สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติภาค 6 ส่ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบออกโฉนดบนเขา 200 ไร่ จ.เพชรบูรณ์-ทหารยศใหญ่ถือครอง

สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติภาค 6 ประจำจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง โพสต์เฟซบุ๊ก ลงพื้นที่ ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเขตป่าไม้-ภูเขาเกือบ 200 ไร่ ภายหลังได้รับแจ้งถือครองโดยนายทหารยศใหญ่นอกราชการ เผย อยู่ระหว่างเพิกถอนโฉนด 2 แปลง เนื่องจากไม่มีเอกสารถือครองที่ดินเดิม อีก 3 แปลงอยู่ระหว่างตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ปี 2509

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า วันที่ 1 มีนาคม 2568 เพจ ‘สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 6’ ประจำจังหวัดในเขตภาคเหนือตอนล่าง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ 2568 นายสุพจน์ ศรีงามเมือง รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 6 ได้มอบหมายให้กลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 6 และงานสืบสวนคดีทุจริตภาค 6 ลงพื้นที่ กรณีได้รับแจ้งจากประชาชนให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเขตป่าไม้ (ภูเขา) จำนวนหลายแปลง และมีบริเวณกว้างเกือบ 200 ไร่ พื้นที่ตำบลบ้านโตก อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถือครองโดยนายทหารยศใหญ่นอกราชการ

จากการลงพื้นที่พบว่า บริเวณดังกล่าวมีการเข้าทำประโยชน์ประเภทข้าวโพดในบริเวณพื้นที่ราบ พื้นที่ราบเชิงเขา และบริเวณไหล่เขา สำหรับบริเวณภูเขาที่มีสภาพเป็นโขดหินสลับป่าไม้ ไม่พบการทำประโยชน์ จึงเข้าพบผู้แทนศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ และสำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอทราบข้อมูล ภายหลังทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีข้อพิพาทระหว่างประชาชนและผู้ถือครองที่ดิน โดยมีประชาชนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว

ทั้งนี้ มีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน (โฉนด) จำนวนหลายแปลง ทั้งอยู่บริเวณที่ราบ ที่ราบเชิงเขา รวมทั้งภูเขาสูง ขณะนี้อยู่ระหว่างเพิกถอนโฉนดจำนวน 2 แปลง เนื่องจากมีการออกโฉนดโดยไม่มีเอกสารถือครองที่ดินเดิม สำหรับโฉนดที่ดินอีก 3 แปลง มีเอกสารที่ดินเดิม ได้แก่ สค.1 จำนวน 1 แปลง และ นส.2 จำนวน 2 แปลง แต่จากการที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร (หมายเลข 22) พ.ศ. 2509 จึงมีเหตุให้ต้องตรวจสอบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยชอบหรือไม่ และหากไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 และ 59 จะต้องดำเนินการเพิกถอนต่อไป

ส่วนพื้นที่บริเวณด้านหน้าสวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย (ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์) มีการแผ้วถางเข้าทำประโยชน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าถาวร ได้ดำเนินการแจ้งให้ศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ ประสานหน่วยป่าไม้ที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 6 จะติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป