและความโดดเดี่ยว คนเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่ลงรถสถานีเดียวกันกับคุณเมื่อเช้า หรืออาจเป็นคนที่เดินสวนคุณระหว่างทางกลับบ้าน และมีโอกาสเช่นเดียวกันที่คนคนนั้นอาจเป็นคุณ

ความเหงา เศร้า หม่น และความโดดเดี่ยว อาจะมีมิติน่าลุ่มหลงชวนค้นหา เถ้าอารมณ์เหล่านี้ทำให้ขั้วอารมณ์คู่ตรงข้ามมีคุณค่าและความหมาย ศิลปิน นักแต่งเพลง หรือนักเขียนหลายคนใช้ความเหงาสร้างงานมีชื่อเสียงระดับโลก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ชีวิตกำลังถูกดูดกลืน

ตัวเลขจากรายงานดังกล่าวบอกเราว่า ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง มีประมาณ 100 ความเสียชีวิตที่เกี่ยวพันกับความเหงา หรือประมาณ 871,000 คน ในระยะเวลา 1 ปี สิ่งที่จะหยุดยั้งความเสี่ยงเหล่านี้ได้คือ ความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้น

โลกเชื่อมต่อง่าย ไร้ขีดจำกัด แต่หัวใจกลับโดดเดี่ยว

“ในยุคที่เรามีความสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่จำกัด แต่กลับมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ค้นพบว่าตัวเขากำลังตกอยู่ในภาวะของความเหงา และโดดเดี่ยว” Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่แห่งองค์การอนามัยโลก ระบุ นี่คือเรื่องน่าแปลกใจอย่างหนึ่ง

ว่าแต่ความเหงา และภาวะการแยกตัวจากสังคม ที่กำลังถูกชี้ว่าเป็นปัญหานี้คืออะไร WHO ให้คำนิยามสำหรับความเหงาว่า มันลึกไปกว่า การที่วันหนึ่งคนที่บ้านไปต่างจังหวัด แล้วต้องนั่งทานข้าวคนเดียว แต่มันคือ ความเจ็บปวดจากช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ทางสังคมที่เราต้องการ กับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่จริง

ส่วนความโดดเดี่ยวหมายถึง ภาวะที่การเชื่อมต่อทางสังคมไม่เพียงพออย่างเป็นรูปธรรม และสิ่งนี้กำลังเป็นเรื่องที่ท้าทายในโลกยุคปัจจุบัน นอกจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวบุคคล คนใกล้ตัว ครอบครัว หรือชุมชนแล้ว หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข สุดท้ายจะนำไปสู่การสร้างภาระมหาศาลให้กับสังคม ทั้งในด้านงบค่ารักษาพยาบาล การศึกษา การจ้างงาน และความสามารถในการผลิต

ระดับและสาเหตุของโรคประจำศตวรรษ

ความเหงาไม่เลือกว่าคุณเป็นใคร เพศใด อายุมากน้อยแค่ไหน มันพร้อมเล่นงานมนุษย์ได้ทุกช่วงวัย อย่างไรก็ตามจากรายงานของ WHO บ่งชี้ข้อค้นพบพิเศษอย่างหนึ่งว่า ผลกระทบจากความเหงานั้นพบมากในกลุ่มเยาวชน และกลุ่มผู้คนที่อาศัยอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้น้อยถึงกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง

กลุ่มผู้มีอายุในช่วง 13-29 ปี เปิดเผยผ่านแบบสอบถามว่า พวกเขามีความรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวสูงกว่าคนกลุ่มอื่นๆ โดยกลุ่มวัยรุ่นตอนต้น (13-17 ปี) อัตราอยู่ที่ประมาณ 20.9% ส่วนกลุ่มวัยรุ่นต้นปลาย (18-29 ปี) มีอัตรา ประมาณ 17.4%

หากหยิบเอาฐานทางเศรษฐกิจมาเป็นปัจจัยวิเคราะห์ รายงานชิ้นนี้ เผยให้เห็นว่า ในประเทศรายได้น้อย และประเทศรายได้ปานกลาง มีคนที่ระบุว่าตนเองเหงา และโดดเดียวมากถึง 23.4 % ขณะที่ประเทศรายได้สูงมีเพียง 10.6%

ขณะที่การแยกตัวออกจากสังคม แม้จะยังมีข้อมูลอยู่อย่างจำกัด แต่มีการประเมินว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุมีคนที่กำลังแยกตัวจากสังคม 1 ต่อ 3 ส่วนในกลุ่มวัยรุ่นอัตราการแยกตัวอยู่ที่ 1 ต่อ 4 นอกจากนี้ยังพบว่าประชากรในกลุ่มเปราะบางมีโอกาสที่จะแยกตัวออกจากสังคมสูง ทั้งในกลุ่ม ผู้พิการ ผู้อพยพ กลุ่ม LGBTQ+ และกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งมักถูกเลือกปฎิบัติ และถูกสร้างข้อจำกัดทับซ้อนเพิ่มเติม ทำให้การเชื่อมต่อทางสังคมเกิดขึ้นได้ยาก

รายงานฉบับนี้ระบุด้วยว่า ความเหงา และการแยกตัวออกจากสังคมนั้นมีสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งการมีสุขภาพที่แย่ , ระดับรายได้และการศึกษาต่ำ , การอยู่อาศัยตามลำพัง , โครงสร้างพื้นฐานของชุมชนและนโยบายสาธารณะที่ไม่เพียงพอ รวมทั้งเทคโนโลยีเองก็เป็นสาเหตุด้วย ทั้งจากการใช้เวลากับหน้าจอมาเกินไป และการมีปฎิสัมพันธ์เชิงลบในโลกออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตคนหนุ่มสาว

ข้อมูลจากรายงานของ WHO เป็นไปในทางเดียวกันกับงานวิจัยเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียกับความรู้สึกโดดเดี่ยวทางสังคมในหมู่ของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ (Social Media Expend and Perceived Social Isolation Among Younger Adults in the U.S) ของ Brian A. Primack ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,787 คน ในช่วงอายุตั้งแต่ 19-32 ปี ผ่านการทำแบบสอบถามออนไลน์ ข้อค้นพบที่น่าสนใจคือ ยิ่งกลุ่มตัวอย่างใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดียมากขึ้นเท่าไร พวกเขากลับมีโอกาสที่จะรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น

แม้จะมีการเชื่อมต่อกับผู้คนในโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาเหงา และโดดเดี่ยวนั้นเกิดจากการขาดความสัมพันธ์ในเชิงคุณภาพ บ่อยครั้งพวกเขารู้สึกว่าไม่มีใครสักคนที่เข้าใจสิ่งที่เราเป็น หรือกำลังเผชิญหน้าอยู่

ความโดดเดี่ยวจะปรากฎชัดขึ้นหากมีพฤติกรรมการใช้เซียลมีเดียแบบ Passive คือใช้เพื่อเลื่อนดูเฉยๆ ไม่มีการโพสต์ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร หรือเกิดการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆ , มีความรู้สึกถูกละเลย จากการไม่ถูกพูดถึง หรือไม่ถูกแท็ก และที่สำคัญคือการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อทดแทนความสัมพันธ์แบบสื่อสารกันต่อหน้า ก็ยิ่งทำให้โอกาสในการเชื่อมต่อกับผู้คนในชีวิตประจำวันลดลงไปด้วย

ส่วนเรื่องที่ว่าคนรายได้น้อย-ปานกลาง มีโอกาสที่จะเหงา และโดดเดี่ยวมากกว่าคนมีรายได้สูงนั้น ก็เป็นไปในทางเดียวกันกับงานวิจัยเรื่อง ”ความสัมพันธ์ระหว่างความยากจน ความเหงา และกลุ่มอาการป้องกันที่ประกอบด้วยอาการปวด หมดไฟและหดหู่” (Associations amongst poverty, loneliness, and a defensive symptom cluster characterised by misfortune, fatigue, and low mood) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Public Health (Volume 242) เมื่อเดือน พ.ค. 2025

งานวิจัยนี้ดำเนินการผ่านการวิเคราะห์ ข้อมูลจากโครงการสำรวจทางสังคมระดับนานาชาติของยุโรป European Social Explore ครั้งที่ 7  ซึ่งเก็บข้อมูลระหว่างปี 2014–2015 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมรวมทั้งหมด 24,504 คน จาก 20 ประเทศในยุโรป

คณะผู้วิจัยได้แบ่งกลุ่มรายได้ออกเป็น 10 กลุ่ม จากรายได้ต่ำสุดถึงกลุ่มรายได้สูงสุด โดยพบว่ากลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุดตอบแบบสอบว่าตัวเขาเองรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมากถึง 47.8 % ส่วนทางกลับกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดที่มีคนเหงาอยู่เพียง 15.2 % นั่นหมายความว่าคนรายได้น้อยสุดมีโอกาสเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ลึกๆ มากว่าคนมีรายได้สูงสุด 3 เท่าตัว และความน่าสนใจคือ ระหว่างคนทั้งสองกลุ่มที่ต่างกันสุดขั้วเรื่องรายได้นี้ ไม่ได้มีความแตกต่างกันในด้านการเข้าสังคม หรือพบปะกับผู้อื่น ฉะนั้นความเหงาไม่ได้ขึ้นตรงกับการมีใครให้พบปะพูดคุยหรือไม่แค่เพียงอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวข้องกับคุณภาพของความสัมพันธ์ และความรู้สึกถึงการได้รับการยอมรับด้วย

ผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจ

เครือข่ายทางสังคม มีส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพตลอดช่วงชีวิต มากไปกว่านั้นการปฎิสัมพันธ์ที่ดียังลดอาการอักเสบในร่างกายได้ด้วย (เพราะเมื่อเรามีสายสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้น ภาวะที่สมองสะสมความเครียดเรื้อรัง จนมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล และ ไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (inflammatory cytokines) จะค่อยๆ ลดลงไป)

นอกจากนี้สายสัมพันธ์ทางสังคมที่ดียังช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพร้ายแรง ส่งเสริมสุขภาพจิต และยับยั้งความเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และมันยังช่วยส่งเสริมโครงสร้างทางสังคม ที่หมายถึงโครงสร้างสายสัมพันธ์ และองประกอบต่างๆ ที่ยึดโยงผู้คนไว้ด้วยกัน กระตุ้นให้มีสร้างชุมชนที่มีสุขภาวะที่ดี

ในทางกลับกัน ความเหงา และการแยกตัวออกจากสังคม เป็นปัจจัยในการเพิ่มความเสี่ยงวนการเกิดโรคหลอดเลืoดในสมอง (stroke) , โรคหัวใจ , เบาหวาน , ภาวะสมองเสื่อม หลงๆ ลืมๆ และที่สำคัญคือเป็นเส้นทางสู่ความเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ร้ายแรงไปกว่านั้นความเหงาและความโดดเดี่ยวส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต ผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับมันมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล รวมทั้งมีความคิดในการทำร้ายตัวเอง หรือฆ่-าตัวเสียชีวิต

ตามรายงานชี้ว่า สิ่งเหล่านี้ยังส่งผลกระทบไปถึงการเรียนรู้ และอาชีพการงาน ในกลุ่มวัยรุ่นที่รู้สึกเหงา โดดเดี่ยว ประมาณ 22 % มีแนวโน้มที่จะได้รับผลการเรียนในระดับต่ำว่าคนอื่นๆ ส่วนผู้ใหญ่ที่อยู่กับความโดดเดี่ยวมีโอกาสที่จะหางานได้ยาก และแย่ไปกว่านั้นคือ พวกเขาไม่สามารถรักษางานที่มีเอาไว้ได้ หรือมีรายได้ที่ลดลง

ในระดับชุมชนความเหงา ความโดดเดี่ยวเป็นตัวการทำลายความสามัคคีของผู้คน ทำให้ประเทศสูญเสียความสามารถในการผลิตลงไป และทำให้รัฐมีค่าใช้จ่ายในด้านการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น

ยังไม่สายเกินแก้ หนทางสู่การมีสังคมสุขภาวะที่ดี

รายงานดังกล่าว ได้สรุปถึงแนวทางที่ทั่วโลกควรดำเนินการโดยมุ่งเน้นไปที่ 5 ด้านหลัก ได้แก่ นโยบาย การวิจัย การแทรกแซง ปรับปรุงการวัดผล และการมีส่วนร่วมของสาธารณะ เพื่อเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางสังคม และสนับสนุนการเคลื่อนไหวในระดับโลกเพื่อสร้างการเชื่อมโยงทางสังคม

แนวทางการแก้ไขเพื่อลดความเหงาและความโดดเดี่ยวของสังคม มีการระบุไว้อยู่ในหลากหลายระดับ เช่น ระดับประเทศ ระดับชุมชน และระดับบุคคล นับตั้งแต่การสร้างความตระหนักรู้และเปลี่ยนแปลงนโยบายระดับชาติ ไปจนถึงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม เช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุด ร้านกาแฟ รวมทั้งกลไกกระบวนการจัดการดูแลเยียวยาในทางจิตวิทยา (เช่นการเพิ่มจำนวนนักจิตวิทยาเข้าไปในโรงเรียน หรือทำให้การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตเข้าถึงได้โดยง่าย)

ส่วนในระดับบุคคล ทุกคนสามารถสร้างความแตกต่างได้ผ่านขั้นตอนง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การติดต่อกับเพื่อนที่กำลังต้องการคุยกับใครสักคน การเลิกใช้โทรศัพท์เพื่อใช้เวลาอยู่กับใครได้อย่างเต็มที่ การทักทายเพื่อนบ้าน เข้าร่วมกลุ่มในชุมชน หรือทำงานอาสาสมัคร

สิ่งสำคัญที่รายงานของ WHO เน้นย้ำคือ รัฐจำเป็นต้องปรับแนวคิดใหม่ว่า ความเหงา และความโดดเดี่ยวนี้ ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาในระดับปัจเจก แต่กำลังเป็นภัยเงียบที่ต้องการมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบไม่แตกต่างจากปัญหาด้านการสาธารณสุขเรื่องอื่่นๆ

อ้างอิงจาก:

Social connection linked to improved health and diminished likelihood of early loss of life

https://www.who.int/news/item/30-06-2025-social-connection-linked-to-improved-heath-and-diminished-likelihood-of-early-loss of life

Social Media Expend and Perceived Social Isolation Among Younger Adults in the U.S

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28279545/

https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0033350625001209?utm_source=chatgpt.com

รายงาน WHO ฉบับเต็ม : https://www.who.int/teams/commission-on-social-connection/file

ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/1lyj | ดู : 10 ครั้ง
  1. ผู้ว่าฯราชบุรี-สั่ง-นายอำเภอไม่มาประชุมปราบยาเสพติดชี้แจงภายใน-22-กค.-ก่อนเที่ยง ผู้ว่าฯราชบุรี สั่ง นายอำเภอไม่มาประชุมปราบยาเสพติดชี้แจงภายใน 22 ก.ค. ก่อนเที่ยง
  2. แผ่นดินไหวขนาด-23-ประเทศเมียนมา-2025-07-21-20:01:51-ตามเวลาประเทศไทย-|-วันอังคารที่-22-กรกฎาคม-พศ.-2568 แผ่นดินไหวขนาด 2.3 ประเทศเมียนมา 2025-07-21 20:01:51 ตามเวลาประเทศไทย | วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
  3. รวบผู้ต้องหาระดับหัวหน้า-คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักร รวบผู้ต้องหาระดับหัวหน้า คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักร
  4. ย้อนรอยโครงการก่อสร้าง-“พุทธอุทยานนครสวรรค์”-(feed- ย้อนรอยโครงการก่อสร้าง “พุทธอุทยานนครสวรรค์”
  5. -อ่วม-กกต.ฟันอาญา-หมอเกศ-คุก-10-ปี-ตัดสิทธิ์-20-ปี-ปมใช้ศา 😌 อ่วม กกต.ฟันอาญา หมอเกศ คุก 10 ปี ตัดสิทธิ์ 20 ปี ปมใช้ศา
  6. -fun-fact-คนมีไฟลต์เท่านั้น-ถึงจะทำสิ่งนี้ได้… 💡 FUN FACT คนมีไฟลต์เท่านั้น ถึงจะทำสิ่งนี้ได้…
  7. งูแก้วหางแดง-ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า-trimeresurus-hageni-ลักษณะเด งูแก้วหางแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trimeresurus hageni ลักษณะเด
  8. ทำไมไม่คุยกันดีๆ-หนุ่มอายุ-27-ปี-ขี่รถจักรยานยนต์สวนกับภรรย-|-2025-07-21-04:07:00 ทำไมไม่คุยกันดีๆ หนุ่มอายุ 27 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สวนกับภรรย 2025-07-21 04:07:00
  9. บางจากฯ-เปิดตัวแอปโฉมใหม่-ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์เต็มรูปแบบ บางจากฯ เปิดตัวแอปโฉมใหม่ ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์เต็มรูปแบบ
  10. ศบทก.เตรียมออกหนังสือประณาม-ประท้วงกัมพูชา-ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ศบ.ทก.เตรียมออกหนังสือประณาม-ประท้วงกัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
  • No recent comments available.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend