
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘อุทัย ลือสกุล' ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพชรบุรี กรณีจัดซื้อรถยนต์แทนอุปกรณ์ขับรถ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี ทางไต่สวนเป็นประโยชน์ลดเหลือ 3 ปี 4 เดือน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอุทัย ลือสกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี กับพวก จัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องอุปกรณ์ขับรถยนต์แต่กลับจัดซื้อรถยนต์ยี่ห้อ ALL unique ISUZU D-MAX โดยวิธีพิเศษ ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ ที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และตามพ.ร.บ.ฮั้ว พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายอุทัย ลือสกุล จำเลยมีความผิด ลงโทษตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ฮั้ว จำคุก 5 ปี
ทางไต่สวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษ ให้หนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )