
กรุงเทพมหานครสแกนยิบ ‘ถนนแจ้งวัฒนะ’ พบเสี่ยงท่วม 18 จุด ผ่าแนวเหนือ-ใต้แก้ปัญหา ช่วงตอนบนหมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์หนักสุด ประสานบึงสีกันเป็นพื้นที่รับน้ำ ส่วด้านใต้ มทบ.11 เปิดค่ายเป็นแก้มลิงรับน้ำ รองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครเผยจุดเสี่ยงสำคัญคือ บริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง แต่วางแผนเฝ้าระวังรับมือไว้แล้ว
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 8 มิถุนายน 2568 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในภาพรวมทั่วกรุงเทพฯ มีจุดเสี่ยงน้ำท่วม 737 จุด แบ่งเป็นท่วมจากน้ำฝน 614 จุด และบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา 120 จุด เป็นผลสำรวจจากปี 2565 ที่มีปริมาณฝนถึง 2,200 มิลลิเมตร ทำให้ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครรู้จุดอ่อนและจุดเสี่ยงแต่ละพื้นที่ จึงนำเทคโนโลยีคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 1-3 ชั่วโมงมาใช้ เพื่อสามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ได้ทันเวลา ในกรณีมีปริมาณฝน 100 มิลลิเมตรขึ้นไป จุดเปราะบางต่าง ๆ จะเกิดน้ำท่วมขังแน่นอน เช่น ย่านพัฒนาการ ย่านบางนา เป็นต้น แต่การพยากรณ์ล่วงหน้าทำให้เตรียมตัวได้ทัน สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น โดยแบ่งการจัดการน้ำเป็นระยะตั้งแต่ก่อนฤดูฝน มีการขุดลอกท่อและคูคลอง ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน เช่น สถานีสูบน้ำ อุโมงค์ ประตูระบายน้ำ และท่อต่าง ๆ เป็นต้น ระยะฝนตก มีการติดตามสถานการณ์โดยศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยในจุดท่วมขัง ฝนตกหนัก ส่วนระยะหลังฝนตก ต้องเร่งระบายน้ำโดยเร็ว ตามหลักการคือ กำจัดสิ่งกีดขวาง ทำให้น้ำจากผิวถนนไหลลงท่อระบายน้ำ สู่คลองสายย่อยและคลองสายหลัก เพื่อระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็วที่สุด
รองผู้ว่ากรุงเทพมหานครกล่าวว่า ปัจจุบันจุดเสี่ยงที่กังวลเรื่องน้ำท่วมคือ บริเวณจุดก่อสร้างต่าง ๆ โดยเฉพาะเขตดอนเมือง ถนนช่างอากาศอุทิศ ถนนประชาอุทิศ มีประชากรอาศัยจำนวนมาก และอยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงขนาดท่อระบายน้ำในหลายจุด แต่ได้วางแผนเฝ้าระวังรับมือไว้แล้ว ส่วนพื้นที่อื่น ๆ หากมีฝนตกหนัก มั่นใจว่าจากการปรับปรุงจุดเสี่ยงที่ผ่านมาช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้นแน่นอน หรือหากประชาชนพบจุดเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเติม สามารถแจ้งผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ได้ทันที เพื่อแก้ไขปรับปรุงต่อไป ที่ผ่านมาการระบายน้ำในพื้นที่รับผิดชอบของ กรุงเทพมหานครใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง
@แจ้งวัฒนะเสี่ยงท่วม 18 จุด
นายวิศณุ กล่าวว่า จุดเสี่ยงทั้ง 737 จุดในกรุงเทพฯ รวมพื้นที่เอกชนไว้ด้วย แต่ปัญหาคือ บางพื้นที่ กรุงเทพมหานครไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปจัดการ จึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเปิดทางระบายน้ำรอบนอก ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความร่วมมือจากเอกชนและหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ก็สามารถบริหารจัดการและแก้ไขน้ำท่วมได้มากขึ้น โดยเฉพาะถนนแจ้งวัฒนะ มีจุดเสี่ยงน้ำท่วม 18 จุด แบ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมประจำ 5 จุด เช่น บริเวณหน้า มทบ.11 ศาลปกครอง ซอยแจ้งวัฒนะ 10 หรือจากคลองประปาถึงถนนวิภาวดีฯ และในซอยย่อยตามหมู่บ้าน 13 จุด แนวทางแก้ไขคือ แบ่งการจัดการเป็นแจ้งวัฒนะฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ในส่วนแจ้งวัฒนะฝั่งเหนือ บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 14 เขตหลักสี่ เป็นจุดน้ำท่วมสำคัญ โดยเฉพาะในหมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ที่มีน้ำท่วมมาก กรุงเทพมหานครจึงได้เจรจาขอใช้พื้นที่บึงสีกันภายในหมู่บ้าน เพื่อปรับปรุงให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นจากเดิม 50,000 ลูกบาศก์เมตร เป็น 150,000 ลูกบาศก์เมตร โดยสำนักการระบายน้ำได้พิจารณาแล้วว่าสามารถพัฒนาให้เป็นแก้มลิงได้ ใช้วิธีต่อท่อระบายน้ำจากถนนแจ้งวัฒนะ 14 และหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อระบายน้ำสู่บึง ซึ่งบึงสีกันเชื่อมต่อคลองบางพูด และคลองบางพูดไปเชื่อมต่อกับคลองตาอูฐ เมื่อสามารถพัฒนาบึงให้เป็นแก้มลิงและเชื่อมต่อท่อระบายน้ำดังกล่าวแล้ว จะสามารถควบคุมน้ำในบึงให้มีระดับต่ำลงได้ ทำให้มีพื้นที่เหลือสำหรับสูบน้ำจากซอยแจ้งวัฒนะ 14 และพื้นที่ใกล้เคียงลงบึงได้มากขึ้น และสามารถระบายน้ำจากบึงออกสู่คลองบางพูดและคลองตาอูฐเพื่อระบายออกคลองเปรมประชากรซึ่งเป็นคลองหลักสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
นอกจากนี้ ได้เพิ่มกำลังสูบน้ำและทำเขื่อนในคลองตาอูฐเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำ และทำเขื่อนที่คลองเปรมประชากรเพื่อเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับ กรมทางหลวงได้ลอกท่อถนนแจ้งวัฒนะทำให้น้ำระบายจากต้นทางสู่ปลายทางได้เร็วขึ้น
นายวิศณุกล่าวว่า ส่วนแจ้งวัฒนะฝั่งใต้ ได้รับความร่วมมือจาก มทบ.11 ในการทำแก้มลิงในพื้นที่ สามารถรับน้ำได้ประมาณ 30,000 ลูกบาศก์เมตร มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณด้านหน้า มทบ.11 จำนวน 2 เครื่อง และด้านใน 3 เครื่อง เพื่อระบายน้ำลงถนนหมายเลข 10 ตามอัตราการระบายน้ำประมาณ 16,000 ลบ.ม./ชั่วโมง รวมถึงมีการก่อสร้างโครงการสถานีสูบน้ำคลองบางตลาดใกล้กับศูนย์ราชการฯ ความลึกประมาณ 7 เมตร สามารถสูบน้ำได้ประมาณ 8 ลบ.ม./วินาที เพื่อเร่งระบายน้ำย่านแจ้งวัฒนะลงคลองบางตลาดสู่คลองเปรมประชากรและแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสถานีสูบน้ำคลองบางตลาดและแก้มลิงใน มทบ.11 เป็นจุดบริหารน้ำหลักในพื้นที่แจ้งวัฒนะฝั่งใต้ในส่วนบริเวณหน้าโลตัสแจ้งวัฒนะ มีปัญหาน้ำท่วมมาตลอด ปัจจุบันมีการเชื่อมท่อลงแก้มลิงใน มทบ.11 แล้ว คาดว่าจะบรรเทาน้ำท่วมได้มากขึ้น
นายวิศณุ กล่าวว่า ส่วนการก่อสร้างปรับปรุงคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิตในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมหนักเนื่องจากอยู่ระหว่างก่อสร้าง หากดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยระบายน้ำได้มาก เบื้องต้นสำนักการระบายน้ำได้ร่วมมือกับกรมทางหลวงในการเปิดทางระบายน้ำเพิ่มเติมและเฝ้าระวังเพื่อบรรเทาน้ำท่วม โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จทันฤดูฝนปี 2569 นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอีกหลายส่วนที่กรมทางหลวงกำลังเร่งดำเนินการ เช่น การขยายท่อระบายน้ำขนาด 4 เมตร ใต้แนวถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะช่วยการระบายในอนาคตได้มาก
วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )