ถอดคลิปเสียงหลุด ฮุน เซน-แพทองธาร ใครพูดว่าอะไรบ้าง ?

ที่มาของภาพ : HANd OUT/THAI GOVERNMENT

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าคลิปเสียงสนทนาระหว่างเธอกับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เป็นคลิปเสียงจริง พร้อมชี้แจงว่าประเด็นที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 “เป็นเทคนิคในการคุยการเจรจาต่อรอง” และไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล “ฮุน-ชินวัตร” จะเป็นอย่างไรต่อไป

คลิปเสียงสนทนาที่ถูกระบุว่าเป็นของนายกรัฐมนตรีไทยและสมเด็จฮุน เซน ความยาว 9 นาทีเศษถูกเผยแพร่ออกมาทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ น.ส.แพทองธาร เปิดแถลงข่าวด่วนต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าเป็นเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

ด้านสมเด็จฮุน เซน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กในวันนี้ (18 มิ.ย.) ยืนยันว่าได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย จริง พร้อมยืนยันถึงเหตุผลความจำเป็นในการบันทึกเสียง

“เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนในเรื่องที่เป็นทางการ เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องบันทึกการสนทนาเอาไว้เพื่อความโปร่งใสรวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชา” สมเด็จฮุน เซน ระบุในโพสต์ดังกล่าว

ด้าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้โทรมาปรับความเข้าใจ และอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ว่าเพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนเบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด

Discontinue of ได้รับความนิยมสูงสุด

แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เขาได้บอกกับนายกรัฐมนตรีไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” และกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร พร้อมยืนยันว่าเพื่อประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน

.ถอดความจากคลิปเสียง และคำแถลงชี้แจงของนายกฯ แพทองธาร ในช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.)

แพทองธาร-ฮุน เซน สนทนาอะไรกัน

ในคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ความยาว 9 นาทีเศษที่ถูกปล่อยออกมานั้น ผู้เริ่มสนทนาคือ น.ส.แพทองธาร ที่เริ่มจากการทักทายสมเด็จฮุน เซน ว่า “เป็นอย่างไรบ้าง สุขภาพดีหรือเปล่า”

การสนทนาระหว่างบุคคลระดับนำทั้งสองประเทศนี้ มีคนกลางที่ น.ส.แพทองธาร เรียกว่า “พี่ฮวด” เป็นล่ามแปลภาษาระหว่างภาษาไทยที่ น.ส.แพทองธาร พูด และภาษากัมพูชาที่สมเด็จฮุน เซนพูด

ในช่วงแรกของการพูดคุย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เธอเชื่อว่าทั้งเธอและสมเด็จฮุน เซน ต่างก็อยากให้ประเทศสงบสุข พร้อมบอกว่าไม่อยากให้สมเด็จฮุน เซน ฟัง “แม่ทัพภาคที่สอง” ของไทย เพราะเป็นคนของฝั่งตรงข้าม

“ไม่อยากให้ uncle (คุณลุง) ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าพอไปฟังฝั่งตรงข้าม อย่างพวกแม่ทัพภาคสอง เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอเป็นฝั่งนั้นก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจหรือโกรธ เพราะจริง ๆ แล้วไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ” เธออธิบายกับสมเด็จฮุน เซน ตามที่ปรากฏในคลิปเสียง

“เพราะตอนนี้ทางนั้นเขาอยากจะดูเท่ เขาก็จะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ แต่ว่าจริง ๆ ที่เราต้องการ คือต้องการความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนค่ะ” เธอกล่าวต่อ

“ให้ท่านฮุนเซนเห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนนี้คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว” น.ส.แพทองธาร กล่าวผ่านล่ามแปลภาษา ก่อนกล่าวต่อไปว่า “จริง ๆ แล้วถ้าท่านอยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้”

จากนั้นสมเด็จฮุน เซน จึงตอบผ่านคลิปเสียงสนทนากลับมาเป็นภาษากัมพูชา ซึ่งล่ามแปลว่า “ขั้นตอนที่หนึ่ง อยากให้ชายแดนเปิดปกติเหมือนก่อนเกิดเหตุ” พร้อมอธิบายต่อว่าการปิดชายแดนเกิดจากฝ่ายไทยเป็นผู้เริ่มก่อน ดังนั้น หากฝ่ายไทยถอนคำสั่ง ทางกัมพูชาก็พร้อมจะปฏิบัติตามในการเปิดชายแดนตามปกติ

“เราก็มีความผิดหวังเรื่องหนึ่งแล้วที่การมีปัญหากันที่ช่องบก เราก็พยายามตามที่ฝ่ายไทยต้องการ… แต่ว่าเราถอยแล้ว เราถอนแล้ว เราปรับกำลังแล้ว แต่ฝั่งไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก” ล่ามแปลจากคำกล่าวของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งย้ำอีกว่าหากฝั่งไทยถอนคำสั่งเรื่องการปิดด่าน ฝ่ายกัมพูชาก็จะถอนคำสั่งห้ามสินค้าทางการเกษตร

ที่มาของภาพ : Getty Shots

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวขอโทษกับสมเด็จฮุน เซน กรณีที่สมเด็จฮุน เซน และ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา และบุตรชายของสมเด็จฮุน เซน เข้าใจว่าฝั่งไทยจะตัดน้ำตัดไฟ โดยระบุว่าการที่กระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงแบบนั้นเป็นการ “อธิบายขั้นตอนให้ฟัง” ว่าหากเกิดเหตุการณ์ต่อไปแล้วประเทศไทยจะทำอย่างไรบ้าง แต่ “ไม่ได้บอกว่าจะทำ”

ในคลิปเสียงที่หลุดออกมา เธอยังโน้มน้าวให้ผู้นำกัมพูชาออกมาพูดยืนยันเรื่องของการเปิดพรมแดนพร้อมกันกับฝั่งไทย

“ถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่าย เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่า จะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้” น.ส.แพทองธารกล่าว “จะเอาเป็นอิ๊ง กับฮุน มาเนตก็ได้ จะอย่างไรก็ได้ เหมือนว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วทั้งสองฝ่ายเห็นว่าอยากให้เหตุการณ์กลับเป็นปกติ”

ก่อนที่สมเด็จฮุน เซน จะตอบย้ำตามเดิมว่าอยากให้เคลียร์ทหารว่าพร้อมหรือไม่ในการเปิดด่าน เพราะที่ผ่านมาสมเด็จฮุน เซน ก็ต้องการเสถียรภาพ แต่ถูกทหารฝ่ายไทยเริ่มปิดด่านกดดันก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยระบุว่า “พร้อม”

แพทองธาร ชี้แจงว่าอย่างไร

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวด่วนต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีมีคลิปเสียงการพูดการคุยกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ยอมรับว่าเป็นคลิปจริงที่พูดคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงต่อไปว่าในการพูดคุยวันดังกล่าว ตนได้ทราบข้อมูลมาจากล่ามผู้แปลว่าทาง สมเด็จฮุน เซน โกรธที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูดในสื่อก่อนหน้านี้ จึงเข้าใจสถานการณ์และได้กล่าวกับสมเด็จฮุน เซน ว่า “ในเมื่อแม่ทัพภาค 2 พูดอย่างนี้ ทั้งไทย กับกัมพูชา เป็นฝั่งตรงข้ามกันและเกิดการปะทะอยู่แล้ว ก็อย่าไปถือสาเลย”

น.ส.แพทองธาร บอกว่า ได้พยายามทำความเข้าใจว่าสมเด็จ ฮุน เซน โกรธในประเด็นการให้สัมภาษณ์ของแม่ทัพภาคที่ 2 ก่อนหน้านี้ และการกล่าวถึงเรื่องฝ่ายตรงข้ามเป็นเทคนิคในการพูดคุยเจรจา

“คือพยายามจะทำความเข้าใจก่อนว่า เขาโกรธเรื่องนี้นะ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ หลังบ้านที่เป็นการพูดแบบ deepest conversation (บทสนทนาส่วนตัว) คุยโทรศัพท์กัน ก็ไม่ควรจะเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการคุยการเจรจาต่อรอง”

นายกฯ กล่าวยืนยันถึงจุดมุ่งหมายที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง รักษาอธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน การพูดคุยจึงเป็นไป “ด้วยความซอฟต์ ความนุ่มนวล” อีกทั้งเวลาคุยกันส่วนตัว ตนเรียกสมเด็จฮุน เซน ว่า “อังเคิล” แทนตัวเองว่าหลาน เหมือนเช่นการเรียกคนที่ทำงานใน ครม. ที่ทำงานในรุ่นพ่อว่า อา ลุง เป็นปกติ

นายกฯ กล่าวชี้แจงต่อไปว่าเนื้อหาการพูดคุยเป็นการเจรจาเรื่องการเปิดด่านบริเวณชายแดน ที่ได้เสนอการเปิดด่านพร้อมกัน แต่ทางฝ่ายสมเด็จฮุน เซน ปฏิเสธ

“ก็มีการคุยกันตามปกติ ระหว่างที่คุยกัน ไม่แน่ใจว่าเรื่องของไทม์ไลน์ของกองทัพ เป็นอย่างไร ดิฉันก็บอกว่าให้เปิดด่าน ก็บอกว่าได้เลย เปิดพร้อมกันไหม จะได้แสดงสันติภาพว่าจับมือปุ๊บเปิดพร้อมกัน แล้วเขาก็บอกว่าไม่ยอม ดิฉันก็บอกว่า ไม่ยอมได้ยังไง ไทยก็ยอมแล้วนะ ไม่ได้ต่อสู้ ไม่ได้ฮึดฮัดอะไรขึ้นมาเสียหน่อย คือพูดให้เขารู้สึกว่า เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเขาถึงไม่ได้ ต้องให้ไทยเปิดก่อน รอ 5 ชม. แล้วเขาถึงจะเปิดตาม เขาเป็นลูกผู้ชายนะ เขาคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”

ที่มาของภาพ : HANd OUT/THAI GOVERNMENT

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของอดีตนายกฯ กัมพูชาไป และแจ้งไปว่า ขอปรึกษากับทีมทางกลาโหมก่อน เพื่อจะให้คำตอบวันรุ่งขึ้น ซึ่งก็คือการประชุมที่บ้านพิษณุโลกในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

แต่เมื่อการประชุมในวันที่ 16 มิ.ย. ยังไม่ทันเสร็จสิ้น สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกว่า ถ้าประเทศไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชม. กัมพูชาจะปิดด่านหมดเลย ในจุดนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อันนี้แหล่ะที่ดิฉันรู้สึกว่าทำไมไม่เหมือนที่คุยกันไว้”

นายกฯ ย้อนกล่าวไปถึงช่วงที่มีบทสนทนาทางโทรศัพท์ว่าพยายามพูดด้วยความใจเย็นเพราะอยากทราบจริง ๆ ว่าอดีตนายกฯ กัมพูชา ต้องการอะไร และอะไรบ้างที่ฝ่ายไทยทำเพิ่มเติมได้หรือไม่ หรือจะคุยกันอย่างไรดีเพื่อต่อรองให้เกิดสันติภาพ ไม่เสียเลืoดเสียเนื้อ แต่สมเด็จฮุน เซน ก็ย้ำในเรื่องของการเปิดด่านอย่างเดียว แต่ตนไม่กล้ารับปาก เพราะไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่ แล้วบอกว่าประชุมพรุ่งนี้เสร็จจะบอก

“แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วค่ะว่า ความต้องการของท่าน (สมเด็จฮุน เซน) จริง ๆ แล้ว เป็นความต้องการคะแนนนิยมในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านต้องการมี reputation (คะแนนความนิยม) ของท่าน ท่านเคยบอกดิฉันไว้ว่า reputation (คะแนนความนิยม) เริ่มตก ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ซึ่งดิฉันก็หวังว่า ท่านจะได้คะแนนความนิยมเพิ่ม และอยู่ในสายตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่า ผู้นำสองท่านคุยกันแบบส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปและปล่อยออกมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้น จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่า จริง ๆ เราจะทำเพื่อให้เกิดสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้ reputation (คะแนนความนิยม) เพิ่มขึ้น ก็ไม่เป็นไร ตามนั้น”

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่า แต่ประเด็นการสนทนาที่สังคมจับจ้องนั้นคือคำกล่าวที่ว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา และบอกว่าเป็นเทคนิคในการพูดคุย

คำถามนี้ทำให้ น.ส.แพทองธาร ตอบทันควันว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่พวกเรานะคะ เรากับกัมพูชา ประเทศไทยกับกัมพูชา เราเป็นฝั่งตรงข้ามอยู่แล้ว การมาคุยแบบนี้ เราก็ต้องคุย พูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ทำความเข้าใจก่อนว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ เพื่อทำความเข้าใจเขา เพราะว่าเมสเสจ (สาร) ก่อนที่จะคุย คนที่แปลพูดกับเราว่า ท่านฮุน เซน โกรธที่คลิปแม่ทัพภาคที่ 2 ออกมา และมีการว่าออกไปว่าไม่ยอม ซึ่งจริง ๆ ฟังทั้งอันก็ไม่มีอะไร แต่ว่าเป็นประโยคแค่นั้นที่ตัดออกไป”

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “นี่คือเหตุที่ไม่อยากให้คนไทยไปหลงกลตรงนี้ เพราะนี่ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกว่าจริง ๆ เราทะเลาะกัน จึงต้องการแสดงความเข้าใจต่อเขาก่อน เพื่อให้เขาบอกความต้องการของเขาที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข ให้การปะทะจบลงเสียที

“ดิฉันก็อยากรู้ เพราะไม่ยอมจะเปิดด่านอย่างเดียว จึงบอกว่า ถ้าจะเปิด เปิดพร้อมกับฮุน มาเนตก็ได้ ดีไหม จะได้เป็นความสัมพันธ์ร่วมกันได้ว่า โอเค เราเลิกทะเลาะกันแล้วนะ เป็นความตั้งใจ แต่ท่านไม่ยอม ท่านไม่ยอม” นายกฯ กล่าว พร้อมบอกว่าบางช่วงตอนตนฟังไม่ทัน แต่เท่าที่จับความจากล่ามแปลภาษาฟังได้ว่า เหตุที่กัมพูชา “ไม่เปิดเพราะว่าทหารโกหก” จึงได้บอกกับทางสมเด็จฮุน เซน ว่าพรุ่งนี้ (จันทร์ 16 มิ.ย.) มีการประชุมใหญ่ ขอปรึกษาทางกองทัพก่อนว่าจะอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อมีการปล่อยคลิปแบบนี้ จะคุยกันต่อได้หรือไม่

น.ส.แพทองธาร บอกว่า “ไม่ทราบ…” และกล่าวต่อไปว่า “จริง ๆ ดิฉันก็ไม่ได้เป็นคนจะไปท้าตีท้าต่อย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีการคุยส่วนตัวแล้วล่ะค่ะ”

ที่มาของภาพ : Getty Shots

เมื่อถามว่า ถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล ตระกูลฮุน-ชินวัตร จบลงแล้วหรือไม่

นายกฯ บอกว่า “ดิฉันไม่ทราบว่ายังไง แต่ว่าไม่ขอคุยส่วนตัวแล้วละกัน เพราะมีปัญหาของเรื่องการไว้ใจ”

นายกฯ กล่าวถึงว่าจะมีการพูดคุยกับกองทัพหรือไม่ โดยบอกว่า “นาทีนี้ ถ้าดิฉันเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพจริง ๆ ทำไมดิชั้นต้องบอกว่า รอกองทัพคิดก่อนว่าคิดยังไงในวันต่อมา ทำไมดิฉันต้องรอกองทัพ ก็ไม่ต้องรอสิ แต่มันไม่ใช่”

น.ส.แพทองธารย้ำว่า เมื่อเห็นทางสมเด็จฮุน เซน ดูโกรธมากที่ได้เห็นคลิปการให้สัมภาษณ์ของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงประเมินว่าจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาเพิ่มหรือไม่ จึงรีบทำความเข้าใจต่ออดีตนายกฯ กัมพูชา

“รีบทำความเข้าใจกับเขาก่อน ว่าเวลาคนทะเลาะกันมันก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้วแบบนี้แหล่ะ แม่ทัพภาคสอง ก็ปล่อยเขาพูดเท่ ๆ ไปเถอะ คือพยายาม play down (ลดโทนความสำคัญ) ว่าไม่มีอะไรจริงจังนะกับเรื่องนี้ เพื่อที่จะให้ประโยคต่อ ๆ ไป ว่าคุณจะเอายังไงต่อ พยายามจะ convince (โน้มน้าว) เขา”

นายกฯ ทิ้งท้ายว่า “ทั้งนี้ทั้งนั้นคอนเวอร์เซชันแบบนี้มันไม่ควรจะออกอยู่แล้ว นี่ระดับผู้นำของประเทศ นายกฯ และอดีตนายกฯ ที่เป็นมาตั้งแต่อายุ 32 เป็นพ่อของนายกฯ”

ปฏิกิริยาจากสมเด็จฮุน เซน

หลังจากคลิปเสียงถูกเผยแพร่ออกมาทางโซเชียลมีเดีย สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ยืนยันว่าได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย จริง พร้อมยืนยันถึงเหตุผลความจำเป็นในการบันทึกเสียง

“เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนในเรื่องที่เป็นทางการ เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องบันทึกการสนทนาเอาไว้เพื่อความโปร่งใสรวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชา” สมเด็จฮุน เซน ระบุในโพสต์ดังกล่าว

เขาบอกว่า เขาได้แบ่งปันบันทึกเสียงการสนทนานี้ให้กับคนประมาณ 80 คน ซึ่งรวมถึงคณะกรรมาธิการสามัญประจำพรรค, คณะทำงานของวุฒิสภา, ทีมต่าง ๆ ในรัฐสภากัมพูชา, หน่วยเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ, หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึง, กลุ่มกิจการชายแดนต่าง ๆ, และสมาชิกของกองทัพ ซึ่งในกลุ่มคนเหล่านี้ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีไทย

สมเด็จฮุน เซน ระบุด้วยว่า เขาสังเกตว่าคลิปวิดีโอที่หลุดออกมามีความยาวเพียง 9 นาทีเท่านั้น ซึ่งหากฝั่งไทยต้องการบันทึกเสียงเต็ม เขาก็เตรียมที่จะปล่อยคลิปเสียงความยาว 17 นาที 6 วินาทีนี้ด้วย

ฮุน เซน ปล่อยคลิปเสียงเต็ม 17 นาที

ในเวลาต่อมา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของสมเด็จฮุน เซน ได้เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาฉบับเต็มความยาว 17 นาทีเศษ ซึ่งมีเนื้อหาต่อจากคลิปช่วงแรก

บทสนทนาในนาทีที่ 9 เริ่มจากล่ามแปลภาษา แปลคำพูดของสมเด็จ ฮุน เซน ว่า “ตอนที่ปรับกำลังที่ช่องบก คุยกันเรียบร้อย บอกว่าถ้าปรับตรงนี้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างต้องจบ แต่ทหารครับ จบครับ แต่ไม่จบ ปิดด่านก่อน อันนี้เหมือนตบหน้า อันนี้ขอให้ท่านนายกฯ พิจารณาด้วยเรื่องนี้”

ล่ามกล่าวต่อไปว่าว่า “ท่านเป็นลูกผู้ชาย ท่านคำไหนคำนั้น เพราะว่าฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มต้นก่อนแล้วลวงเรา กัมพูชาเราก็โดนหนักเหมือนกันเราก็มีมวลชน ฉะนั้นฝ่ายไทยเริ่มแล้วไม่เกิน 5 ชม. ทีนี้ทุกอย่างก็เข้าสู่ปกติเลย”

เขายังแปลสารจากสมเด็จฮุน เซน อีกว่า “หลานที่รัก อาบอกได้เลย ถ้าเราไม่มีคำสัญญาเรื่องปรับกำลังแล้วทุกอย่างปกติ แต่ถ้าทหารไทยไม่ยอมเปิดด่านพรุ่งนี้ ทางนี้ก็มีการห้ามเรื่องการส่งออกเกษตรทั่วชายแดนเลย เพื่อกดดันทหาร”

สมเด็จฮุน เซน ยังย้ำผ่านล่ามแปลภาษาอีกว่า สถานการณ์ตอนที่การปรับกำลังที่ช่องบกนั้นมีการตกลงกันแล้วว่าจะจบกัน แต่เมื่อฝ่ายกัมพูชาปรับกำลังก็ถูกฝ่ายไทยปิดด่าน ดังนั้น การจะให้กัมพูชาเป็นผู้ไปเจรจาขอให้เปิดด่าน “ก็ดูแล้วไม่สวย ไม่สมควรอย่างยิ่ง” จึงต้องให้ทหารไทยเริ่มก่อน พร้อมยืนยันว่าหากฝั่งไทยเปิดด่าน ทางกัมพูชาก็พร้อมปฏิบัติตามภายใน 5 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกอย่างกลับเป็นปกติ

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร รับว่า “เดี๋ยวจะลองคุยกับกลาโหมดู” พร้อมกล่าวให้ล่ามแปลแจ้งกับอดีตนายกฯ กัมพูชาถึงความต้องการของเขา

“ถ้าท่านฮุน เซน อยากได้อะไรก็ให้บอก จะได้คุยกันได้ ตกลงกันได้ เพราะว่าบางทีที่ท่านโพสต์เฟซบุ๊กออกมา คืออิ๊ง (น.ส.แพทองธาร) รัฐบาลสั่นคลอนที่สุดแล้วค่ะ ตั้งแต่อิ๊งเป็นนายกฯ มา ก็คือเรื่องกัมพูชานี่แหล่ะ อิ๊งไม่ออกมาตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะอิ๊งก็รักและเคารพท่าน เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้วถ้าจะเอาอะไรจริง ๆ ให้บอกอิ๊งได้เลย ยกหูบอกก็ได้ อันไหนไม่เป็นข่าวก็คือไม่เป็นข่าว อันนั้นที่หลุดไปมันหลุดเพราะสื่อ ไม่ได้คุยกับอิ๊งแค่สองคน มันคุยกันเป็นกลุ่ม มันเลยหลุด แต่ว่าคุยกับอิ๊งสองคนมันไม่มีหลุดอยู่แล้ว ทีนี้ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้” น.ส.แพทองธาร กล่าว และแจ้งต่ออดีตนายกฯ กัมพูชาว่าจะไปพูดคุยกับฝ่ายกลาโหม และจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป

“คนไม่หวังดีกับเราทั้งคู่ เหมือนเรากับเขาก็ทะเลาะกันเอง จริง ๆ แล้วคนรุ่นใหม่ต้องไม่มีสงคราม คนรุ่นใหม่มีสงครามไปมันก็เสีย และฮุน มาเนต ด้วยก็เป็นคนรุ่นใหม่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ด้านสมเด็จฮุน เซน บอกว่าเรื่องการโพสต์บนเฟซบุ๊ก เขาต้องการชี้แจงให้ประชาชนทราบ ไม่ได้ต้องการจะกระทบใคร ซึ่งหาก น.ส.แพทองธาร แก้เรื่องเปิดด่านให้กลับมาเป็นปกติสมเด็จฮุน เซน ก็จะไม่มีอะไรอีกแล้วและจบ

น.ส.แพทองธาร ตอบกลับว่าจะไปพูดคุยกับกระทรวงกลาโหมก่อน แล้วจะกลับมาแจ้งสมเด็จฮุน เซนอีกครั้ง โดยเธอเชื่อว่าตัวเองจะสามารถจัดการได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่ต้องการให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนแล้วถึงจะแจ้งกลับมา

หลังจากนั้น สมเด็จ ฮุน เซน กล่าวผ่านล่ามอีกครั้งว่า เรื่องด่านไม่ควรไปเจรจา และฝ่ายไทยเป็นคนที่ปิดและลวงกัมพูชาให้ปรับกำลัง แต่ว่าอยู่ดี ๆ ทหารไทยก็ปิดด่าน ฉะนั้น ทหารไทยต้องยกเลิกการปิดด่าน พอเปิดปั๊บเขมรก็ตามหลังเลย ทุกอย่างก็เข้าภาวะปกติไม่มีอะไรแล้ว

จากนั้นบทสนทนาก็จบลง