
ราชกิจจาฯ แพร่ประกาศโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชฯ 4 สส. ถูกศาลพิพากษาจำคุก ‘ฉลอง เทอดวีระพงศ์-ภูมิศิษฏ์ คงมี-นาที รัชกิจประการ’ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน ‘อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์’มุกดาหาร เพื่อไทย เรียกรับเงิน 5 ล.อธิบดีแลกผ่านงบฯ
สำนักข่าวอิศรา :ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 8 เม.ย.2568 เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4 ราย เนื่องจากกระทำความผิดขณะดำรงตำแหน่ง ต้องคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุก
1. นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ฐานเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรพรรดิมาลา
2. นายภูมิศิษฏ์ คงมี เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ฐานเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2564 ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญเงินมงกุฎไทย
3. นางนาที รัชกิจประการ เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ฐานเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยากรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์ช้างเผือก และตริตาภรณ์มงกุฎไทย
4. นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ เป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ฐานเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 173 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และตามมาตรา 149 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกฎไทย
ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 4 ราย เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ประกาศ ณ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
ดูประกาศ https://ratchakitcha.soc.lag.th/paperwork/65814.pdf
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นายฉลอง เทิดวีระพงศ์ อดีต สส.เขต 2 พัทลุง พรรคภูมิใจไทย, นายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต สส.เขต 1 พัทลุง พรรคภูมิใจไทย นางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย(ภรรยานายพิพัฒน์รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา จำคุกคนละ 9 เดือน ไม่รอลงโทษ ถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ กรณีเสียบบัตร สส. แทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีตสส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย จำเลย คดีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการผ่านงบประมาณ องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้จำคุก 6 ปี และให้พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่ 19 เม.ย. 2565
ข่าวเกี่ยวข้อง:
- เปิดคำวินิจฉัยศาลฎีกาชั้นอุทธรณ์ ยืนโทษคุกคนละ 9 ด. 3 สส.ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน
- ฉบับเต็ม!คำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์: เหตุไม่ลงโทษสถานเบา 3 สส. เสียบบัตรแทนกัน
- ยืนโทษ! คุก 6 ปี ‘อนุรักษ์' อดีตสส.เพื่อไทย คดีเรียกเงิน 5 ล.-เจ้าตัวทำใจได้ เป็นอุทาหรณ์
- สรุป! คำวินิจฉัยชั้นอุทธรณ์ ยืนโทษคุก 6 ปี ‘อนุรักษ์' อดีตสส.เพื่อไทย คดีเรียกเงิน 5 ล.
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )