
ฟ้าแลบที่ส่องแสงวาบบนท้องฟ้าในคืนพายุไม่ได้เป็นเพียงภาพน่าตื่นตา แต่ยังเป็นแหล่งของมลพิษทางอากาศที่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ด้วยความร้อนอันมหาศาลจากสายฟ้า ทำให้โมเลกุลของไนโตรเจนและออกซิเจนในอากาศแตกตัว ก่อนจะรวมตัวใหม่เป็นก๊าซในกลุ่มไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเดียวกับที่พบในควันรถยนต์ และเป็นตัวเร่งการเกิดโอโซน มลพิษที่มีผลต่อทั้งคุณภาพอากาศและสภาพภูมิอากาศของโลก
.
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ร่วมกับ NASA ได้ใช้ดาวเทียม TEMPO เพื่อเฝ้าสังเกตมลพิษจากฟ้าแลบแบบเรียลไทม์ ในการทดลองพิเศษช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2025 พวกเขาเก็บข้อมูลทุก 10 นาที ขณะที่พายุเคลื่อนตัวผ่านทางตะวันออกของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สามารถจับภาพพายุในระหว่างเกิดขึ้น ไม่ใช่หลังจากผ่านไปแล้ว
.
เมื่อนำข้อมูลจาก TEMPO มาผนวกกับเครื่องมือจาก NOAA ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถนับจำนวนฟ้าแลบและประเมินปริมาณกลุ่มก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ที่ปล่อยออกมาได้แบบทันที นำไปสู่ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับบทบาทของฟ้าแลบในระบบภูมิอากาศ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่การผลิตโอโซนรวดเร็วมากขึ้น
.
อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ https://ngthai.com/science/79310/lightning-air-pollution/
.
#NationalGeographicThailand
RSS)
ที่มา : Nationwide Geographic Thailand's