
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ ข้อกำหนดแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสงขลา คลอดมาตรการอพยพประชาชน-ดูแลความสงบเรียบร้อย-ป้องกันการกักตุนสินค้า ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตั้ง อนุทิน นายกฯ ผู้กำกับ ผบ.ทสส. หัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ – ภราดร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ผู้ช่วยผู้กำกับฯ
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ที่เกี่ยวข้องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 พ.ย.68 จำนวน 4 ฉบับ อาทิ การออกข้อกำหนด มาตรการอพยพประชาชน มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย มาตรการป้องกันการกักตุนสินค้า ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถาการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2568 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ฉบับที่ 1 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2568 จำนวน 7 ข้อ อาทิ ข้อ 1 มาตรการอพยพประชาชน ออกจากพื้นที่ไปศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือ พื้นที่ปลอดภัยตามที่ทางการกำหนดเป็นลำดับแรก ข้อ 2 มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อาชญากรรม หรือ ฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ข้อ 3 มาตรการป้องกันการกักตุนสินค้า ไม่ให้ฉวยโอกาสกักตุนหรือขึ้นราคาสินค้า ข้อ 7 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 หรือคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบต้องรับโทษตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 18
ทั้งนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ มาตรา 18 กำหนดว่า ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกาศฉบับเต็มได้ที่ลิงค์: https://ratchakitcha.soc.scurry.th/documents/96308.pdf
ฉบับที่ 2 ประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ส่วนราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายปฏิบัติงาน จำนวน 4 ข้อ อาทิ ข้อ 1 ไม่ได้โอนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามกฎหมายมาเห็นของนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการตามกฎหมายจึงดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ ข้อ 2 ให้หน่วยงานต่างๆ รัฐมนตรีผู้บังคับบัญชา หรือ เป็นประธานกรรมการตามกฎหมายคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะเข้าดำเนินการเอง ข้อ 4 ให้ส่วนราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายยังคงใช้อำนาจหน้าที่เช่นเดิมต่อไปตามหลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรีกำหนด เว้นแต่จะมีประกาศหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ เป็นการออกประกาศ ภายหลังมีประกาศ เรื่อง การโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย จำนวน 38 ฉบับ เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีชั่วคราว
อ่านประกาศฉบับเต็มในลิงค์ : https://ratchakitcha.soc.scurry.th/documents/96307.pdf
@ ตั้ง ‘ภราดร’ ผู้ช่วยผู้กำกับฯ
ฉบับที่ 3 คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 13/2568 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยผู้กำกับการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ให้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ และมีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชา สั่งการส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดจนดำเนินการอื่นตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ทั้งนี้ กรณีมีปัญหาในการปฏิบัติงาน ให้หัวหน้าหน้าผู้รับผิดชอบฯ หารือผู้ช่วยผู้กำกับฯ และรายงานนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
อ่านประกาศฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ : https://ratchakitcha.soc.scurry.th/documents/96218.pdf
ฉบับที่ 4 คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2568 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถาการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) มีนายภราดร เป็นผู้อำนวยการ ศป.กฉ. และมีกรรมการ อาทิ ผบ.ทสส. ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.กองทัพอากาศ) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตำรวจ) ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อธิบดี เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อ่านประกาศฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ : https://ratchakitcha.soc.scurry.th/documents/96217.pdf













