คุกคนละ 1 ปี 4 ด.  ‘3 ตำรวจ’ ชัยภูมิ ทำร้ายร่างกายบังคับผู้ต้องหารับสารภาพทำเอกสารเท็จ

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม-พวก 2 ราย ทำร้ายร่างกายบังคับผู้ต้องหารับสารภาพ-ทำเอกสารจับกุมเท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี  ทางนำสืบเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษเหลือ 1 ปี 4 เดือน

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหาอดีตผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิกับพวก จับกุมและทำร้ายร่างกาย บังคับผู้ต้องหาให้รับสารภาพแล้วจัดทำเอกสารการจับกุมเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ พันตำรวจโท สมจิต แก้วพรม เป็นจำเลยที่ 1 , ดาบตำรวจสมบัติ พิเศษชีพ จำเลยที่ 2 , จ่าสิบตำรวจ นวพล ปานกลาง จำเลยที่ 3

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า พันตำรวจโท สมจิต แก้วพรม จำเลยที่ 1 ดาบตำรวจสมบัติ พิเศษชีพ จำเลยที่ 2 จ่าสิบตำรวจ นวพล ปานกลาง จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 5 ปี

ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตาม ปอ.ม.78 คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน

นับโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ติดต่อ จากโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ 32/91/2557, 3292/2557 ของศาลจังหวัดขอนแก่น

เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568  มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา

อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม เคยปรากฏชื่อเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีลอบสังหารนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิต เมื่อปี 2563 ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต