
หมอนทองวิทยา ทีมฟุตบอล ร.ร.มุสลิมเล็ก ๆ จากฉะเชิงเทรา ที่คนทั้งประเทศส่งใจเชียร์
ที่มาของภาพ : ช่อง 7HD
Article Details
-
- Author, ธันยพร บัวทอง
- Feature, ผู้สื่อข่าว.
จากสนามฟุตบอลที่ชื่อว่า บึงสิงห์สเตเดียม ภายในโรงเรียนมัธยมกลางชุมชนมุสลิมแห่งหนึ่งจาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา สู่การก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เส้นทางของทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยาที่จะลงเตะนัดชิงที่สนามศุภชลาศัย วันเสาร์นี้ คือเรื่องราวที่มาไกลเกินกว่าความฝันของใครหลายคนในทีม
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ น้อยคนที่จะเคยรู้จักทีมฟุตบอลมัธยมฯ ที่ถูกเรียกชื่อเล่นว่า “เซลติกบางน้ำเปรี้ยว” แต่การเอาชนะทีมใหญ่อย่างโรงเรียนเทพศิรินทร์ และอัสสัมชัญศรีราชา ทีมระดับท็อปของวงการลูกหนังขาสั้น ก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า “หมอนทองวิทยา” คือใคร มาจากไหน
นี่ยังไม่รวมถึงลีลา ทักษะการเล่นของผู้เล่นในทีม ที่ไฮไลท์การยิvแต่ละลูกถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียมากมาย และเรื่องราวของการนั่งรถสองแถวสี่ล้อไร้เครื่องปรับอากาศเข้ามาแข่งในกรุงเทพฯ ที่ชาวโซเชียลเรียกกันว่า “รถขนฝัน” ก็ทำให้ชาวเน็ตไทยต่างเอาใจช่วยทีมบอลภูธรทีมนี้
“ตอนแรกในจังหวัด ฉะเชิงเทรา ก็ยังไม่รู้จัก แต่พอเราส่งไปแข่งในนามจังหวัดเรื่อย ๆ เราก็ไปได้แชมป์ทุกรายการมา ก็เริ่มมีคนบอก เฮ้ย มาจากไหนกันวะ หมอนทองเนี่ย” ดร.สุเมธ ริดหมัด ประธานชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา และอดีตครูของโรงเรียนกล่าวกับ.
สนามฟุตบอลที่ล้อมรอบไปด้วยไร่สวนและทุ่งนาแห่ง อ.บางน้ำเปรี้ยว ดินแดนข้าวหอมมะลิ คือที่ ๆ อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา เคี่ยวกรำเด็ก ๆ เหล่านี้จนใกล้จะครบ 4 ปีเต็มแล้ว .พาไปรู้จักว่า “หมอนทองวิทยา” พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน และก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ที่มาของภาพ : ช่อง 7HD
อดีตโรงเรียนสอนศาสนาเอกชน กับชุมชนที่รักกีฬา
กว่า 90% ของนักเรียนโรงเรียนหมอนทองวิทยา เป็นนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลาม ด้วยพื้นเพของชุมชนในอำเภอนี้ซึ่งติดกับเขตหนองจอก กรุงเทพฯ ที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่
ปัจจุบัน หมอนทองวิทยา เป็นโรงเรียนมัธยมที่มีการเรียนการสอนตั้งแต่ ม.1-6 มีนักเรียนกว่า 500 คน มีประวัติการก่อตั้งจากการเป็นปอเนาะสอนศาสนา ๆ เล็ก ๆ มาก่อน ซึ่งมีผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวมุสลิมในพื้นที่ร่วมกันก่อตั้งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปได้พัฒนาเป็นโรงเรียนเอกชนที่สอนทั้งวิชาสามัญและศาสนาไปด้วย โดยมีชื่อว่าโรงเรียนอิสลามฉะเชิงเทราบึงสิงห์ ก่อนโอนย้ายให้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการ (กรมสามัญศึกษาในเวลานั้น) ในปี 2529 และเปลี่ยนชื่อโรงเรียนตามชื่อตำบลหมอนทอง
ดร.สุเมธ ริดหมัด ประธานชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา อดีตครูของโรงเรียน และเป็นเครือญาติของผู้ก่อตั้งโรงเรียน บอกกับ.ว่า เดิมทีเด็ก ๆ ในชุมชนในตำบลหมอนทอง และละแวกใกล้เคียงใน อ.บางน้ำเปรี้ยว เป็นเด็กที่ชอบเล่นกีฬากันอยู่แล้ว มีชื่อเสียงเรื่องฟุตบอลอยู่ โรงเรียนโดยชมรมฟุตบอลที่เป็นเครือข่ายของศิษย์เก่าและคนในชุมชน จึงอยากจะพัฒนาทีมฟุตบอลของโรงเรียนขึ้นอย่างจริงจัง
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed studyingได้รับความนิยมสูงสุด
ได้รับความนิยมสูงสุด
ที่มาของภาพ : ชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา
สำหรับเด็ก ๆ ที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากการมีรองเท้าดี ๆ สักคู่แล้ว คงหนีไม่พ้นการมีสนามฟุตบอลดี ๆ พื้นหญ้าเรียบเนียนเหมือนกับที่เห็นในโทรทัศน์ สนามฟุตบอลนี่เองคือสิ่งแรกที่ ดร.สุเมธ บอกเล่าว่าเป็นจุดเริ่มต้น
“เรามีสนามอยู่ แต่ปรากฏว่าสนามนั้น มันเป็นสนามที่ว่าถึงปีก็มีน้ำท่วม เราเผอิญได้คนมาสนับสนุนเรื่องหญ้า เราก็เลยจัดการท็อปทรายปรับปรุงสนามให้มันเป็นสนามหญ้ามาตรฐาน เขาก็มอบหญ้าให้เราก็เลยทำสนามกัน” ดร.สุเมธ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนเล็ก ๆ แต่ว่าสำคัญ ก่อนที่สนามแห่งนี้จะถูกตั้งชื่อในเวลาต่อมาว่า “บึงสิงห์สเตเดียม”
หลังจากมีสนามบอลดี ๆ ดร.สุเมธ เล่าว่าได้มีการเปิดเป็นชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยาขึ้นในปีถัดมา โดยมีการคัดนักเรียนเข้ามาเป็นสมาชิกทีม ซึ่งมีนักเรียนจากทั้งในพื้นที่และจังหวัดอื่นหลายจังหวัด และก่อสร้างหอพักให้นักเรียนที่เข้ามาเป็นนักฟุตบอล เพราะว่าต้องฝึกซ้อมและเรียนหนังสือไปด้วย
ที่มาของภาพ : ช่อง 7HD
หมอนทองวิทยายุคใหม่ ที่มี อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ คุมทีม
หลังจากนั้นปีต่อมาหรือในปี 2564 หมอนทองวิทยาก็ได้อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชทีมบอลโรงเรียนระดับประเทศ ผู้สร้าง “ยุคทอง” ให้กับ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี พาทีมเข้าชิง ฟุตบอล 7 สี 5 ปีติดต่อกัน และคว้าแชมป์มาครองได้ 3 สมัย เข้ามาเป็นโค้ช
ก่อนหน้านี้ การแข่งขันฟุตบอลรายการหนึ่งได้พา อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ ซึ่งคุมทีมโรงเรียนสุรศักด์มนตรีอยู่ตอนนั้น มายังโรงเรียนหมอนทองวิทยา เพื่อพาลูกศิษย์มาแข่งขัน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ อ.สกล ได้มาเจอกับโรงเรียนจากบางน้ำเปรี้ยวแห่งนี้
การพบกันครั้งนั้นนำมาสู่การทาบทาม อ.สกล มาเป็นโค้ช ซึ่ง ดร.สุเมธ บอกว่าเป็น “ใจที่ตรงกัน” ของทั้งสองฝ่าย
อ.สกล ผู้เป็นโค้ชทีมบอลโรงเรียนระดับประเทศ เหตุใดจึงสนใจโรงเรียนนี้ ประธานชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา กล่าวว่าทั้งความพร้อมของสนาม สถานที่ที่เหมาะกับการฝึกนักกีฬา นัยว่าเป็นที่ที่เหมาะกับการเก็บตัว คือปัจจัยส่วนหนึ่งที่ ดร.สุเมธ บอกว่าโค้ชผู้นี้เลือก
“เราอยากได้อาจารย์ด้วยส่วนนึง แล้วก็อีกส่วนนึง เขาก็เลือกเองด้วย เพราะเขาเอาเด็กมาแข่งที่นี่แล้ว เจอสภาพที่นี่ ก็รู้สึกว่าใจตรงกัน”
ที่มาของภาพ : ช่อง 7HD
ออกล่าถ้วย
หลังจาก อ.สกล เข้ามาทำทีมได้ปีกว่า หมอนทองวิทยาก็เริ่มออกแข่งขันฟุตบอลรายการต่าง ๆ เวลาผ่านไป การพัฒนาทีมเริ่มเห็นผล ถ้วยรางวัลรายการต่าง ๆ มากมาย ทั้งฟุตบอล 7 คน, 11 คน และฟุตซอล ในรุ่นอายุต่าง ๆ “เต็มตู้ไปหมด” อยู่ในห้องของชมรม
ภายใต้การคุมทีมของ อ.สกล การแข่งขันฟุตบอล 7 สี ประจำปีนี้ ไม่มีคำว่าเก็บตัว เพราะพวกเขาซ้อมมาตลอดทั้งปี
“ซ้อมกันปกตินะครับ ซ้อมเช้าซ้อมเย็นแค่นั้น เวลาปกติของการซ้อมคือ 5.00 น. ออกวิ่ง หลังจากนั้นกลับมาก็ทำการวอร์มร่างกาย สัก 7.00 น. เด็กก็เลิก อาบน้ำอาบท่า เตรียมเข้าโรงเรียนหมด เลิกเรียนเย็น16.30 น. ถึงจะลงมือเริ่มซ้อม เย็นก็จะยาวหน่อยอาจจะเลิกสัก 19.00 น. หรือ 20.00 น. เพราะสนามมีไฟเปิดไฟได้ ก็คือทำมาตลอดทั้งปีอยู่แล้ววิถีนี้”
นอกจากนี้ ปัจจัยในการสร้างทีมคือการสร้างให้เด็กมีพลังและความแข็งแกร่ง ที่ต้องเน้นเรื่องอาหารที่กินเข้าไปบำรุงร่างกาย กล้ามเนื้อ รวมถึงวินัยในการฝึกซ้อมและการใช้ชีวิตนอกเวลาซ้อม รวมถึงการปลูกฝังเรื่องความสามัคคีในทีม
“ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องความสามัคคี ที่ร่วมกัน ช่วยกันเล่น เราไม่มีดารา ในทีมทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำประตูได้ทั้งหมด” ดร.สุเมธ กล่าว
ที่มาของภาพ : โรงเรียนหมอนทองวิทยา
ปัจจุบันทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยามีสมาชิก 93 คน ซึ่งมีตั้งแต่วัยน้องเล็กสุดระดับชั้น ม.1 และมีเด็กในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยส่วนหนึ่ง ฝีเท้าที่พัฒนาจากรุ่นสู่รุ่นและการคัดเด็กที่มีแววในช่วง 4 ปีที่มี อ.สกล คุมทีม ทำให้นักฟุตบอลหลายคนได้ก้าวไปเป็นตัวแทนจังหวัดในการแข่งขันกีฬาเยาวชนระดับชาติ
“ตอนแรกเรายังไม่คิดมากมายอะไร เป้าหมายของเราหรือวัตถุประสงค์ทีแรก ก็คือต้องการให้บรรดาเยาวชนในละแวกใกล้เคียงและในพื้นที่มาสนใจกีฬาเพื่อห่างไกลยาเสพติด” ดร.สุเมธ กล่าว และบอกว่าในระยะยาวก็อยากให้หมอนทองวิทยา พัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ต่อยอดไปยังการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพื่อที่จะไปสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเด็กเองด้วย
แต่สำหรับวันนี้ แม้แต่ อ.สกล ก็ยังบอกว่า พวกเขามาไกลเกินกว่าที่ฝันไว้แล้ว จากทีมที่แข่งขัน 500 กว่าทีม อ.สกล เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ในรายงานฟุตบอล 7 สี ตั้งเป้าว่าแค่ทะลุไปรอบ 32 ทีมสุดท้ายก็เป็นที่พอใจแล้ว
“ด้วยหัวใจเกินร้อย ตอนนี้เจอ ใครก็ได้ เรามาไกลเกินกว่าจะกลับบ้านแล้ว เราจะสู้ต่อไป” นี่คือคำพูดจาก อ.สกล ที่กล่าวหลังจบเกมที่ทีมหมอนทองวิทยา ชนะอัสสัมชัญศรีราชา เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
ที่มาของภาพ : ช่อง 7HD
แรงเชียร์จากคนทั้งจังหวัดและโซเชียล
ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยาได้รับการสนับสนุนจากหลายทาง หนึ่งในนั้นคืองบประมาณจากผู้ปกครอง นอกจากนี้ การหลั่งไหลเข้ามาของสปอนเซอร์เพื่อสนับสนุนเงินอัดฉีด อาหาร น้ำดื่ม รถบัสไปชมการแข่งขันจากห้างร้านต่าง ๆ ในจังหวัด ในช่วงสัปดาห์นี้ ก็เป็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“มาปีนี้แหล่ะครับ ที่เกิดกระแสฟีเวอร์” ประธานชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยากล่าว
อดีตครูโรงเรียนหมอนทองฯ ผู้นี้บอกด้วยว่า เขาหวังว่าฟุตบอลจะทำให้โรงเรียนหมอนทองวิทยาเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ที่มาของภาพ : ชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา
“บางคนตอนแรก ๆ เขาคิดว่าโรงเรียนหมอนทองวิทยาอยู่ จ.ระยอง เพราะคำว่าหมอนทองมันคือทุเรียน” ดร.สุเมธกล่าว และว่า “แต่ความจริงหมอนทอง มีที่มาจากเรื่องราวของเสียชีวิตายคู่หนึ่งเก็บทองไว้ในหมอน แล้วหมอนนั้นหายไป แล้วมีคนมาเจอหมอนที่มีทองอยู่ข้างใน คือที่มาของเรื่องนี้จากที่เล่าต่อ ๆ กันมาในตำบล”
สำหรับเป้าหมายระยะสั้น แน่นอนว่าคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียน 7 สีของปีนี้ ส่วนในระยะยาว ดร.สุเมธกล่าวว่า เขาฝันอยากเห็นโรงเรียนพัฒนาก้าวหน้าขึ้น มีนักเรียนมากขึ้นตามการเติบโตของชุมชน พร้อม ๆ กับมีจุดเด่นด้านการกีฬา
“เราเป็นโรงเรียนประจำตำบล ไม่ได้ประจำอำเภอ เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ อยู่กลางท้องทุ่งนา ก็อยากจะให้พื้นที่นี้มีบรรยากาศของฟุตบอลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ดร.สุเมธทิ้งท้าย
ที่มา BBC.co.uk













