เด็กยูเครนในดินแดนที่รัสเซียยึดครองกำลังถูกล้างสมองให้รักรัสเซียด้วยวิธีใด ?

ที่มาของภาพ : Yunarmia branch of the Zaporizhzhya suppose

กองกำลังทหารเยาวชนของรัสเซียที่ชื่อว่า “ยูนาร์เมียร์” ปัจจุบันปฏิบัติการอยู่ในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองซึ่งรวมถึงภูมิภาคซาปอริซเซีย

Article Records

    • Creator, วิทาลี เชฟเชนโก
    • Role, บรรณาธิการแผนกภาษารัสเซีย, บีบีซีมอนิเตอริง (BBC Monitoring)

ปัจจุบัน กำลังมีการปลูกฝังสั่งสอนให้เด็กชาวยูเครนทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นดินแดนที่รัสเซียครอบครอง ให้เกิดความรู้สึกรักรัสเซีย โดยเริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวนี้ให้กับเด็กชาวยูเครนตั้งแต่วัยเด็ก

ที่โรงเรียนอนุบาลเด็กเล็กในภูมิภาคลูฮันสก์ (Luhansk) เด็กเล็กกว่า 70 ชีวิตเข้าแถวโดยพวกเขาต่างถือธงทหารที่มีแถบสีดำยาวสลับส้มในรูปตัวหนังสือตัว Z ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย

อีกฟากของเมือง เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ 7 คน กระโดดขึ้นลงและทำท่าทางหน้าธงชาติรัสเซียพร้อมกับเสียงเพลงอันเกรี้ยวกราด “ฉันคือคนรัสเซีย” ที่ดังก้องออกมาจากลำโพง และเมื่อเสียงเพลงหยุดลงพวกเธอต่างตะโกนพร้อมกันว่า “หนูคือคนรัสเซีย”

ในเมืองแอนธราไซต์ดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครอง เด็ก ๆ จากโรงเรียนอนุบาลได้ผลิตเทียนสำหรับให้แสงสว่างและความอบอุ่นในสนามเพลาะ (trench candles) รวมถึงทำผ้าห่มให้กับทหารรัสเซีย

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ที่ไม่เพียงแต่ต้องการลบอัตลักษณ์แห่งความชาติของยูเครนเท่านั้น แต่ยังต้องการเปลี่ยนเด็ก ๆ ชาวยูเครนให้เป็นศัตรูกับประเทศตัวเองด้วย

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด

End of ได้รับความนิยมสูงสุด

และเพื่อทำเช่นนั้นกับเด็ก ๆ ได้ คุณจำเป็นต้องใช้ครู แต่เมื่อครูชาวยูเครนจำนวนมากหนีไปแล้ว รัฐบาลในกรุงมอสโกของรัสเซียจึงริเริ่มโครงการมอบเงินให้เปล่าหนึ่งก้อนมูลค่า 2 ล้านรูเบิลรัสเซีย หรือราว 822,600 บาท ให้กับครูชาวรัสเซียที่ต้องการย้ายไปอยู่ในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครอง

หน่วยงานหน่วยที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดของรัสเซียที่เข้ามาดำเนินกับกับเด็กชาวยูเครนในพื้นที่ดังกล่าวคือหน่วย ยูนาร์เมีย (Yunarmia) หรือที่แปลว่า กองทัพเยาวชน

หน่วยงานนี้เป็นองค์กรภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหมรัสเซีย การรับสมาชิกเข้าสู่กองทัพเยาวชนจะคัดเด็กที่อายุเข้าเกณฑ์ตั้งแต่ 8 ขวบขึ้นไปมาร่วมในกองทัพ หน่วยงานนี้มีปฏิบัติการทั่วรัสเซียและตอนนี้สาขาหนึ่งก็เปิดดำเนินการในดินแดนยูเครนที่รัสเซียครอบครองแล้ว

“เราสอนให้เด็ก ๆ มีทักษะพื้นฐานซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาหาก ว่าพวกเขาตัดสินใจเข้ารับใช้ชาติเป็นทหาร”

ฟิดาอิล บิกบูลาตอฟ เจ้าหน้าที่หน่วยยูนาร์เมียซึ่งดูแลหน่วยในภูมิภาคซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน กล่าว

บิกบูลาตอฟ ถูกส่งตัวมาจากบัชคอร์โตสถาน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังการ์ดเยาวชน (Early life Guard) ของพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย (United Russia) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

ที่มาของภาพ : Yunarmia branch of the Zaporizhzhya suppose

กองกำลังยูนาร์เมียถูกคว่ำบาตรจากทั้งสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป เนื่องจากปฏิบัติการ “ล้างสมอง” และการทำให้เด็กยูเครนกลายเป็นทหาร

สหภาพยุโรปได้คว่ำบาตรกองกำลังยูนาร์เมีย และบิกบูลาตอฟ ผู้บัญชาการหน่วยสาขาเป็นการเฉพาะฐาน “กระทำการฝึกฝนให้เด็กยูเครนกลายเป็นทหาร” นอกจากนี้สหราชอาณาจักรยังคว่ำบาทหน่วยทหารเยาวชนหน่วยนี้จากการที่มันเป็นองค์กรหนึ่งที่ร่วม “ล้างสมอง” เด็กยูเครน

ยูนาร์เมียไม่ใช่กองกำลังรัสเซียหน่วยเดียวเท่านั้น แต่ยังมีองค์กรที่รัฐบาลรัสเซียสนับสนับสนุนให้เคลื่อนไหว อย่างเช่น ขบวนการ Circulation of the First Ones และวอร์ริเออร์ (Warrior) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ฝึกอบรมด้าน “การทหารและการกีฬา” และให้การศึกษาแก่เยาวชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย

กลุ่มองค์กรเหล่านี้เป็นผู้จัดแข่งขันเกมอย่างเช่น เกมซาร์นิตซาซึ่งมีรากฐานมาจากยุคโซเวียต โดยเด็กยูเครนจะต้องแสดงความสามารถทางทักษะทางการทหารทั่วไป ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับความเป็นรัฐของรัสเซีย ประวัติศาสตร์การทหาร และทักษะการใช้อาวุธ

ระหว่างที่เด็ก ๆ ยูเครนเหล่านี้เข้าเรียนในระบบการศึกษา พวกเขาจะถูกสอนด้วยภาษารัสเซีย โดยใช้หลักสูตรและหนังสือรัสเซียซึ่งมีเนื้อหาให้ความชอบธรรมแก่การทำสงครามต่อต้านยูเครน

หนึ่งในหนังสือที่มีเนื้อหาเช่นนี้ให้ภาพว่ายูเครนเป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์ที่ชาติตะวันตกสร้างขึ้นมาเพื่อทำมุ่งร้ายต่อรัสเซีย และอ้างว่าอารยธรรมมนุษย์อาจสิ้นสุดลงหากรัสเซียไม่รุกรานยูเครนในปี 2022

ลิซา ซึ่งเข้าเรียนที่โรงเรียนในภูมิภาคโดเนตสก์ที่รัสเซียครอบครองอยู่กล่าวว่า เด็กนักเรียนที่นั่นถูกบังคับให้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั้งในแบบรัสเซียและสหภาพโซเวียต

“เมื่อพวกเขากำลังเตรียมการขบวนพาเหรดอะไรบางอย่าง ฉันและเพื่อนทั้งห้องและทั้งระดับชั้นต้องถูกบังคับให้เข้าร่วมทุกสุดสัปดาห์และฝึกซ้อม เราต้องถือโปสเตอร์ ฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ มันไม่ใช่การเลือกของฉัน ฉันถูกบอกว่าฉันต้องทำเพื่อจะจบการศึกษา” ลิซา กล่าว

“ทุก ๆ ครั้งที่การเรียนเริ่มต้น ครูของเราจะให้พวกเรายืนขึ้น เอามือไปแตะที่หัวใจของเราและฟังเพลงชาติรัสเซีย ซึ่งครูผู้หญิงของเราบอกให้เราท่องจำจนขึ้นใจด้วย”

ตอนนี้ลิซ่ามีชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาแล้วและได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่เธอประสบมาผ่านช่องติ๊กตอก (TikTok) ของเธอ

ที่มาของภาพ : EPA

เด็กยูเครนหลายพันคนถูกพาไปทัศนศึกษาในรัสเซียและหลายคนไม่ได้กลับมา

ทหารรัสเซียที่รับใช้กองทัพอยู่ก็มีบทบาทในการรณรงค์ปลูกฝังเหล่านี้เช่นกัน ทหารเหล่านี้จะไปเยี่ยมตามโรงเรียนเพื่อสอน “บทเรียนความกล้าหาญ” พวกเขายกย่องการกระทำของตัวเองในสงครามและทำให้กองกำลังยูเครนดูเหมือนพวกนีโอนาซีที่ดื้อด้าน

พาเวล ทรอปคิน เจ้าหน้าที่จากพรรคยูไนเต็ดรัสเซียซึ่งเป็นพรรคครองอำนาจในรัฐบาลและตอนนี้ประจำการอยู่ที่ภูมิภาคเคอร์สัน (Kherson) กล่าวว่าบทเรียนเหล่านี้ถูกจัดขึ้น “เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจวัตถุประสงค์” ของสิ่งที่รัฐบาลรัสเซียเรียกว่า “ปฏิบัติการทางการทหารพิเศษ” ในยูเครน

นอกโรงเรียน เด็กยูเครนถูกพาไปชมนิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเยินยอถึงชัยชนะของรัสเซียและ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ดังกล่าว โดยที่ศูนย์แห่งหนึ่งที่จัดทัศนศึกษาในลักษณะนี้กำลังจัดนิทรรศการชื่อ “รัสเซีย – ประวัติศาสตร์ของฉัน” และ “ฮีโร่ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ที่เมืองเมลิโทโพล ในภูมิภาคซาปอริซเซีย

แต่การพาไปทัศนศึกษายังไม่จบแค่นั้น รัฐบาลรัสเซียยังมีโครงการใหญ่อีกโครงการที่จะพาเด็กยูเครนเที่ยวชมรัสเซียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปลูกฝังความรู้สึกสนับสนุนรัสเซีย

โอลกา ลูบิโมวา รัฐมนตรีวัฒนธรรมของรัสเซีย อ้างว่ามีเด็กจากดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองกว่า 20,000 คนที่เข้าร่วมในหนึ่งในโครงการภายใต้แคมเปญดังกล่าวในรัสเซีย ซึ่งมีชื่อโครงการว่า “4+85” ข้อมูลจากหน่วยงานทางด้านการจัดแสดงดนตรีของรัฐบาลรัสเซียที่ชื่อว่า “รอสคอนเสิร์ต (Rosconcert)” ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ “ผสมผสานคนรุ่นใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมรัสเซียที่เป็นเอกภาพ”

อย่างไรก็ตาม แคมเปญ “บูรณาการ” นี้ไปไกลกว่าแค่การปลูกฝัง เพราะเด็กยูเครนหลายพันคนที่ถูกพาไปยังรัสเซียในช่วง 3 ปีที่รัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมายังบ้านเกิด

ตามการเปิดเผยของรัฐบาลยูเครนระบุว่า มีเด็กชาวยูเครนกว่า 19,000 คนที่ถูกบังคับเนรเทศไปอยู่รัสเซีย ขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรประเมินว่า มีเด็กยูเครนราว 6,000 คนที่ถูกย้ายตัวไปอยู่ที่ “ค่ายให้การศึกษาใหม่” แห่งหนึ่งในรัสเซีย

ทั้งนี้ กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศห้ามกิจกรรมลักษณะเช่นนี้ ตัวอย่างเช่น อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ระบุว่าอำนาจของผู้ยึดครองไม่สามารถเกณฑ์เด็ก “เข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มหรือองค์กรที่อยู่ใต้การควบคุมของตน” และห้ามมิให้มีการกดดันหรือการโฆษณาชวนเชื่อที่มีความมุ่งหมายเพื่อเกณฑ์คนท้องถิ่นในพื้นที่ถูกยึดครองเข้าสู่กองทัพหรือทหารกองหนุนโดยสมัครใจ”

เมื่อปี 2023 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับประธานาธิบดีปูติน โดยมีข้อกล่าวหาส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการเนรเทศเด็กอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ปูตินและรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหา

การทำสงครามกับยูเครนของรัสเซียไม่ใช่เพียงการไล่ล่ายึดดินแดนเท่านั้น แต่รัสเซียยังพยายามมีอิทธิพลเหนือผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม