
เครือข่าย 39 องค์กร ออกแถลงการณ์คัดค้านการเร่งออกกฎหมายขยายเวลาขาย-ดื่มสุรา ชี้องค์ประกอบคณะกรรมการยังไม่ครบ ย้ำต้องรอบคอบ ไม่ควรเร่งพิจารณา
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีวาระการประชุมเร่งด่วนในวันที่ 13 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณากฎหมายลำดับรอง ซึ่งออกตามความแห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 จำนวนหลายฉบับ และฉบับที่เป็นประเด็นสำคัญ กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน โดยเฉพาะกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568 เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) และภาคีเครือข่าย 39 องค์กร ออกแถลงการณ์ เรื่องคัดค้านการเร่งออกกฎหมายขยายเวลาขาย-ดื่มสุรา ด้วยองค์ประกอบคณะกรรมการฯที่ไม่สมบูรณ์ โดยระบุว่า
ด้วยรัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีวาระการประชุมเร่งด่วนในวันพรุ่งนี้ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณากฎหมายลำดับรอง ซึ่งออกตามความแห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 จำนวนหลายฉบับ และฉบับที่เป็นประเด็นสำคัญ กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน คือ 1. เรื่องกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ 2. เรื่องกำหนดเวลาห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์(ในสถานที่ขายในเวลาห้ามขาย) ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการร้านเหล้า ผับบาร์ ที่อ้างว่าจะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 500,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวจะเดินทางมามากขึ้นจากมาตรการนี้ ฯลฯ
ในการนี้ เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้
การตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลและคณะกรรมการฯ มีความสำคัญมากเพราะจะผูกพันธ์ต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ดังนั้น การเร่งรีบพิจารณาในขณะที่โครงสร้างของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชุดใหม่ ยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่มีการแต่งตั้ง ทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ กรรมการในสัดส่วนของผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงกรรมการผู้แทนสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และสภาการท่องเที่ยว ที่ยังมิได้แต่งตั้ง ซึ่งในการพิจารณาออกกฏหมายลำดับรองทั้งสองฉบับเป็นเรื่องใหญ่มาก จำเป็นต้องรอบคอบ มีข้อมูลที่รอบด้าน ด้วยกรรมการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ร่วมพิจารณา มิใช่ทำตามความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเอื้อประโยชน์ของใคร จึงยังไม่ควรเร่งพิจารณามีมติใดๆ
ในอนาคตที่มีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หากจะพิจารณาเรื่องการห้ามดื่มในสถานที่ขายในเวลาห้ามขาย ตามมาตรา 32 นั้น คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถกำหนดเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใดๆเท่าที่จำเป็นได้อยู่แล้ว หากจะผ่อนปรนในระยะเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมาย อาจพิจารณาให้แค่ร้านอาหาร ผับ บาร์ หรือร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีที่นั่งดื่ม มีพนักงานเสริฟคอยดูแลลูกค้า อาจให้สามารถนั่งต่อได้แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีเงื่อนไข ค่อยๆลดการดื่ม ไม่เร่งดื่มให้หมด ทั้งนี้ผู้ขาย ผู้เสริฟ ต้องดูอาการมึนเมาของลูกค้าเป็นสำคัญ
การกล่าวอ้างตัวเลข 5-6 แสนล้านบาท จากการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกลุ่มผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ เป็นตัวเลขที่เกินเลย ไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก รวมถึงเมื่อขยายเวลาแล้วจะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นก็ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ใดๆ เพราะจากงานวิจัยเก็บข้อมูลของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ก็ไม่พบว่าแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวมากจากการกินดื่มเลย
ขอให้ยกเลิกมรดกบาปของรัฐบาลที่ผ่าน ในการให้สถานบริการใน 5 พื้นที่นำร่อง (กรุงเทพ ชลบุรี จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ และ อำเภอเกาะสมุย) เปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงตี 4 เพราะจากการศึกษาพบว่าได้ไม่คุ้มเสีย อุบัติเหตุเมาแล้วขับเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวอ้าง มีสถานประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นสถานบริการผสมโรง และยากในการบังคับใช้กฎหมาย เกิดการเลือกปฏิบัติ
รายชื่อองค์กรเครือข่ายสุขภาพ
- เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่
- เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.)
- เครือข่ายเยาวชน YSDN (Youth Discontinue Drink Community)
- เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง
- เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน
- เครือข่ายสื่อเพื่อการขับเคลื่อนสังคม (media pass)
- ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน
- เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อสังคม
- เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง
- เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต
- มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว
- กลุ่มละครรณรงค์เฉพาะกิจเธียเตอร์
- มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา
- กลุ่มจิตอาสาพัฒนาเยาวชน
- สมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน
- เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน
- เครือข่ายเยาวชนควบคุมปัจจัยเสี่ยงจังหวัดนครศรีธรรมราช
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคนหนุ่มสาว จ.สกลนคร
- มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
- เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง
- มูลนิธิชีววิถี
- เครือข่ายเยาวชนงดเหล้า จ.สุราษฎร์ธานี
- สมาคมเยาวชนพัฒนาบ้านเกิด
- เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงภาคใต้ตอนล่าง
- สถาบันพัฒนาเยาวชนสืบสานภูมิปัญญาภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี
- เครือข่ายเยาวชนภาคเหนือตอนล่าง
- กลุ่มกล้าแกร่ง จ.พิษณุ
- เครือข่ายนักกฎหมายคืนถิ่น
- เครือข่ายโคราชยิ้ม
- มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล
- มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน
- กลุ่มผู้ถูกเจียระไน
- เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพ
- เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา
- สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
- มูลนิธิวิถีสุข
- มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม
- เครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )













