
กรมประกาศ'พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี' เข้าไทย เตือน อีสาน-ใต้ ฝนหนักมาก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน สธ. สั่ง รพ.ทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือ 8 ข้อ กังวลกระทบสถานบริการ-สุขภาพประชาชน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 7 พ.ย. 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า พายุไต้ฝุ่น ‘คัลแมกี' (KALMAEGI) บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .2568) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าว ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 2568

@สธ. ออก 8 ข้อสั่งการถึง รพ. เตรียมพร้อม-จัดทีมแพทย์ดูแลสุขภาพประชาชน
ทางด้าน นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังผลกระทบจากพายุ ‘คัลแมกี' ในช่วงวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2568 โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบนที่จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานบริการสาธารณสุขและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้
นพ.วีรวุฒิ กล่าว่า นพ.ย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงมีข้อสั่งการถึงสถานบริการและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มพายุคัลแมกี (KALMAEGI) ดังนี้
1.เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) ระดับจังหวัด และระดับเขตสุขภาพในพื้นที่เสี่ยง เพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด (Alert Level)
2.ติดตามและเฝ้าระวังสภาพอากาศ ประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.วิเคราะห์ความเสี่ยงสถานบริการสาธารณสุขที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะโรงพยาบาลในพื้นที่ลุ่มน้ำเสี่ยง (เจ้าพระยา-ป่าสัก-ชี-มูล) ให้ทบทวนแผนประคองกิจการ แผนสำรองเตียง ระบบส่งต่อ และแผนอพยพของโรงพยาบาล
4.ตรวจสอบระบบสำรองทรัพยากรที่สำคัญ ได้แก่ ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา น้ำดื่มน้ำใช้ระบบสื่อสาร และเวชภัณฑ์ฉุกเฉินให้เพียงพอ
5.เตรียมความพร้อมทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกประเภท ให้การดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
6.เฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพหลังน้ำท่วม และจัดทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤตดูแลสุขภาพจิตประชาชนและเจ้าหน้าที่
7.สื่อสารความเสี่ยงกับประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้รับทราบสถานการณ์แนวทางดูแลสุขภาพ และช่องทางขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และ 8.รายงานสถานการณ์และผลกระทบผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง


ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )













