
สมาชิก-หัวหน้าวงดนตรี ‘ดิอิมพอสซิเบิล-พิงแพนเตอร์' นำหลักฐานพบตำรวจ แสดงความบริสุทธิ์ใจกรณีรับจ้างแสดงคอนเสิร์ตวัดพระบาทน้ำพุ ‘วิชัย' หัวหน้าวงพิงแพนเตอร์ แจงรับเงินผ่านคนกลาง ยืนยันไม่เคยสูบเงินวัด
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 เวลาประมาณ 12.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวินัย พันธุรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ หนึ่งในสมาชิกวงดิอิมพอสซิเบิล เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ประสานเพื่อเชิญมาชี้แจงถึงกรณีที่มีการจ้างแสดงดนตรีจากอดีตพระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ
นายวินัย เปิดเผยว่า ตนเคยเข้ารับงานแสดงที่วัดพระบาทน้ำพุเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ประมาณ 3 ครั้ง โดยรับค่าจ้างต่อครั้งครั้งละประมาณ 30,000 บาท แต่ขึ้นอยู่กับทางผู้ว่าจ้างจะให้ ไม่ได้เป็นการตกลงราคา ซึ่งบางครั้งก็มีการไปแสดงเพื่อการกุศลด้วย โดยผู้ที่โอนจ่ายค่าจ้างให้ตนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด ไม่ได้เป็นการรับเงินจากอดีตพระอลงกตโดยตรง และไม่ทราบว่าเป็นเงินที่มาจากบัญชีไหน
“การมาในวันนี้ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการยักยอกหรือทุจริตเงินบริจาคของวัด ไม่เคยยืมเงินอดีตพระอลงกต และไม่ได้ถือครองทรัพย์สินแทนใดๆ ทั้งสิ้น ผมเป็นเพียงศิลปินที่ถูกว่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุเท่านั้น และพร้อมชี้แจงและตอบประเด็นที่ตำรวจสงสัย แต่หากตำรวจมีประเด็นอื่นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการให้นำหลักฐานมาชี้แจง อย่างเช่น เส้นทางการเงิน ก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่แล้ว” นายวินัย กล่าว
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน นายวิชัย ปุญญะยันต์ หัวหน้าวงออร์เคสตราพิงค์แพนเตอร์ พร้อมด้วย นางสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่นเดียวกัน
นายวิชัย ยอมรับว่าได้รับค่าจ้างในการจัดการแสดงดนตรีครั้งละประมาณ 400,000 บาทจริง ซึ่งเป็นการจัดคอนเสิร์ตการกุศลที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าบัตรชมการแสดง และได้มีการเชิญนักร้องศิลปินหลายท่านไปร่วมแสดงบนเวทีด้วย ซึ่งเท่าที่จำได้มีการจัดการแสดงที่รับการว่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุประมาณ 7 ครั้ง
นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับเงินจำนวน 400,000 บาทนั้น จะได้รับการโอนจากคนกลางที่ได้รับการติดต่อจากทางวัด และจะมีการตกลงราคากันล่วงหน้าอยู่แล้ว โดยที่ตนเองไม่ได้พบกับอดีตพระอลงกตเป็นการส่วนตัว ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปแบ่งจ่ายให้กับสมาชิกในวงตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท และจะมีการแบ่งเงินบางส่วนบริจาคเพื่อการกุศลให้กับทางวัดด้วยประมาณครั้งละ 100,000 บาท
นายวิชัย กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองได้นำหลักฐานเป็นสเตทเมนต์การรับเงิน การโอนเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนและสมาชิกของวงไม่ได้มีการ “สูบเงิน” ของวัดตามที่ถูกอดีตพระอลงกตกล่าวอ้างแต่อย่างใด และการมาให้ข้อมูลในครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการถูกเชิญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนเองตั้งใจมาให้ข้อมูลด้วยตัวเอง อีกทั้งได้มีการประสานคนกลางที่เป็นคนโอนเงินให้มาร่วมให้ข้อมูลด้วยในวันนี้เช่นกัน และหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าตนเองเป็นคน “สูบเงินวัด” นั้น ก็รู้สึกไม่สบายใจ และเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ถูกอดีตพระอลงกตกล่าวหาว่า “สูบเงินวัด” จึงได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )