
อัพเดท ‘บ้านเพื่อคนไทย’ เตรียมจับฉลากคนผ่านเกณฑ์เข้าทำสัญญากู้เงินโครงการลอตแรก 5,000-6,000 ยูนิต เดือน พ.ย.นี้ จากผู้ผ่านคุณสมบัติ 136,699 คน คู่ขนานควักงบ 114 ล้านบาทศึกษาในรายละเอียดทำ EIA แต่ละพื้นที่ ให้จบก่อนเสนอ ครม. ต.ค.นี้ คาดลอตแรกเข้าอยู่อาศัยปี 69 นี้
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 13 พ.ค. 2568 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจับสลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระหว่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) โดยจากที่ได้เปิดตัว “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา โครงการในระยะแรกมีแผนนำร่องในพื้นที่ศักยภาพ 4 แห่ง ได้แก่ 1. พื้นที่โครงการบางซื่อ กม.11 (วิภาวดี) 2. พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3. พื้นที่โครงการเชียงราก (ปทุมธานี) 4. พื้นที่ธนบุรี ซึ่งประชาชนให้การตอบรับอย่างดี โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ทางออนไลน์ ร่วมโครงการมากกว่า 260,000 คน และในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วกว่า 136,699 คน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
ขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิ์ ซึ่งในระยะแรกมีประมาณ 5,000-6,000 ห้อง ซึ่งน้อยกว่าความต้องการที่ลงทะเบียนไว้ ดังนั้นเพื่อให้การคัดเลือกเป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ SRTA จึงลงนามร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้เข้ามาช่วยดำเนินการกระบวนการจับสลากคัดเลือกด้วยวิธีการที่เหมาะสม กระบวนการโปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นที่ยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนได้เพราะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตามแผนงานคาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือน ต.ค. 2568 เพื่อขออนุมัติเพื่อดำเนินโครงการ และจับสลากได้ประมาณเดือน พ.ย. 2568 ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็นโครงการใหม่ที่ยังไม่มีรูปแบบมาก่อน และเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตอบสังคมได้ว่าทำไมต้องทำโครงการนี้ ขณะนี้ยังมีกระบวนการที่ต้องเตรียมความพร้อมรายละเอียดก่อนเข้าครม. เช่น ศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เสร็จ และออกแบบรายละเอียด การรื้อย้ายผู้เช่า หรือผู้บุกรุกในบางพื้นที่ โดยยืนยันว่าจะสามารถเริ่มส่งมอบให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่กลางปี 2569
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีสัญญาเช่า 99 ปีซึ่งตามระเบียบการรถไฟฯ ไม่สามารถดำเนินการได้นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ทาง SRTA ยังไม่ได้มีการทำสัญญากับประชาชนที่จะเช่าแต่อย่างใด ยอมรับว่าเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิฯ, พ.ร.บ.การรถไฟฯ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการให้ชัดเจน เชื่อว่าภายในสิ้นปี 2568 กฎหมายเหล่านี้จะตกผลึก ชัดเจน ซึ่งการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วน SRTA มีฐานะเป็นผู้ปฎิบัติตามกฎหมาย โดยปลายปีนี้เชื่อว่าจะประกาศให้ประชาชนเข้าร่วมและทำสัญญาได้ และยืนยันว่า SRTA มีฐานะเป็นบริษัทลูกที่การรถไฟฯ ถือหุ้น 100% สามารถนำพื้นที่การรถไฟฯมาดำเนินการเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
“ตามไทม์ไลน์ขณะนี้ เดือน ต.ค. 68 เข้า ครม.ขออนุมัติดำเนินโครงการก็เข้าสู๋กระบวนการประมูลก่อสร้าง และเดือน พ.ย. 68 มีการจับสลากในพื้นที่นำร่อง และมีการศึกษาดีมานด์ พื้นที่ระยะที่ 2 ที่จะเปิดและให้ผู้สนใจทยอยลงทะเบียนจะทำไปต่อเนื่อง” นายสุรพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ รมช.คมนาคมยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 จึงให้ ธอส.ตรวจสอบความเห็นประชาชนอีกครั้ง ซึ่งประชาชนยังคงยืนยันเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งในหลักการโครงการจะเพิ่มเติมสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการแผ่นดินไหวเพิ่มเติมไปด้วยซึ่งเป็นข้อดีเพราะเป็นโครงการใหม่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้
สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
@คลังยันพร้อมจัดสินเชื่อหนุนโครงการฯ
ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในส่วนของ ธอส.มีความพร้อมและมีสภาพคล่องเพียงพอในการจัดการสินเชื่อทั้งด้านการก่อสร้างและสินเชื่อสำหรับผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งประเมินผู้ร่วมโครงการเฟส 1 และ 2 ประมาณ 7,000-8,000 คน
@SRTA เร่งจ้างศึกษา EIA-ออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง 4 พื้นที่
พันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง SRTA และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจับฉลากผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารคัดเลือกที่มีมาตรฐานเป็นปัจจัยในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการจับสลาก จะมีการทำดาต้าข้อมูลผู้ผ่านคุณสมบัติผ่าน จัดกลุ่มเป็นพื้นที่ และแบ่งตามขนาดห้องลงไปอีก ซึ่งจะแจ้งขั้นตอนและวิธีการให้ทราบ
ความคืบหน้าขณะนี้ SRTA อยู่ระหว่างจัดทำร่าง TOR เพื่อประมูลจ้างที่ปรึกษาศึกษารายงาน EIA และออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง (Detail & Compose) จำนวน 8 สัญญา ใช้งบประมาณรวม 114 ล้านบาท โดยจะเปิดประมูลพื้นที่ละ 2 สัญญา คือ สัญญาจ้างศึกษา EIA และจ้างออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาในปลายเดือน มิ.ย. 2568
อย่างไรก็ตาม โครงการระยะนำร่องจำนวน 4 โครงการ 5,700 ยูนิต ประกอบด้วย บางซื่อ กม.11 พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ จำนวน 2,000 ยูนิต เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 26 ชั้น, ธนบุรีพื้นที่ประมาณ 21 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น, เชียงราก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และพื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ มีคอนโดมิเนียม 8 ชั้นและ บ้านเดี่ยว จำนวน 34 หลัง
พ.ท. หนุน ศันสนาคม ผู้อำนายการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งฯได้เคยดำเนินการสุ่มตัวแทนสลากซึ่งมีผู้สมัครกว่า 9 แสนราย ใช้วิธีการคัดเลือกจับสลาก มีขั้นตอนที่โปร่งใส และประสบความสำเร็จ ครั้งนั้นใช้เวลา 4 ชั่วโมงแล้วเสร็จ โดยจะใช้โปรแกรมที่มีอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่วิธีการและขั้นตอนที่จะตกลงกับทาง SRTA และประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ โดยจะมีการถ่ายทอดสดด้วย ดังนั้นสามารถตรวจสอบได้ย้อนหลัง แก้ไขไม่ได้ ซึ่งสำนักงานสลากฯ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการบ้านเพื่อคนไทย
พันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )