
‘ธปท.-ศปอท.-แบงก์’ ปรับแนวทางลดผลกระทบ ‘คนสุจริต’ ในเส้นทางเงิน ‘บัญชีม้า’ วางแนวทางปลด ‘ระงับธุรกรรมทางการเงิน’ ภายใน 4 ชั่วโมง วาง 3 หลักเกณฑ์ในการพิจารณาฯ
…………………………………..
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน Joint Media Briefing หัวข้อ ‘การระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า’ ว่า ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเพื่อจำกัดความเสียหายให้กับเหยื่อที่ถูกลวงให้โอนเงิน โดยเฉพาะการจัดการกับ ‘บัญชีม้า’
อย่างไรก็ดี เนื่องจากมาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยถูกระงับธุรกรรมทางการเงิน และจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น ซึ่งไม่ใช่การอายัดบัญชีธนาคารแต่อย่างใด
ดังนั้น ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และธนาคารพาณิชย์ จึงได้ปรับปรุงกระบวนต่างๆ ที่จะทำให้การปลดการระงับธุรกรรมฯทำได้รวดเร็วขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ยังคงช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกลวงให้โอนเงินได้อยู่
โดยในส่วนของภาคธนาคาร นั้น ธปท. ได้ให้ธนาคารพาณิชย์ ดำเนินการ ดังนี้
1.ลดระยะเวลาการปลดการระงับให้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วันแล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยธนาคารพาณิชย์จะตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับจาก ศปอท. โดยเร็วที่สุด ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง (วันละ 3 รอบ) เพื่อส่งกลับให้ ศปอท. ประมวลผล (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และส่งกลับมาแจ้งธนาคารพาณิชย์ เพื่อปลดการระงับธุรกรรม ภายในไม่เกิน 4 ชั่วโมง
2.เร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้มีความชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับและสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบนั้นต้องทำต่อ และให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น
“ในการต่อเส้นเงิน เรากวาดบัญชีที่อยู่ในเส้นเงินเข้ามามาก อาจโดนคนสุจริตเยอะ คนบริสุทธิ์เยอะ ซึ่งที่ผ่านมาการปลดระงับฯต้องรอ 3 วัน หรือ 7 วัน แล้วแต่กรณี แต่สิ่งที่เราทำ คือ เราจะปลดระงับฯคนสุจริตให้ได้เร็วขึ้น และต้องไม่ปลดม้า แล้วถามว่าเราจะทำอะไรกับการกวาดได้ไหม เราได้คุยกับ ศปอท. ว่า เราจะกวาดเข้ามาเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยเงื่อนไขหรือหลักเกณฑ์ต่างๆจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้” น.ส.ดารณี ระบุ
น.ส.ดารณี ย้ำว่า “ในเรื่องนี้ มีปัญหาตั้งแต่ตอนกวาดคนสุจริตเข้ามา แล้วไม่ปลดคนสุจริต แต่ตอนนี้ที่ทำแล้ว คือ จะปลดคนสุจริตให้รวดเร็ว และภายในเดือน ก.ย. ก็จะไม่กวาดเข้ามาเกินจำเป็น”
น.ส.ดารณี ยังกล่าวถึงกรณีการอายัดบัญชีในกรณีมีการกระทำทุจริตทางการเงินว่า จะต้องเป็นผู้ที่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ปปง. ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว ส่วนการปลดอายัดบัญชีในกรณีดังกล่าว จะมีกระบวนการที่ต่างออกไป คือ เดิมจะต้องแจ้งตำรวจท้องที่เพื่อให้ทำการปลดอายัด แต่ต้องไปจะมีศูนย์กลางที่ทำหน้าที่พิจารณาปลดอายัดบัญชี
ด้าน นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. กล่าวว่า ตามกระบวนการระงับธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า นั้น เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งเข้ามายังศูนย์ AOC 1441 จะมีการต่อเส้นทางเงินที่เกี่ยวข้อง และทำการระงับบัญชีที่อยู่ในเส้นเงินนั้นๆ เพื่อกักเงินไว้แล้วนำมาคืนผู้เสียหายหรือเหยื่อให้ได้ แต่เนื่องจากเราต้องการกักเงินไว้ให้ได้มากที่สุด จึงมีการต่อเส้นเงินให้มากที่สุด ทั้งบัญชีธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) และอี-มันนี่ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
เมื่อมีการระงับในบัญชีที่เกี่ยวข้องแล้ว พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับเดิม กำหนดให้ต้องระงับบัญชีไว้ตรวจสอบเป็นเวลา 3 วัน หรือ 7 วัน แล้วจะปลดการระงับทันที ซึ่งตรงนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ดี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับใหม่ ได้ให้อำนาจศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ปลดการระงับธุรกรรมให้เร็วขึ้น
“พอเราต่อเส้นเงิน และระงับบัญชีแล้ว ในช่วง 3-7 วัน ก็จะมีผู้บริสุทธิ์ที่แจ้งมาว่า เขาไม่เกี่ยวข้อง เขาอยากให้ปลดการระงับ ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนทำตาม พ.ร.ก. (มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ) ซึ่ง พ.ร.ก.ไม่ได้บอกว่าจะปลดการระงับได้เมื่อไหร่ บอกแค่ว่าถ้าครบ 3 วันหรือ 7 วัน ต้องปลด แต่ไม่สามารถปลดได้ก่อนได้ จนกระทั่งมีการออก พ.ร.ก. ฉบับใหม่ ที่ให้อำนาจ ศปอท. ในการปลดการระงับให้เร็วขึ้น” นางอรมนต์ กล่าว
สำหรับผู้ได้สิทธิ์การปลดระงับการทำธุรกรรมฯนั้น หากเป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในประกาศของสำนักงาน ป.ป.ง. ว่า เป็นบัญชีม้า ซึ่งเป็นมิจฉาชีพ หรือเป็นกลุ่มที่อยู่ในมาตรการ ‘ม้าสี’ ของ ธปท. คือ ต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า ตรงนี้ก็ไม่ควรปลดการระงับการทำธุรกรรม แต่หากไม่มีชื่อใน ป.ป.ง. หรือไม่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า เป็นคนปกติทั่วไป ก็จะมีการปลดการระงับฯให้เร็วที่สุด คือ ภายในไม่เกิน 4 ชั่วโมง หลังได้รับแจ้ง โดยจะมีการส่งข้อมูลมาให้ ศปอท. วันละ 3 รอบ
“ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งดูได้ คือ ถ้าเป็นการรับชำระเงินมูลค่าน้อย เช่น โอนค่าก๋วยเตี๋ยว ถ้าเจออย่างนี้ในเส้นเงิน ก็ไม่ควรจะไปเก็บเขาไว้ว่าเป็นมิจฉาชีพ หรือถ้าเป็นการโอนเงินก้อนใหญ่ แต่ถ้าดูบัญชีของเขาแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา มีการไหลเข้าไหลออกเป็นเรื่องปกติ เป็นร้านค้าที่มีการรับโอนเงินจากลูกค้า และโอนจ่ายค่าของออกไป อันนี้ก็ควรจะต้องปลดให้เขาเหมือนกัน” นางอรมนต์ กล่าว
นอกจากนี้ ภายใต้แนวทางใหม่ เมื่อมีการระงับธุรกรรมฯแล้ว สถาบันการเงินจะมีการแจ้งลูกค้าเป็น SMS หรือผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ว่า บัญชีของลูกค้าถูกระงับการทำธุรกรรมอยู่ และถูกระงับกี่วัน รวมทั้งจำนวนเงินที่ถูกระงับฯว่า มีจำนวนเงินเท่าไหร่ พร้อมทั้งแจ้งกับลูกค้าด้วยว่า ต้องไปติดต่อที่ไหน และทำอะไรต่อไป
ขณะที่ นายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า แนวทางการตรวจสอบเพื่อปลดระงับธุรกรรมทางการเงินของผู้บริสุทธิ์ในเส้นทางเงิน นั้น สถาบันการเงินจะพิจารณาจากพฤติกรรม คือ 1.ต้องเป็นธุรกรรมที่สุจริต ไม่ติดหมายตำรวจหรือหมายทางการอื่นๆ 2.ยอดรับโอนต่อรายการมีมูลค่าน้อย และ 3.กรณีมียอดรับโอนสูง เช่น รับโอนเงินเข้ามาครั้งละ 1-2 หมื่นบาท/ครั้ง ต้องเป็นการค้าขายปกติหรือธุรกรรมที่สุจริต
อ่านประกอบ :
‘ตำรวจไซเบอร์’ระดมกำลัง‘เจ้าหน้าที่’ประสาน‘แบงก์’เร่งปลดอายัด‘บัญชี’ไม่เกี่ยวข้อง‘บัญชีม้า’
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )