เปิดปากอดีตผู้ช่วย ฌอน “ดิดดี้” โคมบ์ส พร้อมเผยหลักฐานมัดตัวแรปเปอร์ชื่อดัง บังคับหนุ่มสาวมั่วเซ็กซ์-เสพยา

เปิดปากอดีตผู้ช่วย ฌอน “ดิดดี้” โคมบ์ส พร้อมเผยหลักฐานมัดตัวแรปเปอร์ชื่อดัง บังคับหนุ่มสาวมั่วเซ็กซ์-เสพยาArticle Info

    • Author, รีแอนนา คร็อกซ์ฟอร์ด และ ลาริสซา เคนเนลลี
    • Characteristic, บีบีซี นิวส์ อินเวสทิเกชัน

คำเตือน: บทความมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและความรุนแรงอย่างโจ่งแจ้ง

“พวกนายมาเก็บกวาดที่นี่หน่อยได้ไหม ? มันดูไม่หรูเลย” ฌอน “ดิดดี้” โคมบ์ส ส่งข้อความเสียงที่มีดนตรีแนวอาร์แอนด์บีบรรเลงเบา ๆ เป็นฉากหลัง ให้กับบรรดาผู้ช่วยส่วนตัวของเขา

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง สถานที่ดังกล่าวมีการจัด “ปาร์ตี้คลั่ง” (freak-off) หรือที่บางครั้งดิดดี้เรียกมันว่า “คืนราชาคนเถื่อน” (Wild King Night) ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือการมั่วสุมเสพยาและมั่วเซ็กซ์กันอย่างสุดเหวี่ยง จนเขาต้องเรียกเหล่าผู้ช่วยส่วนตัว ให้รีบมาเก็บกวาดทำความสะอาดสถานที่ซึ่งเละเทะดูไม่ได้แห่งนั้น

มีครั้งหนึ่งที่หัวหน้าทีมผู้ช่วยส่วนตัวของดิดดี้ ส่งข้อความสั่งงานไปยังลูกน้อง หลังปาร์ตี้คลั่งของเจ้านายจบลงว่า “พีดี (PD) อยากให้ไปช่วยทำความสะอาดด่วนที่โรงแรม เอาน้ำยาล้างคราบฝังแน่น (สำหรับเก้าอี้และโซฟา) แล้วก็ถุงขยะสีดำกับเบกกิ้งโซดาไปด้วย”

คำบรรยายวิดีโอ, คลิปวิดีโอที่มีผู้นำมาเปิดเผยกับบีบีซี แสดงให้เห็นปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งฌอน “ดิดดี้” โคมบ์ส จัดขึ้นในคฤหาสน์ของเขาที่ไมอามี

อดีตลูกจ้างที่ทำงานในคฤหาสน์ของดิดดี้ ได้เผยคลิปวิดีโอและคลิปเสียงจำนวนหนึ่งกับบีบีซี พร้อมทั้งบอกเล่าถึงข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับการทำงานให้มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการดนตรี ซึ่งเขาคนนี้มีเรือยอชต์หรูให้เช่าและคฤหาสน์หลายแห่งทั่วสหรัฐฯ ทั้งที่ย่านตากอากาศดังเดอะแฮมป์ตันส์ (The Hamptons), เบเวอร์ลีฮิลส์, และบนเกาะสตาร์ (Superstar Island) ซึ่งเป็นเกาะเทียมของเหล่าคนร่ำรวยที่หาดไมอามี

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed learningได้รับความนิยมสูงสุด

Terminate of ได้รับความนิยมสูงสุด

อดีตลูกจ้างเหล่านี้ทำงานกับดิดดี้มายาวนานตลอด 5-10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่า ได้กระทำความผิดทางอาญาเอาไว้มากมาย ซึ่งการไต่สวนพิจารณาคดีเหล่านี้ในศาลของรัฐนิวยอร์ก เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันพุธที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา

ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องแรปเปอร์คนดังวัย 55 ปี ในคดีที่เป็นความผิดร้ายแรงส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงคดีฉ้อโกงและความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อกิจกรรมทางเพศ 2 กระทง ซึ่งเกี่ยวข้องกับแคสซี เวนทูรา อดีตแฟนสาวของดิดดี้ และหญิงอีกผู้หนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า “เจน โด”

อย่างไรก็ตาม สมาชิกของคณะลูกขุนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าดิดดี้มีความผิดจริง ในเรื่องมีส่วนพัวพันกับการเป็นธุระจัดหาและส่งตัวหญิงทั้งสองคนไปค้าประเวณี ซึ่งศาลจะอ่านคำพิพากษาว่าด้วยบทลงโทษของจำเลยในภายหลัง

ที่มาของภาพ : Getty Images

เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นคฤหาสน์ของดิดดี้บนเกาะสตาร์ (Superstar Island) ในย่านหาดไมอามีของรัฐฟลอริดา

คลิปวิดีโอและคลิปเสียงที่อดีตลูกจ้างของดิดดี้เปิดเผยต่อบีบีซีนั้น แสดงให้เห็นความน่ากลัวของนายเจ้าอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งเขาบอกให้ลูกน้องทำสิ่งที่เหลือเชื่อเพื่อ “ทดสอบความจงรักภักดี” แถมยังออกคำสั่งที่เรียกร้องต้องการอย่าง “สุดขั้ว” มากขึ้นเรื่อย ๆ

อดีตลูกจ้างบางคนยังเล่าว่า “ปาร์ตี้คลั่ง” ซึ่งบางครั้งกินเวลานานหลายวัน ถูกจัดขึ้นในสถานที่หลายแห่งทั่วโลก โดยดิดดี้จะให้ทีมผู้ช่วยส่วนตัวเตรียมกระเป๋าบรรจุ “เบบี้ออยล์, สารหล่อลื่น, และหลอดไฟสีแดง” เอาไว้เสมอ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อาบด้วยแสงสีแดงอย่างที่เขาชอบ โดยไม่ลืมที่จะพกยาเสพติดร้ายแรงคลาสเอ (class-A pills) ติดตัวไปด้วยทุกหนแห่งที่เขาเดินทางไปเยือน

ที่มาของภาพ : Reuters

ดิดดี้ขณะร่วมงานเมตกาลา (Met Gala) ซึ่งจัดขึ้นที่นครนิวยอร์กในปี 2023

“ค่ำคืนของราชาคนเถื่อน”

ภายในคฤหาสน์หรูติดชายหาดไมอามีของดิดดี้ ซึ่งมีมูลค่าถึง 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาเก็บซ่อนความลับเกี่ยวกับบุคคลวงในที่ร่วมปาร์ตี้ด้วยกันไว้เป็นอย่างดี

“ฉันจะไม่มาคอยทำตัวโปร่งใสกับพวกแกหรอก” ดิดดี้ที่กำลังเมาขู่ตะคอกมาทางข้อความเสียง เพื่อเตือนบรรดาลูกจ้างในคฤหาสน์ไม่ให้สอดรู้สอดเห็น โดยข้อความนี้ถูกส่งมายังกลุ่มสนทนาของพวกเขาในแอปพลิเคชันวอตส์แอป (WhatsApp) เมื่อปี 2020 “มีที่มืดบางแห่งที่พวกแก (คำสบถ) ไม่อยากเข้าไปแน่ ดังนั้นจงอยู่ในที่ของตัวเอง”

บรรดาอดีตลูกจ้างต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ดิดดี้มีนิสัยก้าวร้าวรุนแรง เรียกร้องต้องการสิ่งต่าง ๆ มากมาย และมีอารมณ์แปรปรวนกลับไปกลับมา ซึ่งบางคนมองว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดจากไลฟ์สไตล์ที่ชอบจัดปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงเป็นประจำ โดยใช้ยาเสพติดเติมพลังความหรรษา

อดีตผู้จัดการประจำคฤหาสน์ของเขาคนหนึ่งบอกกับบีบีซีว่า อัตราการลาออกของลูกจ้างและการรับคนใหม่เข้ามาแทนที่นั้นสูงมาก โดยมีผู้จัดการประจำคฤหาสน์หลายแห่งของดิดดี้ เข้ามาทำงานและลาออกไปแล้วถึงกว่า 20 คน ภายในเวลาเพียง 2 ปี

คำบรรยายวิดีโอ, ดิดดี้ส่งข้อความเสียงนี้ไปให้ทีมผู้ช่วยส่วนตัว โดยขู่ตะคอกว่า “”มีที่มืดบางแห่งที่พวกแก (คำสบถ) ไม่อยากเข้าไป”

ฟิล ไพนส์ วัย 40 ปี ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้บริหารระดับสูงของดิดดี้ ระหว่างปี 2019-2021 บอกกับบีบีซีว่า แรปเปอร์มหาเศรษฐีผู้นี้ไม่พูดจาอะไรสักคำกับเขาเลย ในตอนที่เขาเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน “มันเหมือนกับเป็นพิธีกรรมรับน้องใหม่อะไรสักอย่าง เราไม่ได้พูดคุยกันเลยในช่วงเดือนแรกของการทำงาน”

ด้าน “อีธาน” (นามสมมติ) อดีตผู้ช่วยส่วนตัวอีกคนหนึ่ง กล่าวยืนยันเรื่องนี้ว่า “เขาป่วยทางจิตอย่างหนักและมีพฤติกรรมหลากหลายแบบ บางครั้งก็ก้าวร้าวรุนแรง บางครั้งก็อ่อนโยนใจดีมาก”

อีธานและอดีตลูกจ้างของดิดดี้หลายคน ไม่ต้องการจะเปิดเผยชื่อและตัวตนจริง เนื่องจากยังคงทำงานอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการบริการและต้อนรับระดับสูง จึงเกรงว่าการเผยข้อมูลส่วนตัวของดิดดี้ อาจส่งผลกระทบต่ออาชีพการงานได้

อีธานยังเผยรอยแผลเป็นเล็ก ๆ บนหน้าผาก ให้ทีมข่าวบีบีซีดู โดยเล่าว่าแผลนี้เกิดจากเศษแก้วกระเด็นมาบาด หลังจากที่ดิดดี้ทุบแก้วใบหนึ่งกับผนังจนแตกด้วยความโกรธ

ฟิล ไพนส์ เคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้บริหารระดับสูงของดิดดี้มาก่อน

ฟิล ไพนส์ และอีธาน ต่างก็เป็นผู้ช่วยส่วนตัว “วงใน” ที่ได้รับความไว้วางใจจากดิดดี้ ทั้งสองเล่าว่าอดีตเจ้านายของพวกเขามักเล่นเกมจิตวิทยากับลูกน้องเสมอ ครั้งหนึ่งอีธานต้องเผชิญกับบททดสอบความจงรักภักดี เมื่อดิดดี้ถอดแหวนออกแล้วโยนลงมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อนจะออกคำสั่งให้เขาลงน้ำเพื่องมมันขึ้นมา

ตอนนั้นทั้งสองคนอยู่ในงานเลี้ยงที่เป็นทางการ และสวมชุดสูทเต็มยศด้วยกันทั้งคู่ แต่ถึงกระนั้นอีธานก็ต้องจำใจกระโดดลงทะเลไปโดยไม่รอช้า ส่วนไพนส์นั้นเคยถูกเรียกให้ไปที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งของดิดดี้หลังเที่ยงคืน เพียงเพื่อช่วยหยิบรีโมตคอนโทรลของโทรทัศน์ที่ตกอยู่ใต้เตียงขึ้นมา ทั้งที่ตอนนั้นมีแขกสาวสวยอยู่ในห้องนอนกับดิดดี้ด้วย

“เห็นไหม ? เขาเชื่อฟังมาก แค่นี้เขาก็กลับบ้านได้ละ” ถ้อยคำโอ้อวดที่ดิดดี้พูดกับแขกสาวสวย ทำให้ไพนส์รู้สึกเหมือนกับเขาเป็นสัตว์เลี้ยงก็ไม่ปาน

ไพนส์บอกว่า คริสตินา คอร์แรม หัวหน้าพนักงานของดิดดี้ คือผู้จัดปาร์ตี้ “คืนราชาคนเถื่อน” ให้กับเขา

ทว่าการจัดเตรียมปาร์ตี้ “คืนราชาคนเถื่อน” ซึ่งเป็นชื่อเรียกงานเลี้ยงสำเริงสำราญของดิดดี้ ที่คริสตินา คอร์แรม หัวหน้าทีมผู้ช่วยส่วนตัวบอกกับพวกเขานั้น ได้เผยถึงด้านที่ดำมืดยิ่งกว่าในการรับใช้แรปเปอร์เอาใจยากผู้นี้ “ผมเคยถูกสั่งให้จัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดจำนวนหนึ่งให้ดิดดี้…ตอนนี้ผมเพิ่งมาฉุกคิดได้ว่า เหตุใดถึงไม่มีใครอธิบายกับผมมาก่อน ว่าเขาจะเอาของพวกนั้นไปทำไม”

ทีมข่าวบีบีซียังได้เห็นข้อความตัวอักษรทางโทรศัพท์ ที่คริสตินา คอร์แรม ส่งไปเตือนไพนส์ให้อย่าลืมจัดกระเป๋าสำหรับ “คืนราชาคนเถื่อน” โดยเขาต้องรีบจัดเตรียมข้าวของให้ทันภายในสองชั่วโมง อีกครั้งหนึ่งคอร์แรมยังส่งข้อความสั่งให้ไพนส์ไปส่งของให้ดิดดี้ ซึ่งของที่ว่าคือเบบี้ออยล์ 7 ขวด, เจลหล่อลื่นยี่ห้อแอสโตรไกลด์ (Astroglide) อีก 7 ขวด, และกาแฟวานิลลาลาเต้เย็นอีกหลายแก้ว

“มันช่างอับอายขายหน้ามาก ๆ ที่ต้องไปร้านขายยา เพื่อกว้านซื้อเบบี้ออยล์กับเจลหล่อลื่นจนหมดแผง ผมมักแสร้งทำเป็นคุยโทรศัพท์อยู่ตอนที่ซื้อของ” ไพนส์กล่าว

ระหว่างการไต่สวนพิจารณาคดีของดิดดี้ในชั้นศาล อัยการได้เผยหลักฐานซึ่งเป็นคลังเก็บข้าวของที่เขากักตุนไว้ เพื่อจัด “ปาร์ตี้คลั่ง” โดยเฉพาะ หลักฐานนี้ได้มาหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นคฤหาสน์ของเขาที่นครลอสแอนเจลิส จนพบยาเสพติดจำนวนมากและเบบี้ออยล์กว่า 1,000 ขวด

หลังจากทำงานให้ดิดดี้ไปได้แค่ 3 เดือน ไพนส์เริ่มวิตกกังวลเรื่องที่เจ้านายสั่งของแปลก ๆ เพื่อจัดปาร์ตี้บ่อยครั้ง “คำสั่งพวกนี้เริ่มมีมาทุกวัน บางครั้งก็วันละสองรอบ จนกลายเป็นงานประจำที่มีทุกวันในทุกสัปดาห์”

ไพนส์ยังบอกว่า มีหญิงสาวหลายคนพากันมาเยือนคฤหาสน์ของดิดดี้อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสาว ๆ เหล่านี้มาเพื่อมีกิจกรรมทางเพศกับเขา ส่วนอีธานกล่าวเสริมว่า หลายครั้งยังมีหนุ่มน้อยหน้าตาดีถูกเรียกตัวให้มาร่วมปาร์ตี้ด้วย แม้จะดูเหมือนว่าหนุ่มสาวบางคนในกลุ่มนี้เป็นเพื่อนของลูกชายดิดดี้ แต่ไพนส์บอกว่าท้ายที่สุดแล้ว หญิงสาวบางคนก็จะลงเอยด้วยการไปสังสรรค์อย่างใกล้ชิดกับดิดดี้

ไพนส์แสดงความเป็นห่วงว่าแขกผู้มาเยือนเหล่านี้ แม้รูปร่างหน้าตาจะดูเหมือนคนหนุ่มสาวในวัยยี่สิบปีต้น ๆ แต่ที่จริงแล้วอาจจะยัง “เด็กเกินไป” หรือยังเป็นผู้เยาว์ที่ “หัวอ่อนชักจูงง่าย” สำหรับเจ้านายวัย 50 ปีของเขา

“หลังปาร์ตี้ผมจะเห็นผู้หญิงที่แสดงอาการเจ็บป่วยไม่สบาย หรืออย่างน้อยก็จะมีผู้หญิงที่ดูเหนื่อยโทรม เหมือนไม่ได้พักผ่อนมาทั้งคืน” ไพนส์กล่าว บ่อยครั้งในวันรุ่งขึ้นจะมีผู้หญิงที่คล้ายพยาบาล มาให้น้ำเกลือทางเส้นเลืoดกับแขกในงานปาร์ตี้ เพื่อช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวหลังกระหน่ำปาร์ตี้กันไม่หยุดหย่อนนานถึง 24 ชั่วโมง โดยไม่มีอาหารตกถึงท้อง

ไพนส์จำได้แม่นว่ามีแขกผู้หญิงในงานคนหนึ่ง บอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าและเจ็บปวดว่า “ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” หลังจากนั้นเขาได้รับคำสั่ง ให้ขับรถจากคฤหาสน์ของดิดดี้ในไมอามีเพื่อไปส่งเธอถึงบ้าน “ตอนนั้นเธอตัวสั่นงันงกอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่ากำลังถอนยาเลย” ไพนส์กล่าว

คำบรรยายวิดีโอ, คลิปเสียงที่ดิดดี้สั่งให้ผู้ช่วยนำยาสงบประสาทซาแนกซ์ (Xanax) รวมทั้งยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่เขาเรียกว่า “แผนบี” และยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศเซียลิส (Cialis) ไปให้

เรื่องราวและรายละเอียดของการปาร์ตี้อย่างบ้าคลั่ง ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงระหว่างการพิจารณาคดีในศาลหลายครั้ง โดยคาซานดรา “แคสซี” เวนทูรา อดีตแฟนสาวที่เคยคบกับดิดดี้มานานกว่าสิบปี ให้การต่อศาลว่าเธอต้องทนถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับชายขายบริการเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากดิดดี้ขู่จะทุบตีและแบล็กเมล โดยจะเผยคลิปวิดีโอที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับชายหลายคนที่เขาบันทึกไว้ แคสซียังบอกว่า บางครั้งปาร์ตี้ดำเนินไปอย่างยืดเยื้อติดต่อกันหลายวัน จนเธอต้องเสพยาหลายขนานเพื่อให้ตื่นตัวอยู่ได้ตลอดเวลา

หญิงอีกผู้หนึ่งที่ฟ้องร้องดิดดี้ เคยคบ ๆ เลิก ๆ กับเขาหลายรอบตั้งแต่ปี 2021 และอยู่ในความสัมพันธ์จนกระทั่งถึงเดือนก.ย. ปี 2024 ที่ดิดดี้ถูกจับกุม เธอผู้นี้แสดงหลักฐานต่อศาลว่า รู้สึกเหมือนถูกกดดันให้คอยเติมเต็มความปรารถนาทางเพศของดิดดี้ ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งที่ว่า เขาเป็นคนจ่ายค่าเช่าที่พักให้กับเธอ แต่หลังจากที่ทำตามความต้องการของเขาแล้ว เธอกลับรู้สึก “ขยะแขยง” ในใจ และรู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายด้วย

อย่างไรก็ตาม ทนายความของดิดดี้ได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยบอกว่าเขายอมรับสารภาพในข้อหาใช้ความรุนแรงต่อครอบครัว แต่คัดค้านว่าความสัมพันธ์ทางเพศทั้งหมดที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นไปด้วยความสมัครใจของทุกฝ่าย เนื่องจากดิดดี้นั้นมีไลฟ์สไตล์แบบชื่นชอบการสลับคู่นอนหรือ “สวิงกิ้ง”

ทีมข่าวบีบีซีได้ทราบมาว่า มีทีมงานของดิดดี้อย่างน้อยหนึ่งคน คอยรับหน้าที่จัดหาเอสคอร์ตหรือผู้ให้บริการเพื่อนเที่ยวทางออนไลน์ เพื่อนำตัวมาเข้าร่วมปาร์ตี้ “คืนราชาคนเถื่อน” โดยภาพถ่ายของคนเหล่านี้จะถูกส่งไปให้ดิดดี้ตัดสินใจเลือก ก่อนที่งานปาร์ตี้จะเริ่มขึ้น

ไพนส์บอกว่าเขาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นในงานปาร์ตี้ แต่มักจะได้รับคำสั่งให้ไปเก็บกวาดหลังงานเลิกเสมอ “ทุกอย่างพังเละไปหมด เบบี้ออยล์เจิ่งนองเต็มพื้น แล้วก็มีเศษกัญชาพันลำตกอยู่เกลื่อน ผมจะใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัยเสมอตอนทำความสะอาด”

“ถึงตอนนั้นดิดดี้จะลุกขึ้น ดึงหมวกฮูดคลุมศีรษะมาปิดบังใบหน้า แล้วเดินออกนอกประตูไป” ไพนส์กล่าว

ครั้งหนึ่งไพนส์เคยเห็นดิดดี้เตะและผลักแขกผู้หญิงคนหนึ่ง หลังทั้งสองมีปากเสียงกันที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งของเขา ไพนส์ได้ยินดิดดี้สบถก่นด่าและบอกกับแขกผู้หญิงคนนั้นว่า “เอาเสื้อคลุมมีหมวกฮูดของฉันมา”

“แต่เมื่อเธอถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ออก ท่อนบนก็เปลือยเปล่า ไม่มีบราหรือเสื้อยืดปกปิดเลย ผมจึงถอดเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเองไปคลุมตัวเธอไว้” วันนั้นแขกผู้หญิงคนดังกล่าวจากไปทั้งน้ำตา ขณะโดยสารรถแท็กซี่อูเบอร์กลับบ้าน แต่ไม่ถึงสัปดาห์เธอก็กลับมาคืนดีและร่วมปาร์ตี้กับดิดดี้อีกครั้ง “เธอกลับมาไม่นานหลังจากนั้น การเลี้ยงอาหารค่ำและของขวัญ ดึงตัวเธอกลับสู่แวดวงของเขาอีกครั้ง” ไพนส์กล่าว

เมื่อไพนส์บอกเรื่องนี้กับคอร์แรมที่เป็นหัวหน้าของเขา โดยเล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดเป็นฉาก ๆ คอร์แรมกลับพูดตัดบทหน้าตาเฉยว่า “อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก”

หัวหน้าทีมผู้ช่วยส่วนตัวของดิดดี้คนนี้ ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามของบีบีซีด้วย แต่ก่อนหน้านั้นคอร์แรมเคยยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ ทั้งเคยแถลงกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมาว่า ข้อกล่าวหาต่าง ๆ นั้นไม่เป็นความจริง ทั้งยัง “สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงรวมทั้งสุขภาพจิตของฉันและครอบครัว ชนิดที่ไม่อาจประเมินค่าหรือแก้ไขได้…ฉันไม่เคยเห็นชอบ ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้มีการประทุษร้ายทางเพศต่อผู้ใดทั้งสิ้น และก็ไม่เคยมอมยาใครด้วย”

เบบี้ออยล์และเจลหล่อลื่นแอสโตรไกลด์ (ซ้าย) รวมทั้งกัญชาพันลำ (ขวา) จะถูกจัดส่งให้แขกในคืนงานปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ทีมงานคนอื่น ๆ บอกว่า พวกเขามีหน้าที่เก็บกวาดและลบร่องรอยหลักฐานทั้งหมด ที่แสดงถึงการมีอยู่ของปาร์ตี้คลั่ง ซึ่งรวมถึงขจัดคราบสกปรกจากร่างกายที่เลอะเปื้อนผ้าปูที่นอนและโซฟา เก็บกวาดเศษซากของยาเสพติดที่เหลือไปทิ้ง รวมทั้งลบคลิปวิดีโอบันทึกกิจกรรมทางเพศ ที่อาจถูกนำไปใช้ข่มขู่หรือฟ้องร้องดิดดี้ในภายหลัง ออกจากโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์แลปท็อปของเขาให้เกลี้ยงด้วย

อีธานบอกว่า “มีบางอย่างที่ผมได้เห็นด้วยตาตนเอง มันกลายเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลงไปตลอดกาล” เขาเล่าว่าในบางครั้งดิดดี้จะสั่งให้เข้าไปในห้อง “เพื่อเอาน้ำหรือยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายไปให้” ทั้งที่กิจกรรมบนเตียงยังคงดำเนินอยู่อย่างโจ่งแจ้งคาตา

ส่วนไพนส์นั้นได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกเอาค่าเสียหายจากการทำงานกับดิดดี้ด้วย ทีมข่าวบีบีซีจึงได้สอบถามไปยังทนายความของแรปเปอร์คนดังเกี่ยวกับคดีของไพนส์ ซึ่งทนายคนดังกล่าวได้แสดงความเห็นตอบกลับมาว่า “ไม่ว่าจะมีการยื่นฟ้องอีกกี่คดี ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า คุณโคมบ์ส (ดิดดี้) ไม่เคยประทุษร้ายทางเพศกับใครหรือค้ามนุษย์เพื่อกิจกรรมทางเพศเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ผู้ใหญ่หรือผู้เยาว์ ตอนนี้พวกเราต่างอยู่ในโลกที่ใคร ๆ ก็ฟ้องร้องกันได้ด้วยเหตุผลทุกรูปแบบ”

ไพนส์เล่าถึงเหตุการณ์ที่น่ากลัวครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อราวเดือนพ.ย. ปี 2020 ขณะที่เขาได้รับคำสั่งให้ทำงานล่วงเวลาในคฤหาสน์ที่ไมอามี หลังจากทีมงานคนอื่น ๆ กลับบ้านไปหมดแล้ว โดยเขาต้องจัดปาร์ตี้ของกลุ่มวงในต่อ หลังความบันเทิงสุดเหวี่ยงงานใหญ่จบลง

ไพนส์ (ขวา) บอกว่าดิดดี้สั่งให้เขา “พิสูจน์ความจงรักภักดี”

“ก่อนจะถึงตอนนั้น ดิดดี้กับแขกของเขาจัดปาร์ตี้กันมาแล้วทั้งวัน โดยอาบแดดพร้อมกับสูบยา เสพเห็ดเมา และดื่มกันจนหัวราน้ำตลอด พอพลบค่ำพวกเขาต่างก็เมาหลุดโลกไปเรียบร้อยแล้ว” ไพนส์กล่าว

เขาเล่าต่อไปว่าดิดดี้ได้เชิญให้เขาดื่มในงานปาร์ตี้ตอนกลางคืน พร้อมกับสั่งให้เขา “พิสูจน์ความจงรักภักดี” ด้วยการยื่นถุงยางอนามัยให้ พร้อมกับผลักเขาไปหาแขกผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนอนทอดกายอยู่บนโซฟา “ตอนนั้นผมได้แต่คิดว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ผมช็อกจนยืนแข็งทื่อและรู้สึกหนาวไปทั้งตัว แต่ก็รู้สึกถูกกดดันมากด้วย”

ในที่สุดไพนส์กับหญิงผู้นั้นก็มีเพศสัมพันธ์กัน โดยที่ฝ่ายหญิงสมัครใจยินยอม แต่เมื่อดิดดี้เริ่มถอยห่างออกไปจากพวกเขาและเดินไปยังมุมอื่นของห้องชุด ไพนส์ที่ไม่ต้องการทำสิ่งนั้นอยู่แล้ว รีบดึงกางเกงขึ้นและหลบออกจากห้องไปทันที “มันเป็นการแสดงอำนาจของเขา แต่ผมรู้สึกเหมือนถูกบังคับขืนใจ ไม่ต่างจากการควบคุมหุ่นเชิด” ไพนส์กล่าว

กระเป๋ากุชชี่

เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ ดิดดี้ไม่ลืมที่จะพกพายาเสพติดไปด้วยเสมอ โดยเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดีบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของเขา

ไพนส์บอกว่าเคยได้รับคำสั่งให้จัดเตรียมสิ่งของคู่ใจของเจ้านายเอาไว้เสมอ “แม้จะเป็นแค่การเดินทางไปกลับในวันเดียว หรือแม้แต่การล่องเรือยอชต์เพียง 4 ชั่วโมง ก็ให้เอาของทั้งหมดนั่นไปด้วย เพราะดิดดี้อาจจะต้องใช้มัน”

ไพนส์บอกว่าดิดดี้มีกระเป๋ากุชชี่สีดำขนาดเล็กใบหนึ่ง ซึ่งเขาใช้เก็บเห็ดเมา, ยาเค, และยาอีเอาไว้เสมอ ในนั้นยังมีขวดเบบี้ออยล์, เจลหล่อลื่น, และหลอดไฟสีแดง ซึ่งทนายของดิดดี้ยอมรับต่อศาลว่า ลูกความของเขาจัดหายาเสพติดมาไว้ในครอบครองจริง แต่ก็เพื่อใช้เสพส่วนตัวเท่านั้น

อดีตลูกจ้างของดิดดี้บอกว่า เขาจะนำกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อกุชชี่ (Gucci) ติดตัวไประหว่างเดินทางเสมอ โดยข้างในมีเจลหล่อลื่นและยาเสพติดร้ายแรง

ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองเวนิสของอิตาลี ในช่วงฤดูร้อนของปี 2021 ทีมผู้ช่วยส่วนตัวของดิดดี้ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวเพื่อสอบสวนนานถึงหนึ่งชั่วโมง เหตุการณ์นี้ทำให้ไพนส์เครียดหนัก เพราะต้องลุ้นระทึกว่าเจ้าหน้าที่ได้พบยาเสพติดที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบนั้นหรือไม่ หากถูกค้นเจอขึ้นมา เขาอาจต้องกลายเป็น “แพะรับบาป” ที่รับโทษแทนเจ้านายก็เป็นได้

เมื่อเดือนมี.ค. ปี 2024 เบรนแดน พอล วัย 26 ปี อดีตผู้ช่วยส่วนตัวของดิดดี้ ถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ขณะอยู่กับเจ้านายที่สนามบินแห่งหนึ่งของไมอามี วันที่เกิดเหตุนี้เป็นวันเดียวกับที่ตำรวจบุกค้นคฤหาสน์หลายแห่งของดิดดี้ แต่ภายหลังพอลไม่ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะได้เข้าร่วมกระบวนการก่อนฟ้องคดีเพื่อหันเหผู้กระทำผิดออกจากการดำเนินคดีอาญา (pre-trial diversion program)

พอลได้ขึ้นให้การต่อศาลในฐานะพยาน ระหว่างการไต่สวนพิจารณาคดีของดิดดี้ว่า อันที่จริงแล้วเขาเจอโคเคนในห้องของเจ้านายระหว่างกวาดพื้น แต่ลืมไปว่าได้เก็บมันไว้ในกระเป๋าของตัวเอง ระหว่างเตรียมจัดข้าวของเพื่อเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจที่หมู่เกาะบาฮามาส อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเขาไม่ได้แจ้งกับตำรวจว่ายาเสพติดเป็นของดิดดี้ เนื่องจากต้องการปกป้องเจ้านาย

อดีตลูกจ้างของดิดดี้บอกว่า เขามักจะจัด “ปาร์ตี้คลั่ง” ที่ต่างประเทศเสมอ ทั้งในโรงแรมหรูและบนเรือยอชต์ส่วนตัว

ในเดือนธ.ค. ของปี 2021 ไพนส์ทนอยู่รับใช้ดิดดี้ไม่ไหวอีกต่อไป “เงินที่ได้มาไม่คุ้มกันเลย เพราะประสบการณ์เลวร้ายที่ผมต้องเจอเมื่ออยู่กับเขามันสุดจะทานทนได้”

เมื่อถามว่าเหตุใดบรรดาลูกจ้างจึงไม่เผยถึงเรื่องต่าง ๆ ออกมาเร็วกว่านี้ ไพนส์ตอบอย่างไม่ลังเลว่า พวกเขาต่างก็เกรงกลัวดิดดี้กันจนหัวหด “เขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกจ้าง คู่สัญญา แฟนสาว หรือแขกในงานปาร์ตี้ ทุกคนรู้ดีว่าเขาทำอะไรได้ขนาดไหน”

อีธานเล่าว่าในอดีตเขาเคยเชื่อว่าดิดดี้มีผู้คุมกันส่วนตัว “เป็นคนที่เดินอยู่หน้าเขาสองสามก้าว เพื่อคอยดักจับทุกอย่าง” แต่หลังจากที่เจ้านายเก่าถูกจับกุม อีธานไม่คิดเช่นนั้นอีกต่อไป “ทีมงานของเขาไม่อาจหยุดยั้งสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น แม้ตัวเขาเองที่เป็นคนดังจะสามารถหาเส้นสายหรือทางลัดได้ แต่ก็ไม่สามารถจะหลบเลี่ยงกฎหมายได้”

ไพนส์บอกว่านักสืบของรัฐบาลกลางจากกระทรวงความมั่นคงของมาตุภูมิ ได้มาหาเขาเพื่อสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับคดีอาญาของดิดดี้ ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปีที่แล้ว และเขาได้รับหมายเรียกไปให้ข้อมูลหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ก่อนที่การไต่สวนของศาลจะเริ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีอดีตผู้ช่วยส่วนตัวคนอื่น ๆ ของดิดดี้ ทั้งคนเก่าแก่ที่เคยทำงานกับเขาตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงคนที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ในปี 2024 ขึ้นให้การต่อศาลในฐานะพยานด้วย

“ผมต้องก้มหัวคำนับให้แคสซี เวนทูราเลย ที่กล้าออกมายืนหยัดต่อสู้กับเขา” ไพนส์กล่าว

ที่มาของภาพ : Getty Images

คาซานดรา เวนทูรา (ขวา) ยื่นฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากดิดดี้ เมื่อเดือนพ.ย. ปี 2023

คดีแพ่งที่เวนทูราฟ้องร้องดิดดี้เมื่อเดือนธ.ค. ปี 2023 ระบุว่าเขาลวงล่อกักขังเธอไว้ในวงจรความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ ทว่าคู่ความสามารถไกล่เกลี่ยกันได้สำเร็จหลังยื่นฟ้องเพียงวันเดียว โดยเวนทูราได้รับค่าเสียหายก้อนโตมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เรื่องราวยังไม่จบลงง่าย ๆ เพราะยังมีผู้ยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับดิดดี้ตามมาอีกถึง 60 คดี ซึ่งกระบวนการยุติธรรมจะต้องจัดการสะสางกันต่อไป

ไพนส์กล่าวทิ้งท้ายว่า “เธอเปิดทางให้คนอย่างผมก้าวออกมา และทำให้คนอื่น ๆ ซึ่งเคยเผชิญสิ่งที่คล้ายกัน แต่ถูกปิดปากให้เงียบเสียงจนรู้สึกว่าไม่อาจจะทำอะไรได้เลย กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้กับยักษ์ใหญ่”