ปศุสัตว์ประกาศ ‘พื้นที่ประเวศ’ เป็นเขตโรคพิษสุนัขบ้าระบาดชั่วคราว

ปศุสัตว์ประกาศ ‘พื้นที่ประเวศ' เป็นเขตโรคพิษสุนัขบ้าระบาดชั่วคราว ระหว่างวันที่ 11 เม.ย. – 10 พ.ค. 2568

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2568  นายฉัตรชัย สุวานิช รักษาราชการแทนปศุสัตว์พื้นที่ 10 ปศุสัตว์พื้นที่ 2 ลงนามในประกาศสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ 10 เรื่อง กำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวโรคพิษสุนัขบ้า ลงวันที่ 11 เม.ย. 2568 ระบุว่า

ด้วย สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ 10 พบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ในท้องที่แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโรคระบาดร้ายแรงอาจระบาดติดต่อไปสู่คน สุนัข แมว โค กระบือ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ ได้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 สัตวแพทย์ประจำท้องที่พื้นที่ 10 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ท้องที่ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ไปทางทิศเหนือ จด แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

ไปทางทิศใต้ จด แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ไปทางทิศตะวันออก จด ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

ไปทางทิศตะวันตก จด แขวงสวนหลวง เขตส่วนหลวง กรุงเทพมหานคร แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

เป็นเขตโรคระบาดชั่วคราว ชนิดโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2568 ถึงวันที่ 10 พ.ค. 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อได้มีประกาศกำหนดเขตโรคระบาด หรือเขตสงสัยว่ามีโรคระบาดหรือประกาศกำหนดเขตโรคระบาตชั่วคราวแล้ว เจ้าของสัตว์หรือ

ซากสัตว์ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 11 12 13 14 15 16 และ 22 โดยสังเขป คือ

1. ห้ามมีให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสุนัข หรือขากสัตว์ดังกล่าวภายในเขตนั้น หรือเคลื่อนย้ายเข้าในหรือนอกเขตนั้น เว้นแต่รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์

2. ห้ามมีให้เจ้าของหรือนิติบุคคลใดเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วยไปจากบริเวณนั้น และให้เจ้าของสัตว์แจ้งพ่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือสารวัตรหรือสัตวแพทย์ แล้วแต่กรณี ภายใน 32 ชั่วโมง นับแต่เวลาสัตว์ป่วย

3. ในกรณีสัตว์เสียชีวิต ให้เจ้าของควบคุมซากสัตว์นั้นให้อยู่ ณ ที่สัตว์เสียชีวิต และห้ามมีให้เจ้าของ หรือบุคคอื่นใดเคลื่อนย้ายหรือกระทำการอย่างใดแก่รากสัตว์นั้น และให้เจ้าของแจ้งพ่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สารวัตสัตร หรือสัตวแพทย์ แล้วแต่กรณี ภายในเวลา 72 ชั่วโบตั้งแต่เวลาที่สัตว์เสียชีวิต

ทั้งนี้เจ้าของสัตว์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสัตวแพทย์ทุกประการ ผู้ใดผ้าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติหรือคำสั่งต้องต้องระวางโทษอย่างต่ำจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ