สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไม่ชี้มูลข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ อดีตนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดพิจิตรไม่ชี้มูลความผิด ‘ปิติพล ปานทิม’ อดีตนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร หลังแต่งตั้งรองนายกอบต.ที่ขาดคุณสมบัติด้านการศึกษา ชี้เป็นการกระทำโดยประมาท แต่ไม่มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ประจำจังหวัดพิจิตร ในฐานะโฆษกสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานเรื่องกล่าวหาที่คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติไม่ชี้มูลความผิด ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร กรณีกล่าวหานายปิติพล ปานทิม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่งตั้งนายบุญเกิด มีทวี ซึ่งยังไม่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย และไม่เคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นมาก่อน ซึ่งไม่มีคุณสมบัติตามที่ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลาบล 2537 กำหนดให้ดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

นายวราพงษ์กล่าวว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่า วันที่ 3 ธ.ค. 2556 นายปิติพล ปานทิม ในฐานะนายก อบต.โพธิ์ประทับช้าง ได้แต่งตั้งนายโชติ นาป้อม (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ให้เป็นรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง คนที่ 1 และนายบุญเกิด มีทวี หรือ ร.ต.บุญเกิด มีทวี ให้เป็นรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง คนที่ 2 เป็นผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการของอบต.โพธิ์ประทับช้าง ตามที่นายกอบต.มอบหมาย ตามคำสั่งอบต.โพธิ์ประทับช้าง ที่ 293/2556 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 2556 เรื่อง แต่งตั้งรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง และมีคำสั่งมอบหมายหน้าที่ราชการให้นายบุญเกิด มีทวี เป็นผู้กำกับดูแล งานการศึกษาปฐมวัย งานการศึกษานอกระบบ งานประเพณี ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม งานกีฬา และนันทนาการของอบต.โพธิ์ประทับช้าง ตามคำสั่งอบต.โพธิ์ประทับช้างที่ 295/2556 ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2556 เรื่อง การมอบอำนาจให้รองนายกอบต.ฏิบัติราชการแทนนายกอบต.โพธิ์ประทับทับข้าง

โดยขั้นตอนในการแต่งตั้งผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น ตามคำสั่งอบต.โพธิ์ประทับช้าง ที่ 293/2556 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 2556 ในวันที่ 3 ธ.ค. 2556นางสาว ว. เจ้าหน้าที่ของอบต.โพธิ์ประทับช้าง ได้รับมอบหมายให้จัดทำร่างคำสั่งและสำเนาคู่ฉบับซึ่งเมื่อได้จัดพิมพ์ร่างคำสั่งและสำเนาคู่ฉบับแล้วเสร็จ ได้เสนอเอกสารให้นางสาว น. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ปลัดอบต.โพธิ์ประทับช้างในขณะนั้นพิจารณาตามลำดับชั้นบังคับบัญชา โดยการเสนอเอกสารดังกล่าวไม่มีการจัดทำบันทึกเจ้าหน้าที่ และไม่มีการแนบเอกสารใด ๆ ประกอบการพิจารณาเพื่อออกคำสั่ง คงมีแต่การเสนอร่างคำสั่งและสำเนาคู่ฉบับเท่านั้น และในวันเดียวกันเมื่อนางสาว น.ได้พิจารณาเอกสารแล้ว มีแต่เพียงร่างคำสั่งและสำเนาค่ฉบับเท่านั้น ไม่มีบันทึกของเจ้าหน้าที่และไม่มีการแนบเอกสารใด ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเมื่อตรวจข้อความแล้วเห็นว่าใช้ถ้อยคำถูกต้องตามกฎหมาย อ้างบทบัญญัติกฎหมายถูกต้อง จึงลงนามผ่านเอกสารและเสนอเอกสารให้นายปิติพล ปานทิม นายกอบต.ในขณะนั้นพิจารณาลงนามคำสั่งตามอำนาจต่อไป

ซึ่งเมื่อนายปิติพล พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นบุคคลที่ประสงค์แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง มีเจ้าหน้าที่และปลัดอบต.โพธิ์ประทับช้างลงนามตรวจทานเอกสารมาครบถ้วนแล้ว จึงลงนามคำสั่งแต่งตั้งนายโชติ นาป้อม ให้เป็นรองนายกอบต.คนที่ 1 และนายบุญเกิด มีทวี หรือ ร.ต.บุญเกิด มีทวี ให้เป็นรองนายกอบต. คนที่ 2 เป็นผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล

โพธิ์ประทับช้าง

ภายหลังจากคำสั่งแต่งตั้งผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นเสร็จสิ้นแล้ว กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประทับช้าง ได้จัดทำทะเบียนประวัติผู้บริหารท้องถิ่นไว้เป็นหลักฐานตามที่สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กำหนดแนวทางไว้ โดยนายบุญเกิด มีทวี ส่งเอกสารเป็นวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นเอกสารปลอมเพื่อประกอบไว้เป็นหลักฐาน

คณะไต่สวนบื้องต้นร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อนายปิติพล ปานทิม ผู้ถูกล่าวหาที่ 3 ซึ่งมีอำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอนรองนายกอบต.และมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายหนด จึงมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่ประสงค์แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.พธิ์ประทับทับช้างว่า เป็นไปตามที่กฎหมายหรือไม่ ซึ่งนายบุญเกิด มีทวี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ยื่นสำเนาวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็นเอกสารพยานหลักฐานแสดงให้ปรากฏทั้งทางเอกสารและบุคคลทั่วไปว่าเคยเป็นข้าราชการทหารโดยใช้ยศเรืออากาศตรี นายปิติพล ปานทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จึงมีเหตุอันควรให้สำคัญผิดได้ว่า นายบุญเกิด มีทวี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในขณะพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.โพธิ์ประทับช้าง มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย แต่การไม่ส่งสำเนาวุฒิการศึกษาไปยังสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบก่อนพิจารณาแต่งตั้งนั้น ถือเป็นกรณีกระทำโดยประมาท

แต่พฤติการณ์ยังไม่อาจรับฟังได้ว่ามีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันจะถือว่าเป็นการแต่งให้บุคคลใดดำรงตำแหน่งรองนายกอบต.โดยผิดกฎหมาย การกระทำใด ๆที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจึงไม่ถูกกระทบกระเทือนและมีผลใช้ได้ เป็นกระทำที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายปิติพล ปานทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ไม่มีมูลความผิดอาญาฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

การกระทำของนายบุญเกิด มีทวี ผู้ถูกกกล่าวหาที่ 2 ไม่มีมูลความผิดอาญาฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่าจากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่จะฟังได้ว่า นายปิติพล ปานทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายบุญเกิด มีทวี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ที่มาภาพ: องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประทับช้าง