สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียดต่อเนื่อง ทำคนไทยและคนกัมพูชาผู้อาศัยใกล้ชายแดนจำนวนหลายแสนคนต้องอพยพ พลัดที่นาคาที่อยู่ สูญเสียรายได้ จากการปะทะกันทางอาวุธที่ไม่รู้ว่าจะสงบลงเมื่อใด และเช่นเคย กระแสชาตินิยมถูกโหมขึ้นในโซเชียลมีเดียของประชาชนทั้งสองฝั่ง คู่ขนานไปกับมวลความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในสังคมโดยรวม จนกระทั่งวันนี้สองประเทศยัง “ไร้ข้อตกลงหยุดยิv”
ในโอกาสนี้ ประชาไทประมวลความเคลื่อนไหว “ต่อต้านสงคราม” ที่เกิดขึ้นในทั้งสองประเทศ โดยรวบรวมมาจากเท่าที่ปรากฏเป็นสาธารณะ
ในฝั่งไทย ‘กลุ่มไม่เอาสงคราม’ ดูเหมือนจะโดดเดี่ยวยิ่งกว่าครั้งก่อน แต่ยังคงทำกิจกรรมต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งกัมพูชา มีกิจกรรมที่ได้ภาพใหญ่ในหน้าสื่อ คือการเดินขบวน March For Peace ในกรุงพนมเปญ เมืองหลวง โดยมีข้อสังเกตว่ากิจกรรมนี้จัดโดยองค์กรสหภาพยุวชนกัมพูชา (UYFC) ที่ใกล้ชิดกับผู้นำและรัฐบาลกัมพูชา โดยมีประธานองค์กรคือ ฮุน มานี ลูกชายคนเล็กของฮุนเซน

ไทย
กรุงเทพฯ
- อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่กลายมาเป็นผู้ต้องขังในคดี ม.112 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเมื่อ 17 ธ.ค. ว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับสงคราม ผมต้องการสันติภาพ ถ้าความเห็นนี้จะทำให้ใครหลายคนขุ่นข้องใจ ผมต้องขออภัย ผมคิดแบบนั้น และขอแสดงความเห็นไว้ในวันที่ฝุ่นตลบอบอวล“
- มีกิจกรรมประชาชนรวมตัว “ยืนหยุดสงคราม” หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น บริเวณประตูฝั่งเจ้าพ่อมอดินแดง กิจกรรมนึ้จัดขึ้นทุกวันตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.
- เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนหนึ่งโพสต์เล่าทางเฟซบุ๊กของตนเอง โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “วันนี้ขณะ ยืนหยุดสงคราม มีผู้ชายใส่ชุดไลน์แมนขับรถย้อนศรมาด่า ถามว่าพวกมึงเป็นคนไทยไหม พวกเราก็ตอบว่าเป็น เขาด่าว่า “ตอแหล” แล้วพวกมึงมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ พวกเราก็บอกว่ามายืนเรียกร้องสันติภาพ เขาบอกว่ามายืนอะไรตรงนี้มันรก แล้วเขาก็ด่าๆ ไม่ฟังอะไรเลย แล้วยังทำท่าจะควักอะไรออกมา แม้ทางเราจะพยายามยามอธิบายแต่เขาก็มีท่าทีที่กวนและด่าแบบยั่วยุ จนมีสืบจังหวัดนอกเครื่องแบบมาแยกเขาถึงยอมไป แต่เขาบอกว่า “เดี๋ยวKuกลับมาใหม่”
- โพสต์ดังกล่าวระบุต่อไปอีกว่า “นี่เรามาถึงจุดที่การเรียกร้องสันติภาพคือผู้ผิดแล้วหรือ? เราก็ห่วงทุกคนในพื้นที่ ห่วงทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ชายแดนไม่ต่างจากท่าน และนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราทำกิจกรรมเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจให้หาข้อยุติโดยเร็ว ทำไมคุณถึงมองเราเป็นอื่น”
หอศิลป์ กรุงเทพฯ
- ในวันที่ 25 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ จะมีการรวมตัวทำกิจกรรมรณรงค์เรื่องสันติภาพ ผ่านดนตรี กวี และศิลปะ ที่หอศิลป์ กรุงเทพฯ เวลา 17.30-20.00 น.
- ก่อนหน้านั้น มีการจัดงานดนตรีเพื่อสันติภาพไทย-กัมพูชา วันที่ 19 ธ.ค. 68 เวลา 18.00-20.00 น.
- เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 68 “กลุ่มสังคมนิยมแรงงาน” รวมตัวที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC) เมื่อเวลา 15.00 น. เรียกร้องสันติภาพ หยุดยิv หยุดสงครามชายแดน “ไทย-กัมพูชา” ระบุ สงครามเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ 2 ประเทศ และไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สมาชิกสังคมนิยมแรงงาน มองว่า ประชาชนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 800 กม.ใช้ชีวิตเรื่อยกันมาโดยตลอด อาจจะมีข้อพิพาท หรือการทะเลาะเบาะแว้ง แต่ว่าไม่เคยเกิดการปะทะลุกลามเรื่อยมาขนาดนี้ “รัฐบาลรักษาการอย่างอนุทิน ต้องเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในชายแดนขึ้นสู่โต๊ะเจรจา จะต้องไม่มีศwของทหารทั้ง 2 ฝ่าย”
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร. คัตสึยูกิ ทาคาฮาชิ อาจารย์ประจำสถานประชาคมอาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านสงคราม ทั้งการยืนถือป้าย และแขวนป้ายไว้ที่ตนเองขณะกินข้าว เขาเริ่มรณรงค์สันติภาพทุกวันตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. บางวันก็มีคนมาร่วมยืนด้วย
- ก่อนหน้านี้อาจารย์ทาคาฮาชิเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการออกมา call out เมื่อครั้งที่ ดร.พอล แชมเบอร์ส เพื่อนนักวิชาการร่วมสถาบัน ถูกเล่นงานจากคดี ม.112 ทาคาฮาชิเคยให้สัมภาษณ์ประชาไทในครั้งนั้นด้วย อ่านได้ที่นี่
เชียงใหม่
- 13 ธ.ค. 68 “ยืนหยุดทรราช” เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ 151 X ต้านสงคราม ‘No Battle' ไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ลานท่าแพ เชียงใหม่ มีประชาชนรวมตัวกันทำกิจกรรมยืนหยุดทรราช เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้แก่ผู้ต้องขังคดี ม.112 และผู้ต้องขังในคดีการเมืองทุกคน โดยในวันนี้มีประชาชนมาร่วมต้านสงครามไทย-กัมพูชา เรียกร้องให้หยุดยิvและเจรจากันอย่างสันติ โดยระบุว่า สงคราม ไทย-กัมพูชา เป็นสงครามของอีลีท มีการชูป้ายข้อความ อาทิ “ไม่เอาสงคราม”, “No Battle”, “ไม่เอาสงคราม หยุดลวงไพร่ไปเสียชีวิต”, “ขึ้นโต๊ะเจรจา แก้ปัญหาอย่างสันติ”, “หยุดยิv” , “สงครามไม่ใช่ความบันเทิง”
กัมพูชา
พนมเปญ
- เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. มีกิจกรรมเดินขบวน March For Peace เรียกร้องสันติภาพ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีทั้งเยาวชน พระ ข้าราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบละเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีข้อสังเกตว่ากิจกรรมนี้จัดโดยองค์กรสหภาพยุวชนกัมพูชา (UYFC) ที่ใกล้ชิดกับผู้นำและรัฐบาลกัมพูชา โดยมีประธานองค์กรคือ ฮุน มานี ลูกชายคนเล็กของฮุนเซน
- เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พระยอนเซงเยียต (Yon Seng Yeath) ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ชาวกัมพูชาเรียกร้องให้พระภิกษุในประเทศไทย เรียกร้องต่อรัฐบาล กองทัพ และประชาชน ให้ยุติการปะทะทางอาวุธกับกัมพูชา โดยเน้นย้ำถึงความทุกข์ทรมานของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ความขัดแย้ง
เสียมราฐ
- โปรเจค “Work For Peace” ที่ศาลเปรียะองค์เจก เปรียะองค์จอม (ศาลพระองค์เจก พระองค์จอม) ซึ่งเป็นศาลหลักเมืองเสียมราฐ ศิลปินกว่า 50 คนจากจังหวัดต่างๆ ของกัมพูชาร่วมมือกันสร้างภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ 5 เมตร คูณ 30 เมตร โดยพวกเขาหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยสนับสนุนการเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการเพื่อสันติภาพ (ที่มา)











