
“ฉันโทษการติดยาของตัวเองที่ทำให้เสียลูกไป” ด้านมืดของยาสูบทาบาที่ระบาดในผู้หญิงแกมเบีย

- Creator, อาซีซัต โอลาโอลูวา
- Just, ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประจำภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก,
- Reporting from, แกมเบีย
คำเตือน: รายงานชิ้นนี้อาจมีเนื้อหาที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่สบายใจ ชื่อของผู้คนที่เผยแพร่ประสบการณ์ของพวกเขาที่มีต่ออาการเสพติดยาสูบทาบาถูกปรับเปลี่ยน
ไอชาตู (ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกเปลี่ยนเพื่อปกปิดอัตลักษณ์ของเธอ) เป็นแม่หม้ายที่อาศัยอยู่ในประเทศแกมเบีย
เธอบอกกับบีบีซีว่า เธอใช้ยาสูบทาบา (taba) แบบใช้ ๆ เลิก ๆ มาเป็นเวลาถึง 15 ปี และท้ายที่สุดก็เสพติดมัน
ทาบา (Taba) คือชื่อท้องถิ่นของผงยาสูบที่ผู้สูบชายหญิงในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกสูบมานานเป็นเวลาหลายทศวรรษ คนส่วนใหญ่นิยมเสพทาบาด้วยการสูดดมเข้าทางจมูด สูบ หรือเคี้ยว
ทว่าผู้หญิงจำนวนไม่น้อยอย่างไอชาตูจะลอบซื้อทาบาอย่างลับ ๆ ก่อนจะนำผงยาสูบในรูปแบบครีมใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป
เราได้พบไอชาตูที่นั่งอยู่บริเวณหน้าห้องพยาบาลในศูนย์สุขภาพชุมชนแห่งหนึ่ง เธอกำลังเข้าร่วมการประชุมของกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้ทาบา และเธอเล่าว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่เคยเริ่มใช้ทาบา
ซื้อขายกันอย่างลับ ๆ เฉพาะในผู้หญิง
ทาบาถูกจำหน่ายอย่างลับ ๆ ผ่านเครือข่ายผู้ค้าทั่วประเทศ และมักพบได้ตามตลาดท้องถิ่น ซึ่งมีผู้หญิงเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายกระจายอยู่ทั่วประเทศ
สูตรดั้งเดิมของทาบาเปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผงยาสูบถูกผสมร่วมกับสารอื่น ๆ จนกลายเป็นเนื้อครีมหรือเนื้อแป้ง
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุดof ได้รับความนิยมสูงสุด
ตอนที่ไอชาตูตั้งครรภ์ในปี 2021 เธอบอกว่าเธอรู้ดีว่าต้องหยุดใช้ทาบา เหมือนกับที่เธอเคยทำได้ในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ๆ ทว่าครั้งนี้เธอกลับไม่สามารถเลิกใช้มันได้
เธอโทษอาการเสพติดของตัวเองที่นำไปสู่การสูญเสียการตั้งครรภ์ครั้งล่าสุด และเชื่อว่าการใช้ทาบาเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเธอเสียชีวิต
ไอชาตูเดินทางไปพบแพทย์ตอนที่เธอรู้สึกว่าลูกในท้องหยุดเคลื่อนไหว “หมอบอกฉันว่า เด็ก เสียชีวิตแล้ว ดังนั้นพวกเขาต้องผ่าท้อง ตอนที่เขานำร่างลูกของฉันออกมา ผิวของเขาเหมือนจะไหม้ ฉันรู้เลยว่าทาบาที่ฉันใช้คร่าชีวิตลูกของฉัน” เธอกล่าว
คำกล่าวอ้างของเธอไม่ได้ถูกพิสูจน์ทางการแพทย์ ทว่าไอชาตูเล่าว่าเธอมักจะมีความรู้สึกถึงอาการปวดแสบปวดร้อนภายในช่องคลอดของตัวเองตอนที่เธอใช้ทาบา
ไอชาตูเล่าว่าเธอเริ่มใช้ทาบาเมื่อหลายปีก่อนเพราะคิดว่ามันจะช่วยให้เธอลดน้ำหนักและมีลูกได้ แต่ยาสูบชนิดนี้กลับไม่ได้ช่วยเธอแม้แต่เรื่องเดียว
“ตอนที่ทาบาเข้าสู่ร่างกายคุณ มันจะควบคุมและบงการคุณ คุณต้องใช้มันไปเรื่อย ๆ เพื่อให้รู้สึกปกติ ทาบาทำให้ฉันผ่อนคลาย มันช่วยลดความต้องการมีเพศสัมพันธ์ของฉันลง” ไอชาตูกล่าว
“ฉันเสพติดการใช้มัน และใช้มัน 3-4 ครั้งต่อวัน”
“ฉันหยุดใช้ทาบาหลังจากที่สูญเสียลูกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าฉันเป็นมะเร็งปากมดลูกแล้ว” เธอกล่าว พร้อมอธิบายว่า ในที่สุดเธอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อสองปีก่อน
ในอีกพื้นที่หนึ่ง เราได้พบกับ ราชิดา (นามสมมติ) นั่งอยู่ใต้ร่มเงาต้นมะม่วง เธอเป็นผู้ใช้ทาบาอีกคนหนึ่งและบอกกับบีบีซีว่า เธอใช้ทาบามานานถึง 7 ปีแล้ว โดยสามีของเธอไม่รู้เรื่องนี้เลย
เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตอนที่เล่าว่าอาการเสพติดได้เข้าครอบงำชีวิตของเธออย่างไร
เธอนึกถึงพี่สะใภ้ผู้ล่วงลับที่เสียชีวิตในโรงพยาบาล โดยเธอเล่าว่า “ฉันต้องเฝ้าเธออยู่สามวัน แต่ฉันลืมเอาทาบาไปด้วย ฉันอยากได้มันมากจนไม่สามารถมีสมาธิทำอะไรได้เลย”
ระหว่างเดินไปบ้านของผู้ขายเพื่อซื้อทาบามาเพิ่ม เธออธิบายว่า สารเสพติดชนิดนี้ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเธอไปแล้ว
ผู้หญิงที่บีบีซีได้พูดคุยด้วยบอกเราว่า การใช้ทาบาทางช่องคลอดเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมากสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก
“ครั้งแรกที่ใช้ ฉันเป็นลมนานกว่าหนึ่งชั่วโมง และสาบานว่าจะไม่ใช้มันอีก พอใช้ครั้งที่สอง ฉันก็อาเจียนอย่างหนัก แต่คนที่แนะนำทาบาให้ฉันบอกให้ใช้ต่อไป บอกว่ามันกำลังช่วยล้างพิษออกจากร่างกาย” ไอชาตูกล่าว
ราชิดาเห็นด้วย “ฉันรู้สึกเวียนหัว ตัวสั่น เหมือนเป็นมาลาเรีย หลังจากนั้นก็เป็นลม” เธอบอกว่าประสบการณ์ในวันที่สองก็ไม่ต่างกัน “แต่พอถึงวันที่สาม ทุกอย่างกลับรู้สึกเป็นปกติ”

ผู้ขายทาบามักซ่อนสินค้าของตัวเองไว้ โดยนำของอย่างอื่นมาวางขายบังหน้า ขณะที่ผงทาบาถูกเก็บซ่อนไว้ พวกเขาจะขายสารเสพติดนี้ให้กับลูกค้าที่รู้รหัสลับบางอย่างเท่านั้น นอกจากนี้ ทาบายังถูกส่งต่อกันภายในเครือข่ายของผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิงสูงอายุในชุมชนชนบท
รามัต วัย 56 ปี บอกกับเราว่า เธอแอบขายทาบามาเป็นเวลาสองปีแล้ว ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในภูมิภาคนอร์ทแบงก์
เธออธิบายว่า ส่วนผสมของทาบามักถูกห่อด้วยถุงไนลอน และบางครั้งก็ห่อด้วยกระดาษเพิ่มอีกชั้น เนื่องจากมีกลิ่นแรง ทาบาหนึ่งห่อขายในราคาประมาณ 15 ดาลาซี (ราว 6-7 บาท)
รามัต ซึ่งไม่รู้เลยว่าซัพพลายเออร์ผู้ผลิตและส่งขายผงทาบาใช้ส่วนผสมอะไรในทาบาบ้าง รามัตบอกว่าธุรกิจของเธอกำลังไปได้ดีมาก โดยเธอได้กำไรราว 200% จากทาบาผง ทุก ๆ หนึ่งถังขนาด 5 ลิตรที่ขายออกไป
เธอเล่าว่า ตอนที่เริ่มขายในช่วงแรก เธอไม่รู้เลยว่าทาบาจะทำให้เสพติดได้มากขนาดนี้
“ถ้าฉันมีธุรกิจอื่นที่ทำกำไรได้ ฉันจะเลิกขายทาบา เพราะฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว”
รามัตเล่าว่า เธอเคยใช้ทาบาเพียงครั้งเดียวเพื่อรักษาการติดเชื้อ แต่เกือบเอาชีวิตไม่รอด
“ตั้งแต่วันนั้น ฉันไม่เคยใช้มันอีกเลย ลูกค้าบางคนก็บอกฉันว่าพวกเขาเจอประสบการณ์แบบเดียวกัน”

เครือข่ายสายการผลิตนานาชาติ
ทางการเชื่อว่าเครือข่ายจัดจำหน่ายทาบาขยายออกไปไกลเกินกว่าแค่ภายในประเทศ โดยผู้ขายบางรายจัดหาสินค้ามาจากประเทศกินี-บิสเซา เซียร์ราลีโอน และแคว้นกาซาม็องส์ทางตอนใต้ของเซเนกัล
รัฐบาลแกมเบียประกาศให้ทาบาเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงตั้งแต่ปี 2020 ทว่าในทางปฏิบัตินั่นแทบไม่มีผลอะไรเลย เนื่องจากยังไม่มีการดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อยับยั้งทั้งผู้ขายและผู้ใช้
แม้การใช้ทาบาจะไม่ถือว่าผิดกฎหมายโดยตรง แต่กฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำในการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบไว้ที่ 18 ปี และกลุ่มภาคประชาสังคมอย่างมูลนิธิสุขภาพแม่ (Moms' Health Foundation) รวมถึงกระทรวงด้านสตรีและเพศภาวะ แสดงความกังวลว่า เด็ก ๆ ก็อาจกำลังใช้ทาบาด้วยเช่นกัน
“รัฐบาลตระหนักดีว่าทาบาเป็นสารที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของผู้หญิงในแกมเบีย และเรามีความมุ่งมั่นที่จะออกกฎหมาย มาตรการ นโยบาย และโครงการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้” คาจาลี ซองโก รองปลัดกระทรวงกิจการสตรี เด็ก และสวัสดิการสังคมของแกมเบีย กล่าว
ดร.ไบ ชาม นักระบาดวิทยาจากหน่วยวิจัยของสภาวิจัยทางการแพทย์ (Scientific Compare Council) ในแกมเบีย ได้เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของทาบาต่อร่างกายในปี 2023 โดยทีมวิจัยพบว่า ทาบา “มีแนวโน้มก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ” จากองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับผลกระทบของยาสูบไร้ควันชนิดอื่น ๆ
นอกจากนี้ ดร.ชาม ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ทางเคมีของตัวอย่างส่วนผสมทาบา เพื่อใช้ในการวิจัยเพิ่มเติม
ระหว่างการศึกษานี้ เขาได้สัมภาษณ์ผู้หญิง 42 คน และผู้ชาย 15 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคู่ครองของผู้ใช้ทาบาทั้งในปัจจุบันหรืออดีตผู้ใช้
เขากล่าวว่า ผู้หญิงมากกว่า 90% ที่เขาพูดคุยด้วยมีอาการของภาวะพิษจากนิโคติน ซึ่งรวมถึงอาการอาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะราดโดยไม่สามารถควบคุมได้ อาการแสบร้อน และการระคายเคือง
ผู้หญิงบางคนที่เขาสัมภาษณ์ยอมรับว่าได้ผสมผงยาสูบของตนกับโซดาไฟ
ทีมวิจัยยังพบว่า ตัวอย่างทาบาที่นำมาตรวจมีระดับนิโคตินสูง รวมถึงมีสารก่อมะเร็งในยาสูบที่เรียกว่า ไนโตรซามีนจำเพาะของยาสูบ (TSNAs) ในปริมาณสูงด้วย

บีบีซีได้นำตัวอย่างทาบาเพิ่มเติม ซึ่งเก็บมาจากเมืองเอสเซา (Essau) และบันจูล (Banjul) ไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยลากอส
ผลการตรวจพบสารกลุ่มไพริดีน (pyridine derivatives) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารนิโคติน รวมถึงพบระดับสารตะกั่วที่สูงเกินขีดจำกัดความปลอดภัยที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลแกมเบียได้ใช้บุคลากรทางการแพทย์และนักเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านการใช้ทาบาในชุมชนและศูนย์สาธารณสุขทั่วประเทศ
นายซอนโก จากกระทรวงกิจการสตรี ระบุกับบีบีซีว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาโครงการให้ข้อมูลและการรณรงค์เชิงนโยบายขึ้นมาแล้ว
แกมเบียยังเริ่มก่อสร้างศูนย์บำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งแรกของประเทศเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าศูนย์ดังกล่าวจะรองรับผู้ใช้ทาบาหรือไม่
ระหว่างที่ทางการกำลังพิจารณาขั้นตอนต่อไป อดีตผู้ใช้ทาบาอย่างไอชาตูกำลังรณรงค์ต่อต้านทาบาในระดับรากหญ้าภายในชุมชนของตนเอง
“ฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนต้องเผชิญกับสิ่งที่ฉันเคยเจอ”
ด้านราชิดาก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน และหวังว่าสักวันหนึ่งจะเลิกใช้ได้ “ถ้าฉันได้รับความช่วยเหลือ ฉันจะเลิกใช้อย่างแน่นอน ฉันจะไม่แนะนำให้ใครใช้ทาบา เพราะไม่อยากให้พวกเขาติดเหมือนฉัน”
รายงานเพิ่มเติมโดย ยูซุฟ อาคินเปลู













