
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ หารือทางการกัมพูชา ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่น ดำเนินคดีคนไทย 115 คน ข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อั้งยี่ ซ่องโจร โทษหนักจำคุก 15 ปี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 15 มีนาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เดินทางไปประเทศกัมพูชา เข้าหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงาน กสทช. ของประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 – 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้ขอบคุณทางการกัมพูชา ที่กวาดล้างแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์คนไทยในปอยเปต จำนวน 119 คน และได้แจ้งทางกัมพูชาให้ทราบถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มคนไทยเหล่านี้ รวมทั้งหารือในเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานในฝั่งกัมพูชาเพื่อมาดำเนินคดีในฝั่งไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ที่ลักลอบตั้งอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมกันปราบปรามและส่งตัวคนไทยเหล่านี้มาดำเนินคดีในข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในไทยให้เด็ดขาดและให้หมดไปภายในปีนี้
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า การมาหารือในครั้งนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในการทำงานร่วมกันระหว่างสองประเทศ และการที่คนไทยแอบลักลอบข้ามช่องธรรมชาติแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา ไปตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายไม่ให้ถูกดำเนินคดี โดยกลุ่มคนไทยขายชาติเหล่านี้จะมาลวงลวงเฉพาะคนไทยแต่ไม่ไปลวงลวงประชาชนชาวกัมพูชา โดยเมื่อถูกทางการกัมพูชาทลายแก๊งจับกุม จะถูกดำเนินคดีเพียงแค่ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง หรือทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษที่น้อยมาก
“เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยไม่ได้ลวงคนกัมพูชาแต่ลวงเฉพาะคนไทย ความผิดไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศกัมพูชา และเมื่อส่งกลับมาไทย กลุ่มคนไทยขายชาติเหล่านี้จะโกหกและอ้างว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้ทำงาน อ้างว่าตนเองเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ เพื่อจะทำให้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในไทย”พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าว
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า จากการใช้ช่องว่างดังกล่าว ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีความย่ามใจไม่เกรงกลัวกฎหมาย โทรลวงคนไทยเป็นจำนวนมาก ไม่จำกัดชนชั้น เพศ วัย เปิดหน้าวิดีโอคอล มีแม้กระทั่งการต่อว่ารุนแรง เยาะเย้ยซ้ำเติมผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งการซ้ำเติมส่งพวงหรีด หรือพูดจาดูถูกกับญาติของผู้เสียชีวิต ที่ฆ่-าตัวเสียชีวิตจากการสูญเสียทรัพย์สินจากการลวงลวงของคนไทยขายชาติเหล่านี้
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า จากการดำเนินคดีในข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกับคนไทย จำนวน 115 คน จากทั้งหมด 119 คน ที่ทางการกัมพูชาจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่ปอยเปต ในข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกง นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งการยึดทรัพย์
“นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่สามารถดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซนเตอร์ในข้อหาที่หนักมีโทษจำคุกถึง 15 ปี ไม่ให้กลุ่มคนไทยขายชาติเหล่านี้อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย กล่าวอ้างการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อีกต่อไป”พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าว
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทุ่มเททรัพยากร ทั้งในด้านกำลังพล งบประมาณ ในการดูแลไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก รวมทั้งปราบปรามให้หมดไปจากสังคมไทย และร่วมกับทางการกัมพูชาในการนำคนไทยขายชาติเหล่านี้มาดำเนินคดีที่ไทยให้หลาบจำ และไม่ให้ใครนำมาเป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )