
‘ทอม ไรต์' เผยรูปภาพ ‘วรภัค' พร้อม ‘เบนจามิน-ยิม เลียก' ร่วมทริปธุรกิจด้วยกัน ชี้เป็นหลักฐานหักล้าง ว่ารู้จักกันมากกว่าแค่ผู้ปกครองโรงเรียนเดียวกัน ขณะอดีต รมช.คลังโต้กลับ แจงเป็นแค่ทริปดูแล็บกัญชาที่ มรภ.เชียงราย
สืบเนื่องจากที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ชี้แจงต่อสำนักข่าวอิศรา . ต่อกรณีที่นายทอม ไรต์ อดีตผู้สื่อข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) ได้โพสต์เอกสารหลักฐานลงบนเว็บไซต์ https://whalehunting.projectbrazen.com/ ยืนยันว่านางกนกพร สีตะวรารัตน์หรือนางกนกพร ธันยาวงษ์ ภรรยานายวรภัค ถือหุ้นในกองทุน CAI (ย่อมาจากบริษัท Capital Asia Funding ของประเทศสิงคโปร์) ร่วมกับนางแคทรียา บีเวอร์ ภรรยาของนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ที่ตอนนี้มีรายชื่ออยู่ในร่างกฎหมายคว่ำบาตรกลุ่มสแกมเมอร์ของสหรัฐอเมริกา และนายทอม ไรต์ อ้างว่านางกนกพรได้ขายหุ้น CAI จำนวน 2,987.33 หุ้น เป็นมูลค่า 2,936,462.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปของสกุลเงินดิจิทัล Tether (USDT) ซึ่งเทียบเท่าประมาณ 2.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (96,384,960 บาท)
นายวรภัคกล่าวถึงเอกสารบนเว็บไซต์ projectbrazen ดังกล่าวว่าว่าเอกสารเหล่านี้ยังไม่เคยถูกดำเนินการ ไม่เคยมีการโอนเงินกันเกิดขึ้นจริงๆ และถ้าสังเกตุดีๆ เอกสารเหล่านี้ เป็นเอกสารขายเงินลงทุน ไม่เกี่ยวกับสินบนอะไรทั้งสิ้น อีกทั้งเอกสารดังกล่าวนั้นส่อเป็นเอกสารความลับ ผู้ที่เอามาเผยแพร่อาจมีความผิด

สำนักข่าวอิศรารายงานความคืบหน้าเรื่องนี้เพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา นายทอม ไรต์ ได้โพสต์รูปภาพบนเว็บไซต์ brazen เป็นรูปภาพที่นายวรภัคลงพื้นที่ไปสถานที่หนึ่ง ร่วมกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และภรรยาของเมาเออร์เบอร์เกอร์ คือ น.ส.แคทรียา บีเวอร์ อยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ นายยิม เลียก หุ้นส่วนทางธุรกิจชาวกัมพูชาของเมาเออร์เบอร์เกอร์ และยังเป็นอีกคนที่อยู่ในรายชื่อคว่ำบาตร ก็ร่วมเดินทางในทริปนั้นด้วย (ดูรปภาพประกอบ)


นายทอม ไรต์ยังอ้างอีกว่าบุคคลที่อยู่ทางขวาสุดของภาพนั้นคือนายยิม บุน เลียง ลูกพี่ลูกน้องของนาย ยิม เลียก และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลนักลงทุนชาวจีน

นายทอม ไรต์กล่าวว่าหลักฐานรูปภาพดังกล่าวนั้นได้หักล้างคำกล่าวอ้างของนายวรภัค ที่เคยกล่าวว่ารู้จักนายเมาเออร์เบอร์เกอร์เนื่องจากลูกของตน เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันในประเทศไทย แต่ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ประกอบธุรกิจอะไรอย่างไร หรือมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างไรกับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ เพราะเป็นผู้ปกครองนักเรียนวัยเดียวกัน ชั้นเดียวกัน โรงเรียนเดียวกันเท่านั้น
ในเวลาต่อมา นายวรภัคได้ชี้แจงข้อมูลรูปภาพดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาระบุว่า ผมไม่อยากออกมาตอบโต้ให้ข่าวอะไรแล้วเพราะทนายกำชับไว้ แต่เมื่อวานก็มีคนมาพาดพิงผมเอารูปมาลง และมีกัลยาณมิตรซึ่งรู้จักผมดีแสดงความเป็นห่วงมาเยอะ ก็เลยจำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติมนะครับ
ตอนที่ผมแถลงข่าวผมได้บอกแล้วว่าผมรู้จักพบคุณเบนมานานแล้วเพราะลูกเรียนโรงเรียนเดียวกัน ครอบครัวก็เคยไปทานข้าวด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน แต่ผมกับเขาไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน คำว่าทำธุรกิจร่วมกันคืออย่างเช่นลงทุนตั้งแบงค์ด้วยกัน ลงทุนทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันเป็นต้น ลงทุนทำโรงแรมร่วมกัน เช่นนี้ ไม่เคยมี ไม่เคยทำร่วมกัน (จริงๆในวันที่แถลงข่าวผมมีเขียนรายละเอียดพวกนี้ไว้แล้วแต่ทีมงานให้ตัดออกให้บอกแต่ว่าเคยรู้จักมานานแล้วพอ เพราะไม่อยากไปพาดพิงรายละเอียดถึงคนอื่นมาก)
คุณเบนเป็นคนชอบการลงทุนผมก็ชอบการลงทุน หลังผมเกษียณจากกรุงไทย ก็มีโอกาสได้พบกันพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการลงทุนเป็นหลัก ผมกับเขาไม่เคยทำธุรกิจร่วมกันแต่ถ้าเป็นการลงทุนเคยมีการลงทุนใน launch up เดียวกัน ก็อาจจะมีบ้าง ส่วนใหญ่เป็นบริษัท tech launch up อย่างเช่นบริษัทที่ลงเป็นข่าว เป็น launch up บริษัทผลิตกัญชามีนักวิจัยชาวสเปนที่เคยได้รับรางวัลระดับโลกเป็นพาร์ตเนอร์หลักและ ตัว CEO คนไทยเคย เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยมาก่อน ตอนตัดสินใจไปลงทุนในบริษัทนี้ก็เพราะฟังดูน่าเชื่อถือดี ผมไปดูแล้วก็ตัดสินใจลงทุน แต่ไม่แน่ใจว่าคุณเบนลงทุนในบริษัทนี้ด้วยหรือเปล่า แต่เดินทางไปดูสถานที่ดำเนินการด้วยกัน
บริษัท launch up กัญชานี้มีนักธุรกิจไทยมาลงทุนร่วมกันเยอะมาก รวมทั้งนักธุรกิจจากตระกูลเจ้าสัวใหญ่ใหญ่ในเมืองไทยก็มาลงกันหลายตระกูล รวมทั้งเข้ามานั่งเป็นกรรมการบริษัทนี้ด้วย เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่ธุรกิจกัญชาร้อนแรงมาก ผมไปลงทุนซื้อหุ้นไว้นิดหน่อยหลักล้านบาท สมัยผมไปลงทุนชื่อบริษัทเป็นอีกชื่อหนึ่งไปลงทุนได้ไม่นานผมก็ขายหุ้นออกไป ตอนขายหุ้นออกยังเป็นชื่อบริษัทเดิมอยู่ ไม่ใช่ชื่อตามในข่าว
รูปที่นายทอม ไรต์นำมาเผยแพร่ก็คือตอนที่มีโอกาสเดินทางไปดูสถานที่ดำเนินการ ที่เป็นห้อง laboratories ในการวิจัยและพัฒนากัญชาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ซึ่งถ้าจะมีรูปที่ผมเดินทางไปกับคุณเบนที่โน่นที่นี่คงมีอีกหลายรูปครับ คุณเบนอยู่เมืองไทยมา 20 กว่าปี
แต่ที่ผมลงทุนแล้วเค้าไม่ลงทุนด้วยและเค้าไปลงทุนแล้วผมไม่ลงทุนด้วยมีเยอะกว่ามาก ขอเน้นนะครับว่าที่ผมกับเขาเคยไปลงทุนในบริษัทเดียวกันนี้ น่าจะมี อย่างมากก็แค่ สองบริษัท launch up และแต่ละบริษัทมีนักธุรกิจหรือกองทุนอื่นๆมาร่วมลงทุนด้วยหลายราย ไม่ใช่ว่ามีเฉพาะผมและคุณเบนมาลงทุน แต่ถ้าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาทิเช่นผมซื้อหุ้นกู้ของปูนซิเมนต์ไทยแล้วบังเอิญเค้าเข้ามาซื้อด้วยอันนั้นไม่ทราบเหมือนกันเพราะไม่เคยคุยกัน
ท้ายสุดอยากให้ทุกท่านเข้าใจว่าตอนที่ผมคุยกับคุณเบนเจอหน้ากันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผมไม่เคยเห็นธุรกรรมอะไรที่คุณเบนเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสแกมเมอร์เลยสักนิดเดียว เพราะถ้ามีผมคงไม่กล้าพบปะด้วยทุกครั้งที่คุยกันจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจเรื่องการลงทุนเป็นหลัก แต่ข้อเท็จจริงก็คงต้องให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ

ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )













