
ตุ๊กตา “ลาบูบู้” ครองใจชาวโลก เพราะความน่ารักหรือหน้าตาแปลกประหลาด ?

ที่มาของภาพ : Xia Yu/VCG through Getty Photos
Article Records
-
- Writer, ฟ่าน หวัง และ อดัม แฮนค็อก
- Role, บีบีซีนิวส์
ไม่ว่าคุณจะมองตุ๊กตาตัวนี้ว่าน่ารัก, น่าเกลียด, หรือแค่หน้าตาแปลกประหลาด พนันกันได้ว่าทุกคนต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเจ้าตุ๊กตาขนปุกปุย “ลาบูบู้” (Labubu) มาแล้วอย่างแน่นอน
ของเล่นยอดฮิตที่ผู้คนทั่วโลกคลั่งไคล้อยู่ในขณะนี้ ถือกำเนิดขึ้นโดยเป็นตัวละครปีศาจน้อยที่ดูคล้ายกับภูตเอลฟ์ ซึ่งผู้ผลิตของเล่นสัญชาติจีน “ป๊อปมาร์ต” (Pop Mart) นำออกวางจำหน่ายจนขายดิบขายดีในหลายประเทศ เหล่าดาราคนดังจำนวนไม่น้อย พากันออกมาโชว์ลาบูบู้ตัวโปรดที่สะสมไว้อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นริฮานนา, ดูอา ลิปา, คิม คาร์แดเชียน, และลิซา แบล็กพิงก์
ส่วนเหล่าประชาชนคนธรรมดาสามัญ ต่างก็หลงเสน่ห์ตุ๊กตาตัวนี้ไม่แพ้กัน ผู้คนทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่ที่นครเซี่ยงไฮ้ไปจนถึงกรุงลอนดอน พากันเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียด เพื่อแย่งกันซื้อเจ้าตุ๊กตาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จนถึงกับทะเลาะวิวาทหรือตบตีชกต่อยกันก็มี
แฟนพันธุ์แท้ลาบูบู้อย่าง ฟิโอนา จาง บอกว่า “คุณจะรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จบางอย่าง ในตอนที่สามารถคว้ามันมาครอง ท่ามกลางการต่อสู้แย่งชิงอย่างดุเดือด”
ความหลงใหลคลั่งไคล้ในตุ๊กตาลาบูบู้ของผู้คนทั่วโลก ทำให้ป๊อปมาร์ตสามารถโกยรายได้มหาศาล จนมีผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีที่แล้ว บางคนถึงกับมองว่า ลาบูบู้ช่วยกระตุ้นและเพิ่มพูนอิทธิพลทางวัฒนธรรมหรือ “ซอฟต์พาวเวอร์” ของจีน ซึ่งที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของจีนในสายตาชาวโลกเสียหายไปไม่น้อย เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกับโลกตะวันตก
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed learningได้รับความนิยมสูงสุด
Terminate of ได้รับความนิยมสูงสุด
ลาบูบู้คือตัวอะไรกันแน่
แม้ลาบูบู้จะได้รับความนิยมมาพักใหญ่แล้ว คำถามข้างต้นก็ยังคงเป็นปริศนาที่รบกวนจิตใจใครหลายคน แม้แต่แฟนพันธุ์แท้ที่รู้คำตอบดี ก็ยังไม่แน่ใจว่าตนเองจะสามารถอธิบายถึงที่มาของกระแสนิยมลาบูบู้ได้หรือไม่
อันที่จริงแล้ว ลาบูบู้นั้นเป็นทั้งตัวละครจากจินตนาการและแบรนด์สินค้า คำว่าลาบูบู้นั้นไม่มีความหมายในตัวมันเอง แต่เป็นเพียงชื่อของตัวละครหนึ่งจากชุดของเล่น “เจ้าพวกปีศาจ” หรือ “เดอะมอนสเตอร์ส” (The Monsters) ที่ศิลปินชาวฮ่องกง กาซิง หลุง ออกแบบสร้างสรรค์ขึ้น
ตุ๊กตาลาบูบู้มีส่วนหัวทำจากไวนิล ลำตัวอวบอ้วนตุ้ยนุ้ย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงใบหูที่ยาวแหลม ดวงตากลมโต รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แสดงถึงความขี้เล่นซุกซน เผยให้เห็นฟันเล็ก ๆ 9 ซี่ อย่างพอดิบพอดี ทว่าบรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่า ลาบูบู้นั้นดึงดูดใจผู้คนเพราะความน่ารักน่าเอ็นดูของมัน หรือเพราะหน้าตาที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครกันแน่

ที่มาของภาพ : He Xiaoxiao/VCG through Getty Photos
เว็บไซต์ทางการของป๊อปมาร์ตซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย ระบุว่าลาบูบู้นั้น “ใจดีและอยากจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ แต่การกระทำของมัน มักจะให้ผลในทางตรงกันข้ามโดยไม่เจตนา”
ที่ผ่านมาตุ๊กตาลาบูบู้ออกปรากฏโฉมในท้องตลาดหลายครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของสินค้า “เดอะมอนสเตอร์ส” หลายซีรีส์ ตัวอย่างเช่น Broad into Energy (ตุ๊กตาสีฉูดฉาดที่สื่อถึงพลังงาน 6 แบบ), Thrilling Macaron (ตุ๊กตาสีหวานคล้ายขนมมากาฮง), Beget a Seat (ตุ๊กตาในท่านั่ง), Tumble in Wild (ตุ๊กตาในชุดชาวสวนรักธรรมชาติ)
สินค้าภายใต้แบรนด์หรือยี่ห้อลาบูบู้นั้น ยังมีตัวละครอื่น ๆ จากจักรวาลเดียวกันด้วย ซึ่งก็สามารถครองใจผู้บริโภคจนได้รับความนิยมสูงไม่แพ้ลาบูบู้เลย ตัวอย่างเช่นหัวหน้าเผ่าหญิง “ซิโมโม” (Zimomo), แฟนหนุ่มของหัวหน้าเผ่าสาวชื่อ “ไทโคโค” (Tycoco), และเพื่อนสนิทของหัวหน้าเผ่า “โมโกโก” (Mokoko)
สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับตุ๊กตาเหล่านี้ มักจะแยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหนเพราะดูคล้ายกันไปหมด มีเพียงแฟนพันธุ์แท้เท่านั้นที่จะแยกแยะได้อย่างไม่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม เหล่าเพื่อนพ้องของลาบูบู้ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวประกอบ ก็สามารถแย่งชิงความโด่งดังของดาวเด่นไปได้ไม่น้อย จนเป็นตัวละครที่ขายดิบขายดีไม่แพ้กัน
ผู้จัดจำหน่ายลาบูบู้คือใคร
ก่อนหน้าที่ป๊อปมาร์ตจะติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ลาบูบู้จากกาซิง หลุง ในปี 2019 ร้านค้าปลีกสินค้าเบ็ดเตล็ดแห่งนี้ ได้รับความนิยมมาก่อนหน้านั้นนับสิบปี จากการขาย “กล่องสุ่ม” ที่ผู้ซื้อจะทราบว่าได้ของอะไรไป ก็ต่อเมื่อเปิดออกดูหลังจ่ายเงินแล้ว
หวัง หนิง นักธุรกิจชาวจีนได้เปิดร้านป๊อปมาร์ตแห่งแรกที่กรุงปักกิ่ง ในลักษณะเดียวกับร้านร้อยเยนของญี่ปุ่น ซึ่งขายสินค้าราคาย่อมเยาด้วยสนนราคาเดียวกันทั้งร้าน ต่อมาเมื่อการขายกล่องสุ่มประสบความสำเร็จอย่างมาก ป๊อปมาร์ตจึงได้เริ่มขายของเล่นชุดแรกของตน ซึ่งก็คือตุ๊กตามอลลี (Molly Dolls) ในปี 2016 ตุ๊กตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเด็กตัวนี้ เป็นผลงานการออกแบบสร้างสรรค์ของเคนนี หว่อง ศิลปินชาวฮ่องกง

ที่มาของภาพ : Getty Photos
แต่ถึงกระนั้น ยอดขายลาบูบู้คือปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ธุรกิจของป๊อปมาร์ตเติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงได้ในเดือนธ.ค. ปี 2020 มูลค่าหุ้นของป๊อปมาร์ตยังพุ่งขึ้นถึงกว่า 500% เมื่อปีที่แล้ว
ปัจจุบันป๊อปมาร์ตก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ โดยมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติหรือ “โรโบช็อป” (Roboshop) ถึง 2,000 แห่งทั่วโลก ผู้สนใจสามารถซื้อหาลาบูบู้ได้ ทั้งในร้านป๊อปมาร์ตและสั่งซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยมีหน้าร้านและช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ในกว่า 30 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, และสิงคโปร์
แม้ว่าตอนนี้ร้านป๊อปมาร์ตส่วนใหญ่ต้องหยุดจำหน่ายลาบูบู้ไปชั่วคราว เพราะตลาดมีความต้องการสินค้าอย่างล้นหลามจนผลิตไม่ทัน แต่คำสั่งซื้อจากต่างประเทศนอกจีนแผ่นดินใหญ่ ก็สร้างรายได้สุทธิไปเกือบ 40% ของทั้งหมด ในปี 2024
ลาบูบู้ฮอตฮิตไปทั่วโลกได้อย่างไร
คำสั่งซื้อที่มาจากทุกสารทิศไม่ได้พุ่งสูงขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ใช้เวลา 2-3 ปี กว่าที่เจ้าปีศาจภูตเอลฟ์ตัวนี้จะกลายเป็นกระแสนิยมหลักของโลก ทว่าก่อนที่ลาบูบู้จะมาถึงจุดนี้ มันเคยเป็นที่ชื่นชอบแค่ในวงจำกัดของสังคมจีนเท่านั้น แต่หลังจากที่จีนหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์โรคระบาดในปี 2022 ชื่อเสียงของลาบูบู้ก็เริ่มแผ่ขยายจนโด่งดังในวงกว้างขึ้นมาทันที
แอชลีย์ ดูดาเรน็อก ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยที่มุ่งเจาะลึกประเทศจีน Chozan บอกว่า “หลังการระบาดใหญ่ของโควิด ผู้คนในจีนต่างรู้สึกว่าอยากหาสิ่งปลดปล่อยอารมณ์ เพื่อหลบหนีจากสภาพความเป็นจริงชั่วคราว ลาบูบู้นั้นมีเสน่ห์ดึงดูดมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความซุกซนไร้ระเบียบอยู่ด้วย มันมีบุคลิกลักษณะที่ต่อต้านลัทธินิยมความสมบูรณ์แบบ”
ที่ผ่านมาเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ในโลกอินเทอร์เน็ตของจีน เคยสร้างกระแสนิยมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่สามารถแพร่ความนิยมไปสู่ระดับโลกได้เหมือนกับลาบูบู้ ของเล่นนี้เริ่มโด่งดังในประเทศเพื่อนบ้านของจีนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฟิโอนา จาง แฟนพันธุ์แท้ลาบูบู้ซึ่งอาศัยอยู่ในแคนาดา บอกว่าได้ยินชื่อลาบูบู้ครั้งแรกในปี 2023 จากเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่นั้นเธอเริ่มซื้อและสะสมอย่างจริงจัง เพราเห็นว่ามันน่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก แต่อันที่จริงแล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้เธอสนใจลาบูบู้ก็คือความโด่งดังของมัน “ยิ่งมันเป็นกระแสนิยมมากขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นเท่านั้น”
“สามีของฉันไม่เข้าใจเลยว่า คนที่อายุปาเข้าไป 30 กว่าปีแล้วอย่างฉัน ทำไมถึงหมกมุ่นอยู่แต่กับของพวกนี้ วัน ๆ เอาแต่คิดว่าจะซื้อสีไหนดี” ฟิโอนาเล่า เธอยังบอกว่าการที่ตุ๊กตาลาบูบู้มีสนนราคาไม่สูงนัก ทำให้หลายคนซื้อหาได้โดยไม่ต้องคิดมาก แม้ความต้องการในตลาดจะเพิ่มสูงขึ้น จนราคาสินค้ามือสองพุ่งขึ้นตามไปด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วราคาดั้งเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 25 – 70 ดอลลาร์แคนาดา (ราว 600 – 1,700 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่รับได้สำหรับคนรู้จักของเธอส่วนใหญ่

ที่มาของภาพ : Getty Photos
“ราคานี้ใกล้เคียงกับพวกของตกแต่ง ที่ใช้ประดับกระเป๋าถือในทุกวันนี้อยู่แล้ว คนส่วนใหญ่น่าจะจ่ายไหว” ฟิโอนากล่าว
กระแสนิยมลาบูบู้พุ่งขึ้นสูงสุดในเดือนเม.ย. 2024 หลังจากที่ลิซา แบล็กพิงก์ ซูเปอร์สตาร์เค-ป๊อป สัญชาติไทย ลงภาพที่ถ่ายคู่กับตุ๊กตาลาบูบู้หลายตัวในอินสตาแกรม หลังจากนั้นคนดังทั่วโลกก็เริ่มอวดลาบูบู้ของตนเองตามอย่างเธอ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับนานาชาติในปีนี้
ภาพถ่ายของนักร้องสาวริฮานนา กับกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ที่มีลาบูบู้ตัวจิ๋วหนีบติดอยู่ ถูกเผยแพร่เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ในขณะที่อินฟลูเอนเซอร์อย่างคิม คาร์แดเชียน โชว์คอลเล็กชันตุ๊กตาลาบูบู้ 10 ตัว ทางอินสตาแกรม ในเดือนเม.ย. ของปีนี้ ตามมาด้วยเซอร์เดวิด เบ็กแฮม อดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เผยภาพลาบูบู้ของเขาทางอินสตาแกรมเมื่อเดือนพ.ค. หลังได้รับเป็นของขวัญจากลูกสาว
ทำไมผู้คนหลงใหลถึงขั้นหมกมุ่นกับลาบูบู้
ไม่มีใครรู้แน่ชัดหรือตอบคำถามนี้ได้อย่างกระจ่างแจ้ง เพราะลาบูบู้ก็เหมือนกับกระแสนิยมทางอินเทอร์เน็ตทั่วไป ที่อธิบายถึงต้นสายปลายเหตุได้ยาก การพบกันอย่างประจวบเหมาะของปัจจัยหลายอย่าง เช่นช่วงเวลา, รสนิยม, และการสุ่มของอินเทอร์เน็ต ก็อาจมีผลด้วยเช่นกัน
รัฐบาลจีนรู้สึกยินดีปรีดาต่อความสำเร็จของลาบูบู้อย่างมาก สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนถึงกับบอกว่า “ลาบูบู้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ดึงดูดในความคิดสร้างสรรค์ของชาวจีน รวมทั้งคุณภาพและวัฒนธรรมในภาษาที่ชาวโลกสามารถเข้าใจได้” นอกจากนี้สำนักข่าวซินหัวยังชี้ว่า ความโด่งดังของลาบูบู้เปิดโอกาสให้ชาวโลกได้เห็นจีนในมุมมองใหม่ ภายใต้ภาพลักษณ์แบบ “คูลไชน่า” (Chilly China) ซึ่งสื่อถึงความเจ๋งและเท่ของจีนสมัยใหม่
สำนักข่าวซินหัวยังยกตัวอย่างความสำเร็จอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ “ทรัพย์สินทางปัญญาด้านวัฒนธรรมของจีน” โดยบอกว่าสิ่งนี้กำลังก้าวไกลไปสู่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกม “ตำนานมืดหงอคง” (Unlit Tale: Wukong) หรือภาพยนตร์แอนิเมชันยอดฮิต “นาจา” (Nezha)

ที่มาของภาพ : Getty Photos
นักวิเคราะห์บางรายถึงกับประหลาดใจว่า เหตุใดบรรดาบริษัทสัญชาติจีน ทั้งผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า, ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ, และบริษัทค้าปลีกหลายแห่ง ล้วนประสบความสำเร็จอย่างสูง แม้ชาติตะวันตกจะยังคงรู้สึกไม่สบายใจต่อความทะเยอทะยานของจีนก็ตาม
คริส เปเรรา ผู้ก่อตั้งและประธานผู้บริหารของบริษัทให้คำปรึกษา iMpact บอกกับบีบีซีว่า “ไม่ว่าจะเป็น BYD หรือ Deepseek รวมทั้งผู้ผลิตลาบูบู้ บริษัทเหล่านี้มีลักษณะเด่นที่น่าสนใจอย่างเดียวกัน นั่นก็คือพวกเขาทำได้ดีมาก จนไม่มีใครสนแล้วว่ามันเป็นสินค้าจีน เราจะมองข้ามจุดนี้ไปไม่ได้”
ทุกวันนี้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายล้านคน ต่างเฝ้าติดตามและตั้งตารอคอยคลิปวิดีโอเปิดกล่องสุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ซื้อลาบูบู้จะได้รู้ว่า ตนเองได้เป็นเจ้าของตุ๊กตารุ่นไหนและแบบใดกันแน่ คลิปวิดีโอยอดนิยมคลิปหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อเดือนธ.ค.ของปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินในสหรัฐฯ กอดกล่องสุ่มที่ยังไม่ได้เปิดของผู้โดยสารรายหนึ่งไว้แน่น และพยายามจะเดาว่ามีตุ๊กตาแบบไหนอยู่ในนั้น
เดสมอนด์ ตัน นักสะสมลาบูบู้ตัวยงชาวสิงคโปร์บอกว่า การได้ลุ้นและความรู้สึกประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่ผู้ซื้อเปิดกล่องสุ่มออกดู นับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจ
ในขณะที่เดสมอนด์ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เขาเดินไปรอบ ๆ ร้านป๊อปมาร์ต พร้อมกับเขย่ากล่องสุ่มหลายใบแรง ๆ เพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกเสี่ยงดวงซื้อกล่องไหนดี ลูกค้าหลายคนในร้านก็ทำแบบเดียวกัน จนกลายเป็นภาพที่คุ้นตาภายในร้านป๊อปมาร์ตไปแล้ว
เดสมอนด์ยังบอกว่า เขาสะสม “ตัวไล่ตาม” หรือ “เชสเซอร์” (chaser) ซึ่งเป็นลาบูบู้ลับรุ่นพิเศษที่หายากตัวหนึ่ง โดยเฉลี่ยแล้วเขาจะพบเชสเซอร์ 1 ตัว ในทุก 10 กล่องสุ่มที่ซื้อมา ซึ่งนับเป็นอัตราการถูกรางวัลที่สูงมาก หากเทียบกับความน่าจะเป็นขั้นพื้นฐานที่ 1 ใน 100
สิ่งที่น่าพึงพอใจที่สุดจากประสบการณ์เปิดกล่องสุ่มของเขาก็คือ “การที่เราสามารถได้ตัวเชสเซอร์มา โดยใช้วิธีเขย่ากล่องดู และได้เรียนรู้ถึงการตรวจจับความแตกต่าง…หากผมหามันเจอโดยสุ่มไปแค่หนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ผมจะดีใจและมีความสุขมาก ๆ เลย”
ที่มา BBC.co.uk