เกิดความโกลาหลเป็นวงกว้าง ขณะที่ชาวกาซากำลังเฝ้ารออาหารที่ถูกส่งมาด้วยความสิ้นหวัง

ที่มาของภาพ : EPA

Article files

  • Author, รัชดี อาบูลูฟ, อลิซ คัดดี และ มัลลอรี มองซ์
  • Aim, บีบีซีนิวส์

อาหารจำนวนจำกัดที่ไหลเข้าสู่ฉนวนกาซา หลังอิสราเอลเลิกปิดล้อมบางส่วน ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ขณะที่ความหิวโหยยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง

ร้านเบเกอรีที่แจกจ่ายอาหารถูกฝูงชนห้อมล้อมจนแน่นขนัด จนต้องปิดไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 พ.ค.) ขณะที่ผู้ปล้นสะดมโจมตีขบวนรถช่วยเหลือเมื่อคืนนี้ ส่งผลทำให้เกิดการยิvปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฮามาส ซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าพวกเขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของโดรนจากฝ่ายอิสราเอล

เหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาตอนกลาง ได้รับการบอกเล่าให้บีบีซีฟังจากผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เช่น นักข่าวท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ฮามาส โดยพวกเขาได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่เลวร้ายลงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการปกครองได้ล้มสลายพร้อมกับภาวะไร้ขื่อแปได้แผ่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า

ขบวนรถบรรทุก 20 คันซึ่งลำเลียงแป้งสำหรับประกอบอาหาร และได้รับการประสานงานโดยโครงการอาหารโลก หรือ ดับเบิลยูเอฟพี (World Meals Programme -WFP) กำลังเดินทางข้ามเคเรม ชาลอม ไปยังคลังสินค้าของ WFP ในเดียร์ อัล-บาลาห์ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฮามาส 6 คน คอยคุ้มกันขบวน แต่แล้วมันก็ถูกโจมตีโดยมือปืนนิรนาม 5 คน ซึ่งยิvใส่ยางรถและพยายามยึดสินค้า

คนในเหตุการณ์เล่าให้บีบีซีฟังว่า เจ้าหน้าที่ทีมรักษาความปลอดภัยของฮามาสยิvปะทะกับผู้โจมตีเป็นระยะสั้น ๆ ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดเสียงsะเบิดขึ้น เมื่อโดรนของอิสราเอลจำนวน 4 ลูก พุ่งเป้ามายังหน่วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฮามาส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของฮามาสเสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บอีกหลายคน

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed readingได้รับความนิยมสูงสุด

Discontinue of ได้รับความนิยมสูงสุด

ที่มาของภาพ : EPA

ฮามาสออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีดังกล่าวว่า “เป็นการสังหารหมู่ที่น่าสยดสยอง” และกล่าวหาว่าอิสราเอลจงใจพุ่งเป้าไปยังบุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มกันขบวนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ขณะที่กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ (IDF) กล่าวว่าเครื่องบินของอิสราเอลสามารถระบุ “มือปืนหลายคน รวมถึงผู้ก่อการร้ายฮามาส” ใกล้กับรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาตอนกลาง” และ “เข้าโจมตีมือปืนหลังระบุตัวตนได้”

ไอดีเอฟกล่าวด้วยว่า “จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปไม่ถึงมือองค์กรก่อการร้าย”

มีเพียงอาหารจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามเข้าไปในฉนวนกาซาในสัปดาห์นี้ โดยมีเพียงรถบรรทุกประมาณ 130 คนที่ข้ามพรมแดนในช่วงสามวันที่ผ่านมาได้ โดยองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) กล่าวว่า ฉนวนกาซาต้องการรถบรรทุกเสบียง 500-600 คัน/วัน

หน่วยงานระหว่างประเทศต่าง ๆ รวมถึงยูเอ็นและดับเบิลยูเอฟพี พยายามส่งสัญญาณเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความไม่ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น กำลังขัดขวางการส่งมอบอาหารและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับประชากรซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้พลัดถิ่น

ด้านอิสราเอลบอกว่าการปิดล้อมมีจุดมุ่งหมายเพื่อกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวประกันที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในฉนวนกาซา นอกจากนี้อิสราเอลยังกล่าวหาว่าฮามาสขโมยเสบียงต่าง ๆ ซึ่งทางกลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

โครงการอาหารโลกกล่าวว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือจำนวน 15 คันถูกปล้นภายในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และ “ความหิวโหย ความสิ้นหวัง และความวิตกกังวลว่าความช่วยเหลือด้านอาหารจะมามากขึ้นหรือไม่มีเลย กำลังสั่นครอนความมั่นคงมากขึ้น” ด้วยเหตุนี้ ทางองค์กรจึงเรียกร้องไปยังอิสราเอลให้ช่วยรับรองความปลอดภัยของรถบรรทุกขนส่งเสบียง

ฟิลิปเป ลาซซารินี ผู้อำนวยการองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) โพสต์บนเอ็กซ์ (X) ว่า ไม่ควรมีใครมัวแต่ “ประหลาดใจหรือตกใจ” ที่ความช่วยเหลือถูกปล้นสะดม เพราะ “ประชาชนในฉนวนกาซากำลังอดอยาก และขาดปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงน้ำ และยารักษาโรค มานานกว่า 11 สัปดาห์แล้ว”

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี ชาวปาเลสไตน์ที่โกรธแค้นและหิวโหยก็พยายามเบียดเสียดกันนอกร้านเบเกอรีในฉนวนกาซา ด้วยความพยายามอย่างสิ้นหวังว่าจะได้ขนมปัง แต่สถานการณ์กลายเป็นความโกลาหลอย่างรวดเร็ว ทำให้การแจกจ่ายขนมปังต้องหยุดลงและทำให้ร้านเบเกอรีส่วนใหญ่จำต้องระงับการดำเนินงานไปก่อน โดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีความปลอดภัย

ประชาชนจำนวนมากในกาซาเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อวิธีการแจกจ่ายความช่วยเหลือมากขึ้น และวิพากษ์วิจารณ์โครงการอาหารโลกซึ่งเป็นผู้ดูแลการส่งมอบอาหารข้ามประเทศ

บางคนเรียกร้องให้เปลี่ยนจากการแจกจ่ายขนมปังเป็นการให้แป้งสำหรับประกอบอาหารครอบครัวละ 1 กระสอบต่อครอบครัวแทน โดยชาวบ้านโต้แย้งว่าการแจกแป้งจะช่วยให้ครอบครัวสามารถอบขนมปังที่บ้านหรือในเต็นท์ได้ ซึ่งปลอดภัยกว่าการรอคอยขนมปังภายในศูนย์ช่วยเหลือที่แออัด

ที่มาของภาพ : EPA

ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ได้เล่าว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และความล่มสลายของบริการพื้นฐานที่ผู้คนต้องเผชิญท่ามกลางการสู้รบหรือถูกบังคับให้ออกจากบ้านของพวกเขา เนื่องจากไอดีเอฟยังคงเพิ่มปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสอย่างต่อเนื่อง

จากค่ายผู้พลัดถิ่นในอัล-มาวาซี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา นายอับดุล อัล-ฟาตาห์ ฮุสเซน กล่าวกับบีบีซีผ่านแอปพลิเคชันวอตส์แอปว่า สถานการณ์ในพื้นที่เลวร้ายลงอย่างมากด้วยจำนวนประชากรในพื้นที่

พ่อลูกสองรายนี้กล่าวว่า “ไม่มีที่ว่าง” อีกแล้วในอัล-มาวาซี ซึ่งเป็นสถานที่ที่อิสราเอลสั่งให้ผู้คนอกจากบ้านของพวกเขา เพื่อไปหาที่ปลอดภัย

“ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ และไม่มียารักษาโรค” เขาบอก

“มีการโจมตีทางอาหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลากลางคืน ยิ่งทำให้ทุกข์ทรมานมากขึ้น”

เขายังบรรยายด้วยว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ถูกส่งเข้ามา “เหมือนหยดน้ำในมหาสมุทร เมื่อเทียบกับความต้องการของฉนวนกาซา”

เมื่อนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศว่า ในที่สุดเสบียงบางส่วนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในฉนวนกาซาเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เขาก็บอกว่ามีเพียง “ปริมาณพื้นฐาน” เท่านั้นที่สามารถส่งข้ามไปได้

หน่วยงานด้านมนุษยธรรมเตือนว่า ปริมาณอาหารที่เข้าสู่กาซาเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ไม่ได้ใกล้เคียงกับปริมาณที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงดูประชากร 2.1 ล้านคนในฉนวนกาซา

ขณะที่องค์การสหประชาชาติบอกว่ามีรถบรรทุกประมาณ 500 คันเข้าสู่ดินแดนนี้โดยเฉลี่ยทุกวัน ก่อนเกิดสงคราม

กลุ่มด้านมนุษยธรรมเตือนว่าความอดอยากกำลังแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่กาซา

ด้านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของยูเอ็น บอกว่า รถบรรทุก 400 คันได้รับอนุญาตให้เข้ากาซาในสัปดาห์นี้ แต่สามารถรวบรวมเสบียงได้เพียง 115 คันเท่านั้น โดยเขากล่าวว่าไม่มีอะไร “ไปถึงทางเหนือที่ถูกปิดล้อม” จนถึงตอนนี้ ขณะที่แป้ง อาหารทารก และเวชภัณฑ์บางส่วนเข้าสู่ฉนวนกาซา และร้านเบเกอรีบางแห่งในภาคใต้ก็เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง

กูเตอร์เรส กล่าวด้วยว่า นั่นเป็น “ความช่วยเหลือเพียง 1 ช้อนชา เมื่อเทียบกับความต้องการที่มีอยู่อย่างท่วมท้น”

“กำลังรอเสบียง 160,000 พาเลท (หรือแท่นสำหรับวางสินค้าเพื่อขนย้ายหรือจัดส่งสินค้า) ซึ่งเพียงพอที่จะบรรจุในรถบรรทุกจำนวน 9,000 คัน” เขากล่าวเสริม

ด้าน ริดา นักผดุงครรภ์จากองค์กรการกุศลโฮป (HOPE) ในเดียร์ อัล-บาลาห์ บอกว่ามีผู้หญิงหลายคนที่มายังคลินิกของเธอจากอาการเป็นลม เนื่องจากได้กินอาหารเพียงมื้อเดียวต่อวัน และดำรงชีพด้วยบิสกิตพลังงานสูงซึ่งทางองค์กรมอบให้

ที่มาของภาพ : EPA

“เนื่องจากภาวะทุพโภชนาการ พวกเขาจะบอกเราเสมอว่า ‘ลูกของฉันไม่สามารถได้รับสารอาหารที่เพียงพอจากเต้านมของฉัน ลูกของฉันร้องไห้ไม่หยุด พวกเขาต้องการนมแม่ แต่เต้านมของฉันนั้นกลับว่างเปล่า'”

ส่วน นาบา นาเฮด อัลนัจจาร์ วัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในข่าน ยูนิส สถานที่ที่ทางไอดีเอฟส่งให้ผู้คนจำนวนมากอพยพออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าจะเกิดปฏิบัติการทางทหารที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้น เธอบอกกับบีบีซีว่า ครอบครัวยังอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งถูกทำลายลงบางส่วน

“ครั้งหนึ่งมีการออกคำสั่งอพยพสำหรับพื้นที่ของเราแล้ว แต่เรายังไม่อยากเป็นคนไร้บ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี” เธอกล่าว

“มีผู้คนอยู่ในพื้นที่นี้ไม่มากนัก กลุ่มผู้ไร้บ้านนอนหลับอยู่บนถนน และไม่มีอาหารประทังชีวิต”

“สถานการณ์แย่ลงมากและลำบากมาก”

นาบาพูดผ่านวอตส์แอป ซึ่งบ่อยครั้งมันเป็นวิธีเดียวสำหรับการติดต่อผู้คนในกาซา เนื่องจากนักข่าวถูกไอดีเอฟปิดกั้นไม่ให้เข้ามาในพื้นที่

เธอยังกล่าวว่า “การทิ้งsะเบิดยังดำเนินต่อไปในลักษณะที่โหดร้าย” และบอกด้วยว่าตัวเองและครอบครัวแทบไม่เหลืออะไรแล้ว

“เราไม่มีอาหาร ไม่มีแป้ง และปัจจัยพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต” เธอกล่าว