
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘ประหยัด ละม่อม' อดีตนายก อบต.ขามเปลี้ย อุบลราชธานี เรียกเงินแลกเปลี่ยนรับเข้าทำงาน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายประหยัด ละม่อม เมื่อครั้งดำรงคตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขามเปลี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เรียกรับเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับเข้าทำงานในสังกัด อบต.ขามเปลี้ย ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 , 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาครา 123/1 , 123/2 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายประหยัด ละม่อม จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดิม) ตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาครา 123/1 , 123/2
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่เนื่องจากอัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 (เดิม) กับอัตราโทษตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 123/2 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด มีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดิม) แต่เพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90
จำคุก 5 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต













