
คณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยแพร่ คำวินิจฉัย ยกคำร้อง ประภาส ปิ่นตบแต่ง สว. ถูกร้องรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์รับเลือกวุฒิสภา ชี้ ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนข้อสงสัย-ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง คณะกรรมการสืบสวน-ไต่สวนส่งหนังสือเชิญ-โทรศัพท์ติดต่อ 13 ครั้ง แต่ผู้ร้องไม่มาให้ถ้อยคำ
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 3 สิงหาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 490/2568 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ลงนามโดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการ กกต. มีคำสั่งให้ยกคำร้องนายประภาส ปิ่นตบแต่ง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ กลุ่มที่ 17 หมายเลข 70 ถูกร้องว่ากระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 11 (17) มาตรา 13 (3) และมาตรา 74 กรณีสมัครรับเลือกเป็น สว. โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือก เพราะไม่ใช่บุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี
คำวินิจฉัยระบุ เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า ผู้ร้องพิจารณาข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) ของนายประภาสแล้วมีความสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของนายประภาสโดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาสนับสนุนข้อสงสัยของตน ซึ่งไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง
ประกอบกับจากการไต่สวนพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 4 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ให้ถ้อยคำว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของนายประภาส ไม่พบว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และในการตรวจสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้ถูกร้อง พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 4 ได้รับสมัครผู้ถูกร้องซึ่งประกอบอาชีพดังกล่าวและเป็นไปตามที่ผู้ถูกร้องประสงค์สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในกลุ่มที่ 17 โดยพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 4 ได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกแยกเป็นรายกลุ่มตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 21 อันเป็นการดำเนินการตามประสงค์ของผู้สมัคร ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่และอำนาจของผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ ตามแนวคำสั่งศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ ลต สว 185/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 169/2567 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2567
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากกรณีผู้ร้องยื่นคำร้องกล่าวหานายประภาสว่า สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 17 ได้แก่ กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน โดยระบุข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) ว่า นายประภาสประกอบอาชีพอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาเอก รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลับ โดยระบุประวัติการทำงานว่า อดีตหัวหน้าภาคการปกครองและอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคมจุฬา ฯ อาจารย์ประจำวิชาขบวนการทางการเมืองและสังคมมากกว่า 20 ปี เขียนหนังสือการเมืองบนถนน ฯลฯ ร่วมขับเคลื่อนและหนุนเสริมภาคประชาชนให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหาความเดือดร้อน เช่น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และเป็นแกนนำเรียกร้องปกป้องสิทธิ์ในที่ดินทำกิน จัดตั้งโฉนดชุมชนคลองโยง พื้นที่ 1,803 ไร่ เป็นพื้นที่ต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย โดยไม่ระบุปี จึงขอให้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้มีหนังสือเชิญและโทรศัพท์ติดต่อให้ผู้ร้องมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน จำนวน 13 ครั้ง ซึ่งผู้ร้องไม่ได้มาให้ถ้อยคำตามที่ได้แจ้ง แต่ผู้ร้องได้มีหนังสือ ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 แจ้งเพียงว่าผู้ร้องมีความสงสัยในคุณสมบัติของผู้ถูกร้องจึงส่งเรื่องมาให้ตรวจสอบเท่านั้น
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )