
ประชุม GBC เริ่มบ่ายนี้ จับตาข้อตกลง “หยุดยิvเด็ดขาด”

ที่มาของภาพ : FACEBOOK/ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (Customary Border Committee – GBC) ไทย–กัมพูชา จะเริ่มต้นในช่วงบ่ายวันนี้ (7 ส.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังจากคณะเลขานุการร่วม 2 ฝ่ายปิดห้องประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอของแต่ละฝ่ายกันนาน 3 วัน (4-6 ส.ค.)
ฝ่ายไทย นำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการแทน รมว.กลาโหม
ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
วงประชุมจีบีซีเกิดขึ้นหลังจากทหารไทยและกัมพูชาเปิดฉากปะทะกันด้วยอาวุธหนักตามแนวชายแดนตั้งแต่ 24 ก.ค. ก่อนที่ผู้นำรัฐบาล 2 ประเทศจะบรรลุข้อตกลง 3 ประการในระหว่างเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกที่มาเลเซียในอีก 4 วันต่อมา (28 ก.ค.) โดยมีนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นผู้ประสานงานและจัดการประชุม
นอกจากข้อตกลง “หยุดยิvทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค. ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นพ้องให้จัดประชุมจีบีซีวันที่ 4 ส.ค. โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ก่อนที่ไทยจะทำหนังสือเสนอให้เปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมเป็นประเทศที่ 3 จึงมาลงเอยที่มาเลเซียซึ่งเป็นตัวกลางในการประสานงานอยู่แล้ว และขยาย เวลาหารือจากเดิม 1 วัน เป็น 4 วัน
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด
Discontinue of ได้รับความนิยมสูงสุด
ในการประชุมวันสุดท้าย มีผู้แทนจากสหรัฐอเมริกาและจีนร่วมสังเกตการณ์ด้วย เช่นเดียวกับที่ 2 ชาติมหาอำนาจเคยเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในวงหารือระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีไทย กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รอบก่อน

ที่มาของภาพ : FACEBOOK/ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.อ.ณัฐพลเดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลา 07.00 น. ของไทย) โดยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก่อนหารือกับ “ทีมไทยแลนด์” และทีมเลขานุการจีบีซี โดยเขาได้กล่าวแสดงความชื่นชมทุกคนด้วยความจริงใจ และขอบคุณที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย
“ขอให้น้อง ๆ จงภูมิใจว่าการทำงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นวาระสำคัญแห่งชาติ” คำกล่าวของ รมช.กลาโหม ได้รับการเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.อ.ณัฐพลบอกด้วยว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นตอนนี้มาถึงครึ่งทาง ต้องลุ้นตอนบ่ายนี้ว่า “ทางกัมพูชาจะจริงใจกับเราด้วยหรือไม่ ถ้าจริงใจกับเรา ก็จะสำเร็จ”
กว่าจะถึงวันนี้
ก่อนมาถึงวันนี้ ไทยได้นำข้อตกลงของฝ่ายเลขานุการร่วม 2 ฝ่ายเข้าสู่การพิจารณาและขอมติรับรองโดยที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็กนัดพิเศษเมื่อ 6 ส.ค.
นายภูมิธรรมกล่าวเมื่อ 6 ส.ค. ว่า “แนวโน้มมีทิศทางที่ดี” และ “คาดว่าจะสามารถเจรจาเพื่อหาข้อยุติในสิ่งที่เป็นประโยชน์” แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
เช่นเดียวกับ พล.อ.ณัฐพลที่กล่าวว่า มีความมั่นใจเกิน 90% เพราะระดับที่ 1 วัดจากกองเลขานุการ “ซึ่งเกณฑ์ที่ผมวัดไว้ผ่านแล้ว” ระดับที่ 2 วัดจากผลการประชุมระดับรัฐมนตรี 7 ส.ค. และระดับที่ 3 วัดเมื่อถึงการปฏิบัติจริงว่าทำตามข้อตกลงหรือไม่ หากเขาทำเรื่อย ๆ ก็เป็นสัญญาณดีเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า “กังวลนิดเดียว” เนื่องจากมีผู้สังเกตการณ์จากประเทศต่าง ๆ
พล.อ.ณัฐพลคาดการณ์ด้วยว่า หลังการประชุมจีบีซี กลไกทวิภาคีอื่นจะง่ายขึ้น เช่น คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee – RBC) ซึ่งเป็นกลไกของฝ่ายทหารระดับแม่ทัพภาค/ผู้บัญชาการภาค เพราะในที่ประชุมจีบีซีจะหารือเรื่องกรอบการหยุดยิv ส่วนรายละเอียดการปรับกำลัง การวางกำลัง จะให้อาร์บีซีเป็นผู้กำหนด
ในระหว่างการแถลงข่าวของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 6 ส.ค. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. เล่าเบื้องหลังเอาไว้ว่า คณะเลขานุการจีบีซีของทั้ง 2 ฝ่ายประชุมเจรจากันถึงเวลา 00.15 น. ของเช้าวันนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากฝ่ายเลขานุการกัมพูชาไม่สามารถตัดสินใจได้ในบางหัวข้อ ต้องส่งเรื่องต่าง ๆ กลับไปให้ทางกรุงพนมเปญพิจารณาก่อน ทำให้เกิดความล่าช้าในการตกลงใจ จนกระทั่งเช้าวันที่ 6 ส.ค. “ข่าวดีคือ 2 ฝ่ายสามารถสรุปข้อตกลงได้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารให้ประธานทั้ง 2 ฝ่ายพิจารณา…”
สำหรับเลขานุการจีบีซีฝ่ายไทยคือ พล.ท.ณัฐพงศ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร

ที่มาของภาพ : EPA/Shutterstock
ก่อนหน้านี้เมื่อ 29 ก.ค. มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้บังคับบัญชาทหารระดับภูมิภาค ทั้งนี้ 7 ข้อสรุปที่ได้จากการพบกันระหว่าง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ พล.อ.โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ตามการเปิดเผยของกองบัญชาการกองทัพไทย ได้แก่ 1. หยุดยิvเด็ดขาด 2. คุ้มครองประชาชน 3. งดการเสริมกำลังทหารหรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไปในพื้นที่พิพาท 4. ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง 5. อำนวยความสะดวกการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ 6. จัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ ประกอบด้วยตัวแทนฝ่ายละ 4 คน ทำหน้าที่ในการสื่อสารและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และ 7. รอผลการประชุมจีบีซี
กองบัญชาการกองทัพไทยระบุว่า 7 ข้อสรุปที่ได้จากการหารือระดับแม่ทัพนี้จะถูกนำเสนอและพิจารณาอีกครั้งในการประชุมจีบีซี เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการรับรองและมีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้ง 2 ประเทศต่อไป
ที่มา BBC.co.uk