หนังสือใหม่เผย 5 เรื่องเบื้องลึก ว่าด้วยบทสัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอานาของบีบีซี

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในบทสัมภาษณ์ที่ประทานแก่รายการพานอรามาของบีบีซี ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ตรัสว่ามี “เราสามคน” ในชีวิตสมรสของพระองค์
Article Records
    • Writer, คัลลัม เมย์
    • Role,
    • Writer, เฮเลนา วิลคินสัน
    • Role,

หลังจากที่รายการพานอรามาของบีบีซี (BBC Panorama) ได้ออกอากาศบทสัมภาษณ์อันอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เมื่อ 30 ปีก่อน ตอนนี้มีหนังสือเล่มใหม่ออกวางแผง โดยเนื้อหาเปิดโปงเบื้องหลังการล่อลวงให้เจ้าหญิงไดอานาประทานสัมภาษณ์ในครั้งนั้น รวมทั้งเผยรายละเอียดถึงปฏิกิริยาตอบสนองของบีบีซี หลังเรื่องดังกล่าวแดงขึ้นมาด้วย

หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “ไดอานารามา” (Dianarama) ซึ่งเขียนโดยแอนดี้ เว็บบ์ เนื้อหาของหนังสือย้อนไปตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในการสัมภาษณ์ดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากเป็นการประทานสัมภาษณ์ครั้งสำคัญที่ทุกคนทราบกันดีว่า เจ้าหญิงไดอานาได้ตรัสว่ามี “เราสามคน” ในชีวิตสมรสของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งปัจจุบันได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สามแล้ว

มาร์ติน บาเชียร์ อดีตผู้สื่อข่าวของรายการพานอรามา สามารถโน้มน้าวให้เจ้าหญิงไดอานายอมประทานสัมภาษณ์ได้สำเร็จเมื่อปี 1995 หลังแสดงเอกสารปลอมที่เป็นรายการเดินบัญชีธนาคารฉบับหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าคนใกล้ชิดของเจ้าหญิงไดอานา ได้รับเงินจากหน่วยข่าวกรองทหาร MI5 ของอังกฤษ

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลใหม่ 5 เรื่อง ที่หนังสือ “ไดอานารามา” นำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนในครั้งนี้

1. น้องชายเจ้าหญิงไดอานาต้องรอนาน 25 ปี กว่าจะเผยความจริงได้

หนังสือดังกล่าวระบุว่า ชาร์ลส์ สเปนเซอร์ หรือ “เอิร์ลสเปนเซอร์” ไม่กล้าออกมาวิจารณ์การสัมภาษณ์ของบาเชียร์ในตอนแรก เพราะไม่ต้องการแสดงความเห็นใด ๆ ที่อาจฟังดูเป็นการตำหนิการตัดสินใจให้สัมภาษณ์ของพี่สาว

เว็บบ์เขียนไว้ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาว่า “หากเอิร์ลสเปนเซอร์ออกมาวิจารณ์บาเชียร์อย่างรุนแรง ก็อาจส่งผลให้เจ้าหญิงไดอานาดูเหมือนเป็นคนโง่ที่ถูกลวงง่าย ๆ ได้ และเมื่อเทียบกับการเปิดเผยความขัดแย้งภายในครอบครัวแล้ว จะเป็นการดีกว่ามากหากท่านเอิร์ลไม่พูดอะไรเลย”

หนังสือ “ไดอานารามา” ยังเปิดเผยว่า เอิร์ลสเปนเซอร์ยอมออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวในที่สุด ในปี 2020 ซึ่งเป็นตอนที่เว็บบ์กำลังผลิตสารคดีว่าด้วยเรื่องการสัมภาษณ์อันอื้อฉาวนี้ เพื่อนำไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของสหราชอาณาจักร (Channel 4)

ระหว่างการถ่ายทำสารคดีดังกล่าว เว็บบ์ได้รับเอกสารจำนวนหนึ่งจากบีบีซี หลังจากได้ยื่นคำขอให้มีการเปิดเผยเอกสารเหล่านั้น ตามข้อกำหนดเรื่องเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เอกสารที่ว่าก็คือรายงานการสอบสวนกรณีการสัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอานา ที่นายโทนี ฮอลล์ ผู้อำนวยการใหญ่ของบีบีซีในขณะนั้น ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายของบีบีซี (BBC Governors)

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด

Stop of ได้รับความนิยมสูงสุด

รายงานการสอบสวนดังกล่าวระบุว่า บาเชียร์ไม่ได้เป็นผู้แสดงรายการเดินบัญชีปลอมให้เอิร์ลสเปนเซอร์ได้เห็น ทว่าเป็นเอิร์ลสเปนเซอร์ต่างหาก ที่เป็นฝ่ายนำรายการเดินบัญชีปลอมดังกล่าวมาให้บาเชียร์ดู

หลังจากได้ทราบถึงผลการสอบสวนข้างต้น ในตอนนั้นเอิร์ลสเปนเซอร์ได้โทรศัพท์มาระบายความโกรธเกรี้ยวกับเว็บบ์เป็นเวลานานถึง 40 นาที ซึ่งตรงกับช่วงเช้าของวันที่สารคดีของเว็บบ์ออกอากาศทางช่อง 4 ของสหราชอาณาจักร

ในการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนั้น เอิร์ลสเปนเซอร์ได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วผู้สื่อข่าวบีบีซีคือคนที่นำรายการเดินบัญชีปลอมมาให้เขาดู ทั้งยังเล่าถึงข้อกล่าวหาแปลกประหลาดต่าง ๆ ที่บาเชียร์กล่าวอ้างให้เขาฟังอีกด้วย

เว็บบ์ยังเขียนในหนังสือเล่มใหม่ของเขาว่า ก่อนที่สารคดีของเขาจะออกอากาศเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาได้พิจารณาตัดสิน “ด้วยสิ่งที่เหนือกว่าสัญชาตญาณเล็กน้อย” ว่าบีบีซีเป็นฝ่ายที่โกหก และเอิร์ลสเปนเซอร์ต่างหากที่พูดความจริง

สำนักพิมพ์ที่จัดทำและวางจำหน่ายหนังสือ “ไดอานารามา” ออกแถลงการณ์ด้วยว่า หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้น “ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากชาร์ลส์ สเปนเซอร์”

ที่มาของภาพ : PA Media

เอิร์ลสเปนเซอร์ น้องชายของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ขณะให้สัมภาษณ์กับลอรา คูนซ์เบิร์ก พีธีกรรายการข่าวของบีบีซี เมื่อปีที่แล้ว

2. มาร์ติน บาเชียร์ “มีทั้งเสน่ห์ดึงดูดและความโหดเหี้ยม”

นอกจากเรื่องนำเอกสารปลอมมาแสดงต่อน้องชายของเจ้าหญิงไดอานาแล้ว หนังสือเล่มใหม่ยังกล่าวถึงการโกหกปั้นน้ำเป็นตัวของบาเชียร์หลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งเขาเคยบอกกับเอิร์ลสเปนเซอร์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของพระราชวงศ์อังกฤษและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในขณะนั้น ซึ่งล้วนไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

เว็บบ์เขียนถึงบาเชียร์ในหนังสือเล่มใหม่ว่า “เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างยากที่จะปฏิเสธได้ แต่ก็โหดเหี้ยมไร้ความปราณีเหมือนคนโรคจิต”

หลังการสัมภาษณ์ครั้งอื้อฉาวดังกล่าว บาเชียร์ลาออกไปทำงานกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ITV) และสื่อมวลชนอเมริกันบางสำนัก เขาหวนกลับมาทำงานในตำแหน่งบรรณาธิการข่าวศาสนาของบีบีซี ในปี 2016 ก่อนจะลาออกอีกครั้งด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพในปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงก่อนจะมีการเปิดเผยผลสอบสวนเรื่องพฤติกรรมของเขาไม่นานนัก

รายงานการสอบสวนดังกล่าว ถูกลอร์ดไดสัน (Lord Dyson) อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าไม่โปร่งใส โดยในปี 2021 ลอร์ดไดสันได้ออกมาวิจารณ์ตัดสินว่า ลอร์ดฮอลล์ (Lord Hall) ผู้ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบาเชียร์ ซึ่งต่อมาได้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของบีบีซีคนหนึ่งนั้น ดำเนินการสอบสวนอย่าง “ไร้ประสิทธิภาพจนน่าเศร้า”

เว็บบ์ยังบอกว่า หากเขาได้มอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายของบีบีซีไปเสีย ตั้งแต่ปี 1996 “เราก็ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่า จะบังเกิดผลกับเจ้าหญิงไดอานาอย่างไร”

โฆษกของบีบีซีออกมาระบุว่า บีบีซีน้อมรับผลการตรวจสอบของลอร์ดไดสันทั้งหมด และขออภัยต่อสาธารณชนจากการมีส่วนรับผิดต่อผลของการตรวจสอบที่ออกมาด้วย

ด้านลอร์ดฮอลล์บอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า เขาไม่มีสิ่งใดจะพูดอีก หลังจากที่ได้กล่าวขออภัยไปแล้ว เมื่อผลการตรวจสอบของลอร์ดไดสันได้รับการเปิดเผยออกมา ซึ่งในตอนนั้นเขายอมรับว่า ผลการสอบสวนพฤติกรรมของบาเชียร์ในปี 1996 “ไม่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของการตรวจสอบที่เราได้กำหนดไว้”

ส่วนโฆษกหรือทนายความของมาร์ติน บาเชียร์ ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อท่าทีดังกล่าวของบีบีซีแต่อย่างใด

บทสัมภาษณ์ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในรายการพานอรามาของบีบีซี ออกอากาศครั้งแรกเมื่อสามทศวรรษก่อน โดยมีนายมาร์ติน บาเชียร์ เป็นผู้สัมภาษณ์

3. เจ้าชายวิลเลียมยังคงต้องการรู้ความจริง

หนังสือ “ไดอานารามา” ยังบอกว่าเจ้าชายวิลเลียม ซึ่งดำรงพระยศเจ้าชายแห่งเวลส์ในปัจจุบัน “ทรงกำลังดำเนินการเพื่อค้นหาความจริง” ในเรื่องการสัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอานาของมาร์ติน บาเชียร์

ที่ผ่านมาเจ้าชายวิลเลียมทรงวิพากษ์วิจารณ์ผู้บริหารของบีบีซีอย่างรุนแรงมาโดยตลอด หลังผลการตรวจสอบของลอร์ดไดสันถูกเปิดเผยออกมา โดยตรัสว่า “พวกเขาพากันเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แทนที่จะลงมือสอบสวนอย่างจริงจัง”

พระโอรสองค์โตของเจ้าหญิงไดอานายังตรัสอีกว่า การประทานสัมภาษณ์ของพระมารดาครั้งดังกล่าว เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระบิดาและพระมารดาของพระองค์ย่ำแย่ลง ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพจิตใจของพระมารดา ซึ่งทำให้ทรงหวาดกลัว, หวาดระแวง, และโดดเดี่ยวอ้างว้างในช่วงก่อนที่จะสิ้นพระชนม์

หนังสือของเว็บบ์ยังส่งคำเตือนถึงบีบีซี โดยบอกว่าแหล่งข่าวนิรนามผู้หนึ่งได้กล่าวเตือนเอาไว้ว่า เจ้าชายวิลเลียมนั้นเป็น “ศัตรูคู่แค้น ที่ไม่อาจจะปลอบใจให้หายอาฆาตได้ง่าย ๆ” และยัง “เตรียมจะกัดไม่ปล่อย” ส่วนทางสำนักพระราชวังเคนซิงตัน ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้แต่อย่างใด

4. นักออกแบบที่ช่วยปลอมเอกสาร ไปร่วมถวายความอาลัยด้วย

แมตต์ วีซเลอร์ นักออกแบบอิสระที่บาเชียร์ขอให้ช่วยปลอมรายการเดินบัญชี เพื่อนำไปโน้มน้าวให้เจ้าหญิงไดอานายอมประทานสัมภาษณ์นั้น ได้รับเงินชดเชยและคำขออภัยจากบีบีซี หลังจากมีการสั่งแบนไม่ให้เขาได้รับงานจากบีบีซีอีก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 1996

หนังสือของเว็บบ์บอกว่า วีซเลอร์รู้สึกผิดบาปอย่างมากต่อเจ้าหญิงไดอานา ดังนั้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุเมื่อปี 1997 เขาจึงไปร่วมถวายความอาลัยด้วยตนเองที่หน้าพระราชวังบักกิงแฮม เช่นเดียวกับชาวอังกฤษจำนวนมาก “ผมไปยืนอยู่หน้าประตูวังตั้งแต่ตีสี่ เพราะรู้สึกเสียใจอย่างมากว่า มีส่วนทำให้พระองค์ต้องเป็นทุกข์เดือดร้อน”

ในเวลาต่อมา วีซเลอร์ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่ามีขโมยลอบเข้าไปในห้องพัก และฉกเอาแผ่นดิสก์บันทึกข้อมูลที่บรรจุเอกสารปลอมที่เขาสร้างขึ้นไปด้วย เขายังบอกอีกว่า หัวขโมยได้ทิ้งอุจจาระกองหนึ่งไว้ในห้องน้ำ เหมือนจะให้เขาดูเป็นที่ระลึกอีกต่างหาก

5. สายสัมพันธ์เชิงเครือญาติ ระหว่างผู้เขียนกับคนของบีบีซีและพระราชวงศ์

เว็บบ์ได้รับแรงบันดาลใจในการผลิตสารคดีทางโทรทัศน์ ซึ่งว่าด้วยเบื้องหลังการสัมภาษณ์อันอื้อฉาวของบีบีซี หลังได้ชมละครเวทีเรื่อง Frost/Nixon ในปี 2006 ซึ่งละครเรื่องนี้ว่าด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ที่อื้อฉาวไม่แพ้กัน ระหว่างเดวิด ฟรอสต์ กับอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯ

ต่อมาเขายังพบว่า มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดบางอย่างของกรณีดังกล่าวแล้วในหนังสือสองเล่ม ได้แก่หนังสือรวบรวมประวัติความเป็นมาของรายการพานอรามา และหนังสือพระประวัติของไดอานา ซึ่งเขียนโดยแอนดรูว์ มอร์ตัน

ในตอนที่เว็บบ์เริ่มลงมือทำสารคดีใหม่ ๆ นั้น เขาบังเอิญได้ตรวจสอบนายจ้างของภรรยา ซึ่งก็คือไดอานา มาร์ติน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองบรรณาธิการของรายการพานอรามา

คริสโตเฟอร์ มาร์ติน บิดาของไดอานา มาร์ติน ยังเคยเป็นผู้ผลิตสารคดีของไอทีวีในปี 1994 โดยร่วมงานกับโจนาธาน ดิมเบิลบี ซึ่งในสารคดีดังกล่าวเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงยอมรับว่า ได้นอกใจพระชายาจริง

แอนดี้ เว็บบ์ ผู้เขียนหนังสือ “ไดอานารามา” ระบุว่าหากไม่มีการออกอากาศสารคดีเรื่องดังกล่าว ก็ไม่แน่ว่าเจ้าหญิงไดอานาจะทรงยินยอมประทานสัมภาษณ์แก่บาเชียร์หรือไม่