
ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อภิชัย รอดศิริ’ นายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง จ.ชุมพรจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นตำแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติส่งหนังสือแจ้ง 2 ครั้งแต่เพิกเฉย
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภา 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นายอภิชัย รอดศิริ นายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำพิพากษามีรายละเอียดดังนี้
@เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม-ยื่นตอนเข้า/ไม่ยื่นตอนพ้นตำแหน่ง
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. fifty three/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 18/2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 21 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2568 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายอภิชัย รอดศิริ ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีต้าบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง
และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่ง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรรรสอง (1) และ 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง คำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหา และสำนวนการไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจจริงรับฟังได้ว่า
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2557 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว แต่ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตำแหน่งภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้องอีกครั้ง แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงเพิกเฉย
@ พฤติการณ์จงใจ-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติส่งหนังสือแจ้งให้ยื่น 2 หลัง แต่เพิกเฉย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพรหรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตร ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงต่อผู้ร้องเมื่อเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และ 105 อันเป็นมาตรการสำคัญในการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สิพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐในระหว่างเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตำแหน่ง ทำให้ผู้ร้องไม่อาจเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของทรัพย์สินและหนี้สินในระหว่างการดำรงตำแหน่งของผู้ถูกกล่าวหาตาตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
อีกทั้งเมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแล้ว ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้อง แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย เมื่อผู้ร้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหาอ้างเรื่องอาการเจ็บป่วยและสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเหตุให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินล่าช้า ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้องอีกครั้ง ผู้ถูกกล่าวหายังคงเพิกเฉยเช่นเดิมจึงเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหาได้แก้ไขข้อบกพร่องแล้วแต่ผู้ถูกกล่าวหากลับมิได้ดำเนินการอย่างใด เมื่อนำพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาข้างต้นมารับฟังประกอบคำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว กรณีจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 อีกบทหนึ่งด้วย
@เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายอภิชัย รอดศิริ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลขุนกระทิง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามมาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )