
เหตุใดการดื่มน้ำมากเกินไปอาจอันตรายถึงชีวิต ?

ที่มาของภาพ : Getty Photography
น้ำคือสิ่งสำคัญต่อชีวิต แนวทางปฏิบัติระดับโลกหลายฉบับแนะนำให้ผู้หญิงดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตร ต่อวัน และสำหรับผู้ชาย 2.5 ลิตรต่อวัน
แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าความต้องการน้ำของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ แต่การบริโภคมากเกินไปก็อาจมีผลถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน
น้ำคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 60% ของน้ำหนักตัวมนุษย์ โดยพบน้ำอยู่ในเซลล์ อวัยวะต่าง ๆ เลืoด และในทางเดินต่าง ๆ ในร่างกาย
“น้ำถือเป็นสารอาหารชนิดหนึ่ง” ดร. นิเดีย โรดริเกซ-ซานเชซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดื่มน้ำ จากมหาวิทยาลัยสเตอร์ลิง ในประเทศสกอตแลนด์กล่าว
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด
Discontinue of ได้รับความนิยมสูงสุด
“เราให้ความสำคัญกับโปรตีน วิตามิน คาร์โบไฮเดรต และไฟเบอร์ แต่เรามักไม่คิดว่าน้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญในชีวิตของเรา”

น้ำมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายเกือบทุกส่วน ตามที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Clinical School) ระบุ บทบาทสำคัญบางประการของน้ำ ประกอบด้วย
- การลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์
- การขับแบคทีเรียออกจากกระเพาะปัสสาวะ
- การช่วยย่อยอาหาร
- การป้องกันอาการท้องผูก
- รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- ช่วยกันแรงกระแทกในข้อต่อ
- การปกป้องอวัยวะและเนื้อเยื่อ
- การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
- การรักษาสมดุลของเกลือแร่ (โซเดียม)ในร่างกาย

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอ
ร่างกายของเราสูญเสียน้ำอยู่ตลอดเวลา ผ่านทางการสูญเสียเหงื่อ การปัสสาวะ และแม้กระทั่งการหายใจ เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง น้ำที่สูญเสียไปเหล่านี้จำเป็นต้องถูกทดแทน สิ่งนี้เป็นกระบวนการที่เรียกว่า สมดุลน้ำ
เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับ ภาวะขาดน้ำก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรงหลายประการ
อาการของการขาดน้ำ ได้แก่
- ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มและมีกลิ่นแรง
- ปัสสาวะน้อยลงกว่าปกติ
- รู้สึกเวียนหัวหรือมึนหัว
- รู้สึกเหนื่อยล้า
- ปาก ริมฝีปากและลิ้นแห้ง
- ตาโหล
ในกรณีภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการ สับสน หัวใจเต้นเร็ว และอาจถึงขั้นอวัยวะล้มเหลวได้ ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Neatly being Group – WHO)

ดื่มน้ำมากเกินไปเป็นอันตรายได้ไหม ?
คำตอบของคำถามข้างต้นคือ ใช่ การดื่มน้ำมากเกินไปอาจมีผลร้ายแรงได้
การดื่มน้ำมากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจก่อให้เกิดภาวะโซเดียมในเลืoดต่ำ ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ภาวะน้ำเป็นพิษ” อาการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อระดับโซเดียมในเลืoดต่ำลงจนเป็นอันตราย ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเกิดการบวม
อาการของภาวะโซเดียมในเลืoดต่ำ ประกอบด้วย
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ปวดหัว
- สับสน
- สูญเสียพลังงาน ง่วงนอน และอ่อนล้า
- กระสับกระส่ายและหงุดหงิด
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระตุกหรือเป็นตะคริว
- ชัก
- ในกรณีรุนแรง อาจถึงขั้นโคม่า
ในปี 2018 โจฮันนา เพอร์รี กำลังฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนที่กรุงลอนดอน กับลูกสาวและลูกเขยของเธอ โดยวันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนมากและเธอได้ดื่มน้ำที่อาสาสมัครแจกให้กับนักวิ่งในปริมาณที่มาก
“สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือป้ายฮาล์ฟมาราธอน” เธอเล่าในรายการเดอะ ฟูด เชน (The Food Chain) ของบีบีซี
โจฮันนาตื่นขึ้นมาในห้องไอซียูเป็นเวลาสามวัน วิดีโอที่สามีของเธอบันทึกไว้ตอนเธอกำลังข้ามเข้าเส้นชัย แต่เธอกลับจำช่วงเวลานั้นไม่ได้เลย
“สามีของฉันและเพื่อนคนอื่น ๆ อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาโบกมือให้ฉัน แต่ร่างกายของฉันโซเซ พอเรากลับถึงบ้าน ฉันก็รู้สึกป่วยมาก และเห็นได้ชัดว่าหมดสติไป” โจฮันนาเล่า
“ฉันดื่มน้ำไปมากจนเกลือและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายถูกชะล้างออกไปหมด”
กรณีของโจฮันนา แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายรับของเหลวเข้าไปมากกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับ
ของเหลวจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลืoดอย่างรวดเร็ว ไตจะกรองของเหลวส่วนเกินที่ดูดซึมเข้าไปแล้วผลิตปัสสาวะออกมา อย่างไรก็ตาม ไตของเราสามารถประมวลผลของเหลวได้เพียงประมาณ 1 ลิตรต่อชั่วโมง
คนเราต้องดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่ ?

ที่มาของภาพ : Getty Photography
เพื่อการมีสุขภาพที่ดี หน่วยงานด้านสุขภาพหลายแห่งแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว
หน่วยงานด้านความปลอดภัยอาหารของชาติยุโรปแนะนำให้ผู้หญิงดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน และสำหรับผู้ชายให้ดื่มน้ำ 2 ลิตรครึ่งต่อวัน นั่นหมายถึงน้ำจากทุกแหล่ง รวมถึงอาหาร ไม่ใช่เพียงในเครื่องดื่มเท่านั้น
อาหารส่วนใหญ่มักมีน้ำเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ ผัก ข้าว และแม้แต่ถั่วต่าง ๆ ก็ตาม อย่าง แตงโม ก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 92%
แต่คำแนะนำเหล่านี้อาจไม่ใช่คำแนะนำที่ครอบคลุม
ศาสตราจารย์จอห์น สปีคแมน แห่งมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน ในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับโลกที่ติดตามการบริโภคน้ำของผู้คนมากกว่า 5,000 คนใน 23 ประเทศ
“ผู้ชายอายุระหว่าง 20-60 ปี อาจต้องการน้ำประมาณ 1.8 ลิตรต่อวัน ส่วนผู้หญิงในช่วงอายุเดียวกันต้องการน้ำ 1.5-1.6 ลิตร แต่เมื่อคุณอายุประมาณ 85 ปี จริง ๆ แล้วคุณต้องการน้ำเพียงหนึ่งลิตรต่อวันเท่านั้น” ศาสตราจารย์สปีคแมนอธิบาย
ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำหนักตัว จำนวนกิจกรรมทางกาย อายุ เพศ และสภาพแวดล้อม
“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำที่คุณต้องการคือ ขนาดตัวของคุณ” เขากล่าวเสริม
“หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและชื้น ความต้องการน้ำของคุณก็จะสูงกว่าคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่หนาวเย็นและแห้งมาก”
ความกระหายน้ำเป็นสัญญาณตามธรรมชาติที่กำลังสื่อว่าร่างกายต้องการน้ำ สีปัสสาวะเป็นอีกตัวบ่งชี้ที่ดีได้ว่า ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอแล้วหรือไม่ เช่น หากปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อน เป็นสัญญาณว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ในขณะที่หากปัสสาวะสีเหลืองเข้มอาจบ่งบอกถึงภาวะขาดน้ำ
นอกจากนี้ คุณจะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้นหากคุณมีอาการอาเจียนหรือท้องเสีย
ที่มา BBC.co.uk