
สำรวจวงการ Purchase Now Pay Later ในไทย จะทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนแย่ลงไหม ?

ที่มาของภาพ : Getty Photos
Article Recordsdata
-
- Creator, ปวีณา นิลบุตร
- Feature, ผู้สื่อข่าว.
“ผมก็ไม่ได้คิดจะใช้หรอก พอดีเขามีมาให้สมัคร ผมก็เลยกดลองดู พอใช้มันก็สะดวกสบายดีไม่ต้องไปเสียเวลาส่งเอกสารเหมือนบัตรเครดิต” นายศราวุธ โพธิตะคุ ชายผู้มีอาชีพรับจ้างขับรถวัย 31 ปี กล่าวกับ. ถึงความ “สะดวก” ในการสมัครบริการผ่อนชำระของแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์แห่งหนึ่งที่เขาได้รับการอนุมัติภายในเวลา “ไม่เกิน 3 นาที”
เช่นเดียวกันกับ ปภัสสร วัชรเดชาโชติ เจ้าของร้านค้าออนไลน์ และผู้ใช้บริการ ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง ที่กล่าวกับ.ว่า ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อดังกล่าว “ง่าย” โดยเธอ “กด ต่อไป ๆ (next) ก็จบ บัตรเครดิตต้องไปยื่น whisper (เอกสารบันทึกธุรกรรมทางการเงิน) เอกสารนู่นนี่นั่น แล้วก็ไม่รู้จะผ่านไหมด้วย”
บริการผ่อนชำระที่มีชื่อเรียกว่า “ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง” หรือ Purchase Now Pay Later (BNPL) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกมากในประเทศไทย โดยรายงาน “Thailand Purchase Now Pay Later Market File 2022” คาดว่ามูลค่าตลาด BNPL ในไทยเมื่อปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 5.5-6.5 หมื่นล้านบาท และศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจ BNPL ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 17 เท่า ภายในปี 2571
ด้าน ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า เงื่อนไขการสมัครที่น้อยกว่าการสมัครสินเชื่อกับสถาบันการเงินดั้งเดิมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว และ BNPL ก็เป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการการเงินของคนบางกลุ่ม
. สำรวจความเปลี่ยนแปลงของตลาดบริการ “ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง” ที่ส่งผลต่อผู้บริโภค รวมถึงสถาบันการเงินดั้งเดิมและธนาคาร ในรายงานชิ้นนี้
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed finding outได้รับความนิยมสูงสุด
End of ได้รับความนิยมสูงสุด
ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง แตกต่างกับสินเชื่อธนาคารอย่างไร และทำไมเติบโตเร็ว
บริการผ่อนชำระที่มีชื่อเรียกว่า “ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง” หรือ Purchase Now Pay Later (BNPL) เกิดจากการพัฒนาบริการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ผู้ให้บริการแอปฯ อีคอมเมิร์ซสามารถให้บริการสินเชื่อหรือบริการผ่อนชำระกับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
รายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) เรื่อง “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (Purchase Now Pay Later) : เทรนด์ในการเข้าถึงสินเชื่อยุคใหม่” ระบุว่า จากกลุ่มตัวอย่าง 2,945 ราย มีผู้ที่เคยใช้บริการ BNPL ร้อยละ 23.1 โดยส่วนใหญ่คือกลุ่มคนอายุราว 29-45 ปี หรือ Gen Y ตามมาด้วย กลุ่มอายุ 15 – 27 ปี หรือ Gen Z นอกจากนี้ ร้อยละ 37 ของกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และมียอดผ่อนชำระอยู่ที่ราวเดือนละ 7,500 บาท ขณะที่สินค้าที่ถูกซื้อมากที่สุด คือ
- สินค้าเทคโนโลยี
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- เสื้อผ้า เครื่องประดับ

ที่มาของภาพ : Getty Photos
ปัจจุบัน ในประเทศไทยก็มีหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการ ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง เช่น SPaylater ของ ช้อปปี้ (Shopee), Pay Next ของ ทรูมันนี่วอลเล็ท (Beautiful Cash Wallet), LazPayLater ของ ลาซาด้า (Lazada) หรือ Grab Pay Later ของ แกร็บ (Grab)
ทั้งนี้ อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร จุฬาฯ ระบุว่า สาเหตุหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของธุรกิจ BNPL คือเงื่อนไขการสมัครและหลักเกณฑ์อนุมัติที่ง่ายกว่าการสมัครสินเชื่อจากธนาคาร เช่น การกู้ซื้อรถ บ้าน หรือผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ซึ่งการที่คน ๆ หนึ่งจะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของธนาคารก็ต้องมีหลักฐานยืนยันรายได้ เช่น ใบเสร็จเงินเดือน เอกสารรับรองเงินเดือน หรือ เอกสารรับรองการจ้างงาน ต่างกับสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแบบ BNPL ที่ผู้สมัครไม่ต้องยื่นเอกสารในลักษณะเดียวกัน
“ให้นึกถึงแรงงานนอกระบบ เกษตรกร คนที่เขาไม่ได้มีรายได้ประจำ หาเช้ากินค่ำ หรืออาจไม่ถึงขั้นนั้น อาจจะเป็นพวก ทำงาน สายเทคโนโลยี สตาร์ทอัพ หรืออินฟลูเอนเซอร์ ที่รายได้เขาอาจไม่คงที่และธนาคารก็ไม่เชื่อถือ และบางคนก็ซื้อขายของผ่านแพลตฟอร์มอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งคนขับแกร็บ คนขับ รถรับจ้างในแอปฯ ไลน์ พวกเขาก็เข้าถึงแพลตฟอร์มพวกนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็อยากให้คนมาซื้อสินค้า แอปฯก็จะให้บริการ ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าว
นอกจากเหตุผลข้างต้นแล้ว ข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ เช่น การจัดโปรลดราคาสินค้า ก็เป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตของธุรกิจ BNPL ในแอปฯ อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ
“นี่คือลูกเล่นที่เกิดขึ้นของแพลตฟอร์ม เพราะฉะนั้นต้องบอกว่า การเติบโตของ Purchase Now Pay Later มันเกิดจากการให้บริการของแพลตฟอร์มที่พยายามหาฟีเจอร์ (feature) ที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้า” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าว
ข้อสังเกตข้างต้นตรงกับประสบการณ์ของ ปภัสสร ที่เล่าถึงการได้สิทธิพิเศษเมื่อเธอใช้จ่ายด้วยบริการ Spaylater บนแอปฯ ช้อปปี้ ในการซื้อสินค้า
“ล่าสุดไปซื้อไอโฟน 16 โปรแม็กซ์ ผ่านแพลตฟอร์ม ช้อปปี้ ได้ส่วนลดไป 2,500 บาท ปกติเราซื้อผ่านทรู (Beautiful Retailer) เอไอเอส (AIS) ไม่มี ส่วนลด นะ ต้องซื้อติดโปร อันนี้ซื้อเครื่องเปล่าได้ ส่วนลด 2,500 บาท เป็นคุณคุณซื้อไหมละ ก็ต้องซื้อไหม… แล้วผ่อน 0% ห้าเดือน อีกห้าเดือนที่เหลือคุณก็เสียดอกเบี้ยไป” ปภัสสร เล่าให้.ฟัง

ที่มาของภาพ : ปภัสสร วัชรเดชาโชติ
อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร จุฬาฯ ชี้ว่า ด้วยเงื่อนไขการอนุมัติวงเงินที่รวดเร็วและน้อยขั้นตอนกว่าการสมัครผลิตภัณฑ์จากสถาบันการเงินหลัก ความเข้มข้นของการตรวจสอบความสามารถในการชำระคืนของธุรกิจ BNPL ก็อาจน้อยกว่าสถาบันการเงินอย่างธนาคารด้วย แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีความกังวลเรื่องการค้างชำระน้อยกว่าธนาคารเช่นกัน เพราะผู้ให้บริการสามารถใช้กลไกอื่น ๆ ในการตามเก็บหนี้ของลูกค้าได้ เช่น หากลูกหนี้ผิดชำระ ผู้ให้บริการก็สามารถที่จะไม่อนุญาตให้ลูกหนี้ใช้แพลตฟอร์มของผู้ให้บริการต่อไปได้ เป็นต้น
“ผู้ให้บริการจะนำตัวแพลตฟอร์มของเขามาดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกว่า มีความจำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มของเขา ซึ่งหากเราไม่ได้จ่ายเงินตามที่กำหนด บางครั้งเราอาจโดนทำโทษบนแพลตฟอร์ม ซึ่งแตกต่างจากธนาคาร ถ้าหากธนาคารให้วงเงินบัตรเครดิตไป แล้วมีลูกค้าผิดชำระหนี้ ธนาคารก็ได้แต่พยายามตามเก็บหนี้ผ่านทางโทรศัพท์ หรือว่าจ่ายค่าปรับ ความคล่องแคล่ว (active) ของการลงโทษ ของสถาบันการเงินหลัก จะไม่เท่าแพลตฟอร์มเหล่านี้” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าวกับ.
ยกตัวอย่างเช่น โครงการ “ผ่อนชำระสินค้าแบบรายวัน” ของแกร็บ ซึ่งบริษัทระบุว่า มีขึ้นเพื่อให้พาร์ทเนอร์ (partner) ของแอปฯ เช่น ไรเดอร์ (rider) หรือเจ้าของร้านอาหาร ได้กู้ซื้อสินค้าและผ่อนคืนรายวันโดยหักเงินคืนจากรายได้ที่พาร์ทเนอร์ทำได้ โดยบนเว็บไซต์ของแกร็บ ระบุถึงมาตรการลงโทษลูกหนี้ ในกรณีหากผิดชำระไว้ว่า แกร็บสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้งานแอปฯ แกร็บ และ/หรือ ตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการอื่น ๆ ที่แกร็บจัดขึ้น และในกรณีสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ซัมซุง (Samsung) ของที่ผู้เข้าร่วมโครงการตกลงและยอมรับว่าโทรศัพท์จะถูกทำการติดตั้งระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า “Knox” ซึ่งหากมีการผิดนัดชำระค่าสินค้าใด ๆ เกิดขึ้นติดต่อกัน 5 วัน ระบบจะทำการล็อกโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว ทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถโทรออกหรือรับสายได้ นอกจากหมายเลขสายบริการลูกค้า (Name Heart) ของแกร็บได้เท่านั้น

ที่มาของภาพ : Getty Photos
ทั้งนี้ ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ ก็ตั้งข้อสังเกตว่า สินเชื่อที่ได้รับจากสถาบันการเงินหลักและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลก็มีเงื่อนไขต่างกัน โดยเงินกู้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าวอาจใช้ได้ไม่กว้างขวางเท่าเงินกู้ที่ได้จากธนาคาร
“วงเงินที่ได้ในบัตรเครดิตคือวงเงินที่ตัวธนาคารประเมินศักยภาพของการชำระหนี้ของเรา และธนาคารไม่ได้มีกำหนดเลยว่าวงเงินนั้นต้องนำไปใช้ทำอะไร สามารถนำไปซื้อสินค้าที่ไหนบนโลกใบนี้ได้หมดเลย” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ ระบุ พร้อมเสริมว่า เงื่อนไขของวงเงินที่ได้มาจากบริการ BNPL ก็มีความแตกต่างกันออกไป เช่น ผู้ใช้บริการ SPayLater สามารถใช้ยอดเงินได้กับเพียงสินค้าบนแพลตฟอร์มเท่านั้น หรือ ลูกค้า ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง ของแกร็บก็สามารถใช้ซื้อสินค้าได้จำกัดตามที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เครื่องประดับทองรูปพรรณ เป็นต้น
.ได้สอบถามไปยังบริษัทผู้ให้บริการ ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง บนแอปฯ ช้อปปี้ เกี่ยวกับความตั้งใจในการให้บริการ BNPL โดยนายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้บริหารประจำประเทศไทย บริษัท โมเน่ (Monee) ได้อธิบายว่า การเติบโตของธุรกิจ Purchase Now Pay later เป็นตัวสะท้อนของการให้บริการที่ “ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลที่ต้องการประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และไร้รอยต่อในทุกแพลตฟอร์ม” และบริษัทมีความตั้งใจ “เสริมศักยภาพให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
ทางเลือกบริหารจัดการเงินของคนเข้าไม่ถึงสินเชื่อจากธนาคาร

ที่มาของภาพ : ศราวุธ โพธิตะคุ
ค่าหมูกะทะ ค่าน้ำมันรถ ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงของแต่งรถ คือสิ่งที่ศราวุธเลือกชำระด้วยวีธีการผ่อนชำระ ผ่านบริการ Purchase Now Pay Later โดยเขาอธิบายว่าทางเลือกการผ่อนชำระดังกล่าว คือการบริหารการเงินของตน โดยในแต่ละเดือนศราวุธมีรายรับไม่คงที่ โดยเฉลี่ยเขามีรายรับประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน และปัจจุบันเขาต้องผ่อนชำระค่าบริการและสินค้าต่าง ๆ บน แพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ราว 4,000 บาทต่อเดือน โดยเริ่มต้นเขาได้รับวงเงินมาที่ 10,000 บาท ภายหลังใช้ไปสามเดือนเขาก็ได้วงเงินเพิ่มมาอัตโนมัติเป็น 20,000 บาท
“บางทีเงินสดมันต้องใช้สำหรับอย่างอื่น สมมติวันนี้ผมต้องจ่ายค่ารถแต่มีเงินสดพอจ่ายค่ารถพอดีแต่ผมต้องเติมน้ำมัน ผมไม่อยากดึงเงินสดตัวที่จะไปจ่ายค่ารถออกมามันจะทำให้ เงินสด ไม่พอ ผมก็ใช้ตัวนี้ SPayLater เติมน้ำมันไปก่อน” ศราวุธ กล่าวกับ.
ทั้งนี้ นอกจากบริการ BNPL จะเป็นช่องทางการบริหารเงินแล้ว มันยังสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วย ซึ่ง ปภัสสร เล่าให้.ฟังถึงประสบการณ์ที่เธอนำเงินกู้ส่วนบุคคลจาก SPayLater มาใช้ต่อยอดธุรกิจร้านค้า
“เมื่อก่อนตอนที่ขายของดีมาก คือวิธีการที่จะใช้ SPayLater คุ้มมาก เพราะเราเอาเงินตรงนี้ไปซื้อของมาขาย ก็ได้กำไรมากกว่า เสียดอกนิดหน่อย ไม่ได้ซีเรียสอะไร” เธอกล่าว
ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ ระบุว่า การใช้จ่ายด้วย BNPL อาจถือเป็น “การใช้อย่างชาญฉลาด” ของคนกลุ่มหนึ่งที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคาร ไม่ต่างจากคนอีกกลุ่มที่ใช้บัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม นิสัยการผ่อนยอดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจทำให้เสียดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น
“ไม่ต้องจ่ายก้อนใหญ่จะได้ทยอยจ่าย อันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการบริหารเงิน แต่ก็ต้องอย่าลืมว่ามันจะทำให้เกิดดอกเบี้ย ทำให้เราต้องมาจ่ายดอกเบี้ยในสิ่งที่จริง ๆ แล้วในอดีตเราไม่จำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยเลย” อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร จุฬาฯ กล่าว
อาจารย์จากจุฬาฯ กล่าวเสริมว่า ผู้ใช้บริการอาจนึกเข้าใจผิดว่า ทางเลือกการผ่อนจ่ายเป็นการบริหารทางการเงิน แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงิน ภาระการผ่อนจ่ายก็อาจยิ่งซ้ำเติมสภาพคล่องทางการเงิน
“สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำหรือคนที่ไม่ได้มีรายได้ชัดเจน เขาไม่เคยคิดเรื่องดอกเบี้ยว่าเขาเสียดอกเบี้ยกี่เปอร์เซ็นต์ของการใช้บริการนั้น ๆ เขาจะคิดอย่างเดียวว่า วันนี้ฉันซื้อตู้เย็น 20,000 บาท แพลตฟอร์มให้ฉันผ่อนอาทิตย์ละกี่บาทเดือนละกี่บาท แล้วเขาจะเอายอดผ่อนไปประเมินดูว่า แล้วฉันได้รายได้ประมาณไหน ถ้ามันโอเคเขาแฮปปี้เขาใช้เลย และเขาจะรู้สึกสบายใจด้วยว่า นี่คือการบริหารเงินสดของเขา แต่พอรายได้ไม่มาตามกำหนดเขาก็จะติดหนี้” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าว
BNPL กระตุ้นให้คนจ่ายเร็วขึ้น อันตรายแค่ไหน ?
“ล่าสุดคือตู้แช่นมที่ซื้อมา ตู้เย็นก็มีแล้ว แต่ก็ซื้อมาเพราะว่ามันมีโค้ดส่วนลด 1,000 บาท คือดูลดเยอะมากเลย ไปดูข้างนอกเปรียบเทียบราคาแล้วนะ ราคาออนไลน์ถูกกว่า ถูกแล้วยังมีส่วนลดอีกตั้ง 1,000 บาท กดเลย ผ่อน 12 เดือน ทีนี้ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้” ปภัสสร กล่าวถึงความเย้ายวนของโปรโมชั่นต่าง ๆ ในแอปฯ อีคอมเมิร์ซที่ตนใช้ ผนวกกับทางเลือกชำระซื้อก่อนจ่ายทีหลังที่กระตุ้นให้เธอตัดสินใจเร็วขึ้นในการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น
ในทำนองเดียวกัน ศราวุธ ก็ระบุกับ.ว่า “พอมี SPayLater มันก็ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ จะซื้อก็ซื้อเลย อย่างเราไม่มีตัง คิดว่าตังก์ไม่พอ ใช้เดือนนี้ เราก็ใช้ตัว SPayLater ก่อน… บางทีไม่ต้องคิด ซื้อเลย”
อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร จุฬาฯ แสดงทัศนะกับ.ถึงความอันตรายของการถูกกระตุ้นให้ซื้อของมากเกินความจำเป็น เพราะมันอาจส่งผลให้ผู้ใช้ก่อหนี้ทั้งที่ไม่จำเป็นได้
“Purchase Now Pay Later มันมีให้เราเห็นอยู่ในหน้าจอ แล้วเราก็ไปเจอกลยุทธ์ทางการตลาดของร้านค้าเข้าไปอีก โดยร้านค้าก็อาจมีข้อเสนอที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เราก็ไปซื้อมันมาทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ของจำเป็น ทั้ง ๆ ที่ เราไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่เราก็ไปซื้อมันมาเพราะเราเห็นว่ามันเป็นโปรโมชั่นที่ดี แต่พอซื้อมาด้วยความง่าย เราก็อาจไม่มีเงินจ่ายหรือต้องไปจ่ายขั้นต่ำ” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ ระบุ
ขณะที่ผู้บริหารประจำประเทศไทยบริษัทโมเน่ ที่ดูแลกำกับ SPayLater ยืนยันว่า ข้อเสนอส่วนลดต่าง ๆ เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตของบริษัท เนื่องจากมันสามารถ “ลดโอกาสที่ลูกค้าจะละทิ้งสินค้าในตะกร้า และช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น” นายศุภวิทย์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ด้วยมูลค่าของธุรกิจ BNPL ในปี 2565 ซึ่งอยู่ 5.5-6.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.4 ของหนี้ครัวเรือน และจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้บริการ BNPL 2,945 ราย เกือบทั้งหมดแทบไม่เคยผิดนัดชำระในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีเพียงร้อยละ 3.1 ที่เคยผิดนัดชำระ และผู้ที่ยังผิดนัดชำระอยู่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.7 เท่านั้น จึงยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า หนี้สินจาก บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง จะส่งผลต่อหนี้ครัวเรือนของประเทศโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
“มองเหรียญอีกด้านหนึ่ง มันคือการจับลูกหนี้ขังคุกไปตลอดกาล”
งานวิจัยของธนาคารกรุงศรี ระบุว่าบริการ Purchase Now Pay Later ถือเป็นสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (unsecured lending) รูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจกลายไปเป็นหนี้เสียได้ในอนาคต
เมื่อ.สอบถามศราวุธ ว่าเขาทราบเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยหากผิดกำหนดชำระบริการ Purchase Now Pay Later ที่ตนใช้อยู่หรือไม่ เขาตอบว่า “ไม่ทราบเหมือนกันครับ ไม่ได้อ่าน เงื่อนไข หรอกครับ ก็แค่กดสมัครไป”
ดังนั้น ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ จึงเสนอแนะว่า ผู้ปล่อยสินเชื่อควรมีการทำแบบประเมินความเสี่ยงเพื่อให้แน่ใจได้ว่า ยอดวงเงินที่มอบให้กับผู้ใช้บริการนั้น ตรงกับขีดความสามารถการจ่ายคืนของลูกค้า
“ณ วันนี้ ก่อนที่จะมีสินเชื่อ มีเงินกู้ มันไม่มีกฎหมายอะไรเลยที่จะมาบอกว่าตัวธนาคารจะต้องสร้างความมั่นใจก่อนว่าลูกค้าคุณมีความรู้ในการบริหารเงินจริง” ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าว
เขาเสริมด้วยว่า ภาครัฐควรยกระดับจากการประเมินความเสี่ยง ไปให้ถึงการสร้างเงื่อนไขว่าแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องสร้างฟีเจอร์จำลองเพื่อให้ผู้ใช้บริการคำนวนว่าการจ่ายผ่อนคืนแบบใดประหยัดต่อพวกเขามากที่สุด
“ไม่มีกฎหมายในการบังคับว่าตัวผู้ให้บริการ ปล่อยสินเชื่อ จะต้องชี้แนะลูกหนี้ว่า การชำระหนี้แบบไหนจะประหยัดดอกมากที่สุด ถึงจะอยู่รอด ถ้าปิดหนี้เร็วฉันจะประหยัดไปเท่าไหร่ ถ้าฉันไม่ปิดฉันจะเสียไปเท่าไหร่ ไม่มีใครคำนวนตัวเลขตรงนี้ให้ ซึ่งมันควรเป็นภาคบังคับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมาบังคับเลยว่าในแพลตฟอร์มทุกแห่งที่มี Purchase Now Pay Later คุณต้องมีฟีเจอร์ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่า ถ้าฉันชำระดอกเท่านี้เท่านั้น ฉันจะเสียดอกเบี้ยเท่าไหร่” อาจารย์ประจำภาควิชาการเงินและการธนาคาร จุฬาฯ กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า การให้ยอดเงินที่สูงเกินความสามารถในการผ่อนคืนอาจทำให้ลูกหนี้ตกอยู่ในภาวะกับดักหนี้ไปตลอดได้
“แพลตฟอร์มเขาจะให้วงเงินสูงในระดับหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าเขาอยู่ในสภาวะหนี้ และก็อยู่ในสภาวะที่เรียกว่าจ่ายได้เรื่อย ๆ และการที่รู้สึกว่าจ่ายได้เรื่อย ๆ มันคือสิ่งที่ล่อแหลมนะ มองเหรียญอีกด้านหนึ่ง มันคือการจับลูกหนี้ขังคุกไปตลอดกาล” เขาระบุ

ที่มาของภาพ : Getty Photos
ขณะที่ นายศุภวิทย์ ระบุด้วยว่า SPayLater มีบทบาทสำคัญในการ “ส่งเสริมพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมีสติ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานยุคดิจิทัลที่มองหาเครื่องมือทางการเงินที่มีทั้งความยืดหยุ่นและความชัดเจนในการบริหารจัดการด้านการเงินส่วนบุคคล” แม้ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าทางแพลตฟอร์มจะดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไร แต่เน้นย้ำว่าปัจจุบัน SPayLater ได้มีเนื้อหาอธิบายการใช้งานบริการอย่างชัดเจน พร้อมตัวอย่างจำลองการผ่อนชำระรายเดือน เพื่อสนับสนุนการวางแผนทางการเงินอย่างยั่งยืนของผู้ใช้บริการ
โดย ผศ.ดร.รุ่งเกียรติ กล่าวสรุปว่า ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ไม่ใช่ “ผู้ร้าย” แต่ผู้ให้บริการก็ควรคำนึงถึงการทำการตลาดอย่างมีจริยธรรม (moral marketing) และความรู้ในเรื่องการเงิน (monetary literacy) ของผู้ใช้บริการก็สำคัญยิ่งในการป้องกันการกลายไปเป็นลูกหนี้ “ที่ถูกจับขังคุกไปตลอดกาล”
ที่มา BBC.co.uk