กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯเผย สัปดาห์หน้า เชิญ แพทองธาร แจง คลิปเสียงสนทนากับฮุนเซน

รังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เชิญ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจง คลิปเสียงสนทนาฮุนเซน ถ้า ไม่มา ใช้ พ.ร.บ.อำนาจเรียกฯ เตือน อย่าประมาท กัมพูชานำข้อพิพาทชายแดนขึ้นศาลโลก

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพิจารณากรณีความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ และเส้นเขตแดน โดยเชิญ รมว.ต่างประเทศ (ส่งตัวแทนมา) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (ส่งตัวแทนมา) นายฐนัตถ์ สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และนักวิชาการ มาร่วมประชุม ว่า มาตรการตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เนต และห้ามส่งออกน้ำมัน ยังไม่มีการดำเนินการจากฝั่งไทย เป็นการดำเนินการจากฝั่งกัมพูชาเองทั้งหมด

“ดังนั้นอาจจะสรุปได้ว่า นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีแถลงว่าจะมีมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ณ ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มต้นเลยแม้แต่น้อย ยังไม่ได้เริ่มต้นมีมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนเลย มีแต่มาตรการที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ การปิดด่าน”นายรังสิมันต์กล่าว

@ กต. มั่นใจ ไม่ไปศาลโลก

นายรังสิมันต์ตอบคำถามถึงการชี้แจงของกระทรวงต่างประเทศกรณีความพยามของกัมพูชาที่จะนำข้อพิพาทขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก ว่า ได้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมของไทย แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน อย่างไรก็ดี เบื้องต้น กมธ.ฯค่อนข้างพอใจกับเรื่องความคืบหน้าและการเตรียมความพร้อมเรื่องศาลโลก แต่ไม่ประมาทในเรื่องที่กัมพูชาพยายามจะชักจูงไทยให้ไปสู่ศาลโลก

@ นายรังสิมันต์ โรม ประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร @

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลวิธีที่กัมพูชาใช้คล้ายกับกรณีปราสาทเขาพระวิหารใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ใช่

“ทีมไทยแลนด์และกองทัพต้องระมัดระวังกัมพูชาพยายามจุดชนวนความรุนแรง เพื่ออาศัยความชอบธรรมตรงนี้ในการพาไทยไปสู่ศาลโลก”นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องศาลโลกกระทรวงต่างประเทศเป็นห่วงประเด็นใดมากที่สุด นายรังสิมันต์กล่าวว่า โดยภาพรวมกระทรวงต่างประเทศค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่ไปถึงศาลโลก เพราะไทยประกาศมาโดยตลอดว่า ไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลก และถ้าจะให้ประเมิน คิดว่า ไทยยังอยู่ในจุดที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะไปสู่ศาลโลกไม่ได้

“ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ กระทรวงต่างประเทศ รัฐบาล กองทัพ ต้องทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะคำบางคำ ภาษาบางภาษาใช้ในการตีความที่เป็นโทษต่อประเทศไทยได้”นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วไทยจะต้องขึ้นสู่ศาลโลกหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ได้ถามกระทรวงต่างประเทศเช่นกันว่า ถ้าจะให้ประเมินสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ซึ่งในที่ประชุม ทั้งนักวิชาการและกระทรวงต่างประเทศยังมองว่า ไทยยังอยู่ในจุดที่ดี ไม่น่าจะไปขึ้นสู่การพิจารณาของศาลโลกได้โดยง่าย แต่ไม่ประมาท

เมื่อถามว่า กรณีคลิปสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเป็นสาเหตุให้ไทยถูกลากขึ้นศาลโลกหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน

@ เรียก ‘แพทองธาร’ แจงคลิปเสียงสนทนาฮุนเซน

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า กมธ.ความมั่นคงฯ จะพิจารณากรณีคลิปเสียงที่มีการกล่าวหานักการเมืองที่มีอิทธิพลรายหนึ่งของกัมพูชาที่มีการสั่งการให้ลอบสังหารนายลิม คิมยา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวกัมพูชา ที่เสียชีวิตในไทย และจะเชิญผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชามาชี้แจง เพื่อยืนยันว่า มีความพยายามในการที่จะลอบสังหารฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมืองของกัมพุชาบนผืนแผ่นดินไทยจริงๆ ซึ่งถือเป็นการล่วงละเมิดอำนาจอธิปไตยที่มีความร้ายแรง

“รวมถึงการพิจารณาคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยจะเชิญนายกรัฐมนตรี รมว.ต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตำรวจ) มาชี้แจง กมธ.ความมั่นคงฯ ต้องการคำอธิบายจากนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก คิดว่าคงไม่มีใครชี้แจงแทนได้ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีไม่มา กมธฯจะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.อำนาจเรียกของคณะกมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2568”นายรังสิมันต์กล่าวและว่า

“เบื้องต้น อยากจะขอความร่วมมือ ถ้าเป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีชี้แจง ที่บอกว่า ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรเลย คิดว่าการมาที่กมธฯ และตอบคำถามกับกมธฯ อย่างตรงไปตรงมาว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพึงกระทำ”นายรังสิมันต์กล่าว

อ่านข่าวประกอบ : นายกฯสั่งรมต.ยืนยันคุณสมบัติ – ไม่ควบกลาโหม ปัญหา รทสช. จบแล้ว

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ส่วนกลไกตรวจสอบอื่นๆ นอกเหนือจากกมธ. กรณีเรื่องคลิป เช่น การตั้งกระทู้ถาม หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอต่าง ๆ คือ การลาออก การยุบสภา ซึ่งจะมีการพูดคุยกับฝ่ายค้านว่าจะมีข้อยุติและมีแนวทางอย่างไรต่อไป